ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 293

บทที่ 293 แปดหมื่นสี่พัน

“ฝ่าบาทโปรดพิจารณา มารดาข้าเป็นสตรีในยุทธภพ คนในยุทธภพต่างก็กันรู้ดีว่าครั้งหนึ่งนางเคยเป็นศิษย์ที่หมอเทวดากู๋ถ่ายทอดวิชาการแพทย์ด้วยตัวเอง

อายุสิบหกมารดาข้ารับคำสั่งอาจารย์ให้ออกจากหุบเขา ไปยังยุทธภพช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เป็นจุดมุ่งหมายของชีวิต

ปีนั้นนางได้พบกับโรคระบาดที่เมืองเล็กๆนั้น โรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วเมืองฟงเฉิง ตอนที่มารดาข้าไปถึงก็มีคนล้มตายไปไม่น้อยแล้ว นางจึงตั้งใจช่วยเหลือผู้คน บังเอิญในปีนั้น ราชสำนักส่งลูกชายหมอหลวงป๋ายป๋ายจิ้งหยวน ซึ่งก็คือพ่อข้าให้ไปช่วยบรรเทาภัยพิบัติที่เมืองฟงเฉิง แต่ในปีนั้นความสามารถของป๋ายจิ้งหยวนยังอ่อนด้อย ทักษะทางการแพทย์ยังไม่ได้ยอดเยี่ยมมาก บวกกับถึงแม้หมอหลวงป๋ายจะเป็นตระกูลหมอเทวดา แต่ก็แค่บังเอิญเคยรักษาฮ่องเต้ไท่จู่จนหาย ฮ่องเต้ไท่จู่ก็เลยแต่งตั้งให้เขาเป็นตระกูลหมอเทวดา แต่เขากลับไม่ใช่หมอตระกูลเทวดา

ปีนั้นเมื่อป๋ายจิ้งหยวนไปถึงสถานที่เกิดภัยพิบัติก็ป่วยแล้ว ติดโรคระบาดเหมือนกัน

แต่เขาเป็นผู้รับผิดชอบช่วยบรรเทาภัยพิบัติ แม่ข้าหาเขาเจอ ก็ช่วยรักษาให้เขาก่อน จากนั้นก็ตามอยู่ข้างกายเขาเพื่อช่วยบรรเทาภัยพิบัติด้วยกัน

เวลานั้น ป๋ายจิ้งหยวนสง่าผ่าเผย วาจาไม่ธรรมดา แม่ข้าบอกว่าเขาเกือบตายเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น แม่ข้าก็เลยว่าเขาคิดว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง

วันเวลาผ่านไปทั้งสองผูกพันเกิดเป็นความรัก มารดาข้าเลยตอบตกลงกลับมากับเขา อีกทั้งยังแต่งงานกับเขาด้วย

เพื่อจะได้แต่งกับแม่ข้า ป๋ายจิ้งหยวนก็เคยสร้างความฮือฮาไปทั้งเมืองหลวง หลังแต่งงานแม่ข้าก็ถ่ายทอดวิชาการแพทย์ที่นางร่ำเรียนมาทั้งชีวิตให้กับป๋ายจิ้งหยวน

และป๋ายจิ้งหยวนก็ฉลาดมาก ใช้เวลาหนึ่งปีก็เรียนรู้ทุกอย่างจนหมด

เวลานั้น แม่ข้าก็ให้กำเนิดข้า

และในขณะเดียวกันน้องสาวลูกเมียน้อยพ่อของข้าก็ถือกำเนิดเช่นกัน นางกับข้าอายุต่างกันแค่เดือนกว่า

แม่ของนางคือเมียน้อยที่พ่อข้าเลี้ยงดูไว้ข้างนอก

แม่ของข้าคือคนในยุทธภพ นางไม่ใช่ลูกสาวคนธรรมดา ตอนที่นางแต่งกับพ่อของข้าก็คิดว่าจะมีแค่กันและกันตลอดชีวิต และป๋ายจิ้งหยวนก็ให้คำมั่นสัญญาด้วยตัวเอง

แต่หลังจากที่น้องสาวลูกเมียน้อยพ่อเกิด พ่อข้าก็อุ้มน้องสาวลูกเมียน้อยมาถึงห้องของแม่ข้า สรรหาเหตุผลมากมาย บีบบังคับให้แม่ข้ายอมรับเมียน้อยกับน้องสาวลูกเมียน้อยพ่อ

แม่ข้าหยิ่งในศักดิ์ศรี คิดจะพาข้าจากไป แต่ป๋ายจิ้งหยวนเอายาพิษให้ข้ากิน บีบบังคับให้แม่ข้าอยู่ต่อ

แม่ข้าเห็นแก่ข้าหมดปัญญาไม่สามารถจากไป แต่ก็ไม่อาจทนให้คนที่นางรักทำกับนางเช่นนี้

ใช้ชีวิตทุกวันด้วยความทุกข์ระทม เป็นเช่นนั้นอยู่ไม่ถึงสี่ปี ในตอนที่ข้าอายุสามขวบก็จากไป”

ฮ่องเต้ชิงหยู่คิดพิจารณา เหลือบมองไปที่อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่ที่อยู่ด้านข้าง กงชิงวี่ไม่รู้เรื่องนี้

แต่อันหลิงหยุนฟังแล้วโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่คาดคิดว่าป๋ายจิ้งหยวนจะโหดเหี้ยมขนาดนี้

ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวถาม “เจ้ามีหลักฐานไหม?”

“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่มีหลักฐาน แต่ว่าหม่อมฉันก็จะร้องเรียนอยู่ดี” ป๋ายสู้สู้เพียงแต่กล่าวอย่างใจเย็น ราวกับว่าที่นางร้องเรียนไม่ได้เกี่ยวข้องกับแม่ของนางทั้งหมด

ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวว่า “ไม่มีหลักฐาน ข้าก็ทำอะไรไม่ได้”

“ฝ่าบาท ไม่มีหลักฐาน หลังจากแม่ข้าตาย ป๋ายจิ้งหยวนก็เผาร่างของแม่ข้า ไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า เรือนที่แม่ข้าอาศัยอยู่ก็ถูกไฟเผาจนมอดไหม้”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ฮึเยือกเย็น “กระทำการได้หมดจดดี!”

อันหลิงหยุนกล่าวว่า “ฝ่าบาท ทำไมไม่ลองถามดูว่าหลายปีมานี้ป๋ายซื่อ(ป๋ายสู้สู้)ผ่านมาได้อย่างไรในบ้านนั้น อายุสามขวบนางก็ไม่มีแม่แล้ว”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไป “เจ้าช่างมีน้ำใจกระตือรือร้น ร่างกายตัวเองยังไม่สามารถดูแลได้ ยังเป็นห่วงคนอื่น”

ถึงแม้ฮ่องเต้ชิงหยู่จะกล่าวไม่พอใจ แต่ก็ยังกล่าวว่า “สวีกงกง เอาเก้าอี้ออกมา ให้พวกเขาผัวเมียนั่ง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน