ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 274

บทที่ 274 ขอความช่วยเหลือในการรักษา

“เชิญพระชายา จวิ้นจู่อยู่ข้างในเพคะ”

ตงเอ๋อคอยเดินตามราวกับว่ากลัวอันหลิงหยุนจะวิ่งหนีไป แล้วจึงเชิญอันหลิงหยุนเข้าไปข้างใน

อันหลิงหยุนเดินเข้าไปข้างใน ค่อยๆมองลอดเขาไป เหมือนกับเดินเข้าไปในมืองชายอย่างไรอย่างนั้น ทุกคนล้วนจ้องมองมาที่นาง

เมื่อเข้าไปถึงข้างใน อันหลิงหยุนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นสักหน่อย เมื่อเห็นหยุนโล๋ชวนจึงเดินเข้าไปหา

หยุนโล๋ชวนกำลังใส่เสื้อผ้า นางนอนหลับไปเป็นเวลานาน นางรู้สึกง่วงนอนอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถกินได้เยอะอีกด้วย

เมื่อแม่นมเว่ยเห็นอันหลิงหยุนก็รีบทำความเคารพ: “ถวายบังคมพระชายาเสียน”

“แม่นมไม่ต้องมากพิธี”

“พระชายาเสียน” หยุนโล๋ชวนเหมือนกับนกนางแอ่นตัวน้อยก็ไม่ปาน อดไม่ไหวที่จะบินเข้ามาหาอันหลิงหยุน ดีใจยังกับอะไรดี

“เจ้าทำอะไรช้าๆหน่อย ข้าจะนั่งเพียงสักครู่ เจ้าจัดการเรื่องของเจ้าให้เสร็จก่อนเถอะ” อันหลิงหยุนอยากจะกลับเร็วสักหน่อย ไม่อยากอยู่ต่อนัก

หยุนโล๋ชวนรีบเก็บของให้เรียบร้อย แล้วเดินเข้าไปหาอันหลิงหยุน แล้วนั่งลงอย่างไม่ค่อยระวังนัก และถามว่า: “พระชายาเสียน ทำไมถึงมีเวลามาเยี่ยมข้าได้?”

“ข้ากลับไปกินข้าวที่บ้านตัวเองมา ผ่านมาทางนี้จึงได้แวะเข้ามาเยี่ยม อีกประเดี๋ยวจะต้องไปทำธุระต่อ คงจะต้องรีบกลับเร็วหน่อย” อันหลิงหยุนรีบพูดก่อน เพราะรู้ว่าตนเองไม่สามารถอยู่ต่อได้

หยุนโล๋ชวนไม่ได้สนใจสักนิด: “แม่นมเว่ย อีกประเดี๋ยวพวกเราจะกินหม้อไฟกัน ข้าจะเชิญพระชายาเสียนกิน”

เมื่อได้ยินคำว่าหม้อ อันหลิงหยุนก็นึกขึ้นได้ว่าที่นี่ก็มีหม้อไฟเหมือนกัน

“หม้อไฟไว้ก่อนเถอะ ข้าเองก็เพิ่งจะกินอิ่มมาไม่นาน ไม่ต้องสนใจข้าหรอก ข้าเองก็จะกลับแล้ว” อันหลิงหยุนลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ แต่หยุนโล๋ชวนกลับดึงนางไว้ มีเรื่องที่จะขอร้องนาง

“พระชายาเสียน ข้ามีเรื่องอยากขอร้องท่าน” หยุนโล๋ชวนลุกขึ้น แล้วเอามือประสานขึ้นไว้เหนือหัว

อันหลิงหยุนเห็นดังนั้นก้รู้สึกกลัวเล็กน้อย ที่นี่มีธรรมเนียมปฏิบัติมากมาย ธรรมเนียมหนึ่งอย่างก็แสดงความหมายหนึ่งอย่าง อีกทั้งธรรมเนียมที่ปฏิบัติอยู่ตรงหน้านี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย จะใช้คำว่าการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์มาอธิบาย ก็คงจะดูไม่มากเกินไป

“ขอพระชายาเสียนทรงช่วยข้าด้วย”

“......” อันหลิงหยุนตกใจอย่างมาก

“มีเรื่องอะไรเจ้ารีบพูดเถอะ อย่าคำนับข้าเช่นนี้เลย” อันหลิงหยุนเอามือที่ประสานกันไว้ของหยุนโล๋ชวนออก หยุนโล๋ชวนจึงยอมนั่งลง

“แม่นมเว่ย พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าขอคุยอะไรกับพระชายาเสียนสักสองสามประโยค แค่สองสามประโยคเท่านั้น”

แม่นมเว่ยพยักหน้า แล้วจึงพาคนออกไป

อันหลิงหยุนรอจนคนออกไปหมดจึงได้เริ่มถาม: “เจ้าพูดเถอะ”

“พระชายาเสียน ข้าอยากให้ท่านช่วยไปตรวจดูอาการมดลูกเย็นของพระชายาตวนหน่อย ไม่ทราบว่าจะดีหรือไม่?” เมื่อหยุนโล๋ชวนพูดเช่นนั้น อันหลิงหยุนกรู้สึกแปลกใจ

“อยู่ดีๆ ทำไมเจ้าจึงอยากช่วยนาง?” อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ

หยุนโล๋ชวนลังเลสักพัก: “ช่วงก่อนหน้านี้ท่านอยู่ข้างนอก ข้าแพ้ท้องหนักมาก ได้พระชายาตวนที่คอยช่วยเหลือข้า ถ้าหากข้าไม่รู้จักตอบแทน ก็ถือเป็นคนที่ลืมบุญคุณคน

ตอนที่แพ้ท้องนั้นทรมานอย่างมาก เป็นเพราะได้ยาอาการแพ้ท้องของนางช่วยข้าเอาไว้ มิเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ข้าจะเป็นอย่างไร

อันหลิงหยุนไม่รู้ว่าควรจะดีใจกับความใจดีมีเมตตาของหยุนโล๋ชวนดี หรือว่าควรจะกังวลเกี่ยวกับความคิดของนางดี

“นางช่วยเจ้าเป็นเพราะนางมีจุดประสงค์ในการช่วย หรือเจ้าลืมไปแล้วว่า พวกเจ้าหากใครให้กำเนิดบุตรก่อน คนคนนั้นก็จะได้เป็นพระชายาตวน?”

“ข้าจำได้ แต่ข้าเองก็ไม่ได้คิดที่จะเป็นพระชายาตวน ประการแรก อ๋องตวนไม่ได้ชอบข้า ประการที่สอง เป็นพระชายานั้นเหนื่อยมาก ในอนาคตยังต้องมีพระชายารองแต่งเข้ามาอีกหลายคน ข้าเองไม่ยินดีที่จะเสแสร้งทำหน้ายิ้มแย้มรับพวกนางเข้ามา ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็คือเข้ามาแย่งผู้ชายกันอยู่ดี สมองของข้ามีปัญหาหรือเปล่า ให้ข้าไปคอยต้อนรับพวกนางเนี่ยนะ?

แต่ในทางกลับกัน หากข้าไม่ใช่พระชายาตวน เป็นเพียงแค่พระชายารอง อย่างมากข้าก็แค่อยู่แต่ภายในตำหนักเซี่ยวเฟิง ไม่ต้องออกไปไหน หากไม่เห็นจิตใจก็ไม่ต้องร้อนรน

มีลูกคนนี้ ข้าจะสอนวิทยายุทธในการรบให้แก่เขา ให้เขาคอยปกป้องฮ่องเต้ จงรักภักดีต่อประเทศต้าเหลียงของเรา เช่นนี้ก็ดีมากแล้วไม่ใช่หรือ?”

อันหลิงหยุนรีบพยักหน้ารับทันที: “ดีมาก”

อดไม่ได้ที่จะถามตัวเอง เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เจ้าจงดูจิตใจของคนอื่นสิ จุนฉูฉูทำไมเจ้าจึงไม่มีจิตใจเช่นนี้?

ช่างเถอะ ช่วยสักครั้งก็แล้วกัน

“เช่นนั้นข้าจะช่วยนาง แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”

“ขอบพระทัยพระชายาเสียน ครั้งเดียวก็พอแล้ว รักษานางให้หายดี ถึงเวลาที่นางและอ๋องตวนโบยบินไปด้วยกัน ถึงตอนนั้นข้าจะอุ้มลูกของข้าไปคอยปกป้องดูแล จงรักภักดีต่อฮ่องเต้และประเทศต้าเหลียง”

หยุนโล๋ชวนแววตาเป็นประกาย อันหลิงหยุนพยักหน้า

เคยเห็นคนโง่ แต่ไม่เคยเห็นที่โง่ขนาดนี้มาก่อนเลย!

“ได้”

ที่ด้านนอกประตู กงชิงวี่กำลังยืนยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูซับซ้อน

แล้วจึงหันหลังกลับ ไม่ได้เข้าไปข้างใน

อันหลิงหยุนออกมาจากพระตำหนักเซี่ยวเฟิงก็คิดที่จะกลับ แต่นางเองก็รู้สึกว่าควรจะช่วยจุนฉูฉู ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฮองเฮาทรงสงสัยนางแล้ว ถึงแม้ตอนที่กำลังทรงพระครรภ์อยู่จะไม่รู้ว่าทำไมหมอหลวงเหล่านั้นต่างก็ดูไม่ออก ทำเพียงแค่อิงตามเวลาของหยุนโล๋ชวนเท่านั้น แต่ถ้าไม่เหมือนกัน ยังไงก็ไม่เหมือนกัน

ฮองเฮาจะต้องทรงสงสัยแน่ๆ

แต่ถ้าหากสามารถรักษาจุนฉูฉุให้หายได้ ก็พอจะอธิบายได้ว่านางรักษาตัวเองให้หายได้แล้ว ส่วนยาพิษเหล่านั้น ใช้ไม่ได้ผลกับนาง และใช้ไม่ได้ผลกับจุนฉูฉูด้วย จึงพูดได้เพียงว่า ยาพิษอาจจะมีปัญหา

ฮองเฮาจะทรงเชื่อก็ดีไม่เชื่อก็ดี ขอแค่นางไม่วางยาพิษซ้ำอีกรอบก็พอ

อันหลิงหยุนตั้งใจเดินช้าๆ ตงเอ๋อไวเหมือนลมกรด เดินเร็วกว่าใครๆ

อันหลิงหยุนเดินตามมาด้านหลัง ไม่อยากจะเดินเร็วก็คงไมได้ แต่อันหลิงหยุนยังไม่ทันจะเดินไปถึงประตูของลานด้านหน้า ก็ถูกคนเข้ามาขวางเอาไว้

“พระชายาเสียนค่อยๆเดิน”

จุนฉูฉูปรากฏตัวขึ้นมาขวางอันหลิงหยุนไว้ อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทำไมคิดไม่ถึงว่าคนที่ขวางไม่ให้นางไปจะเป็นจุนฉูฉู

อันหลิงหยุนลังเลอยู่สักพัก แล้วจึงเอ่ยปากถามว่า: “หาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”

“ท่านกับข้ารู้จักกัน ถึงแม้จะมีความบาดหมางกันเล็กน้อย แต่ท่านและข้าต่างก็เป็นคู่สะใภ้กัน ข้ารู้ว่าวันนี้ข้าพูดเช่นนี้ออกมา อาจจะไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับท่าน แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก้อยากให้ท่านเห็นแก่หน้าข้า ช่วยเหลือข้าหน่อย”

จุนฉูฉูพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว แล้วจะมีอะไรที่อันหลิงหยุนจะไม่เข้าใจอีก

เมื่อคิดถึงความใจดีมีคุณธรรมของหยุนโล๋ชวน แปดสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนแล้วแต่เป็นความต้องการของจุนฉูฉู

“ท่านอยากให้ข้าช่วยท่านรักษามดลูกเย็น?” อันหลิงหยุนเองก็พูดอย่างตรงไปตรงมา

จุนฉูฉูเขยิบเข้ามาใกล้สองสามก้าว: “ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าท่านรักษาไม่ได้ ข้าจึงไม่มีความหวังว่าข้าจะหายดีได้ แต่ตอนนี้ท่านตั้งครรภ์แล้ว ไม่ว่าท่านะอยากช่วยข้าหรือไม่ ข้าก็คิดว่าท่านรักษาตัวท่านเองหายแล้ว ถ้าหากท่านสามารถรักษาตัวท่านเองให้หายได้ เช่นนั้นก็หมายความว่า ท่านสามารถช่วยรักษาข้าให้หายได้เช่นกัน?”

อันหลิงหยุนลังเลอยู่สักครู่: “จะพูดเช่นนี้ก็ได้”

“ก็ดี ขอให้ท่านช่วยข้าหน่อย ข้าเองก็อยากเป็นเช่นเดียวกันกับท่าน มีโอกาสที่จะมีลูกเป็นของตัวเอง ถ้าหากท่านสามารถช่วยข้าได้ ข้าจะยอมคุกเข่าให้แก่ท่าน”

จุนฉูฉูพูดพลางย่อตัวคุกเข่าลง อันหลิงหยุนพูดว่า: “ประคองขึ้นมาเร็ว”

อาหยู่เดินขึ้นไปประคองจุนฉูฉูขึ้นมา นางจึงยังไม่ทันได้คุกเข่าลงไป

จุนฉูฉูลุกขึ้น อันหลิงหยุนพูดว่า: “ในเมื่อเป็นคู่สะใภ้กัน ขอแค่ท่านขอร้องข้าดีๆ ข้าก็ไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆอย่างแน่นอน อีกอย่างข้าเองก็ได้รับการไหว้วานจากคนอื่นด้วย”

“พระชายารองหยุนอย่างนั้นหรือ?” จุนฉูฉูทำสีหน้าไม่ถูก

“หรือจะเป็นคนอื่นไปได้อีกหรือ?”

ลองถามดูผ่านๆ จุนฉูฉูไม่ได้ตอบอะไร อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

ทั้งสองยืนจ้องกันอยู่สักพัก จุนฉูฉูจึงพูดขึ้นก่อนว่า: “ในเมื่อท่านรับปากแล้ว ข้าเองก็วางใจ จะให้ไปที่ท่านหรืออยู่ที่นี่ดี?”

จุนฉูฉูอดใจรอไม่ไหวที่จะรักษาให้หายดี

หยุนโล๋ชวนเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่มีประโยชน์เท่านั้น แต่บุตรที่เกิดจากนางก็ไม่ใช่ลูกของเมียหลวง ขอแค่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ก่อนหยุนโล๋ชวนได้ ทุกอย่างก็ยังคงทันการ

อันหลิงหยุนมองไปรอบๆ: “หากไปที่ข้าก็คงไม่น่าวางใจ ข้าไม่วางใจ ท่านเองก็ไม่วางใจ หลังจากนั้นต้องจ่ายหกหมื่นเหรียญเงินนะ

จวนอ๋องตวนเองก็ถือว่ามีเงินมากมาย คงไม่จำเป็นจะต้องถึงขนาดให้ผู้ชายคนหนึ่งเอาไปโยนน้ำเล่นหรอกใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน