ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 295

บทที่ 295 พี่น้องโกรธกัน

เมืองหลวงโกลาหลกันใหญ่ ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่เวลานี้อันหลิงหยุนยังไม่ออกจากวัง

เรื่องของตระกูลป๋ายส่งให้อันหลิงหยุนจัดการแล้ว แต่ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังไม่ปล่อยอันหลิงหยุนออกจากวัง

ตอนแรกคิดจะให้อันหลิงหยุนตรวจดูสักหน่อย แต่ฮ่องเต้ชิงหยู่เพิ่งจะสังเกตเห็น กงชิงวี่คุมเข้มอันหลิงหยุน ไม่ยอมห่างแม้แต่ก้าวเดียว

เขาก็เลยต้องให้กงชิงวี่อยู่เล่นหมากรุกกับเขา อันหลิงหยุนดูให้เขาจากด้านข้างครู่หนึ่ง

เรื่องของป๋ายสู้สู้เกี่ยวโยงกับผู้คนเยอะเกินไป ทำได้เพียงไปรอที่พระราชฐานด้านนอกก่อน

อันหลิงหยุนรู้สึกไม่ชอบใจมาก ใช้วิธีเช่นนี้เพื่อจะให้นางอยู่ต่อ อดที่จะให้คนดูหมิ่นไม่ได้

อันหลิงหยุนนั่งด้านข้างดูให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ เริ่มต้นสแกนอันหลิงหยุนเก็บมือกลับ มันร้ายแรงขึ้นเยอะ ในวังหลวงเป็นสถานที่มีความลับเยอะเสียจริง คนวางยาพิษก็อยู่ตรงนั้น แต่กลับหาหลักฐานไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เหมือนกับว่ามีคนถูกใส่ร้าย สายตาหลายคู่จับตามองอยู่ก็หาหลักฐานมาชะล้างไม่ได้ ทั้งๆที่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขาถูกปรักปรำ

เดิมทีอันหลิงหยุนดูหมิ่นฮ่องเต้ชิงหยู่ ที่เป็นเพราะเดิมทีก็เพราะช่วงเวลานี้แหละ

แต่วันนี้เห็นพิษของเขาทวีความรุนแรงขึ้น ก็ใจอ่อนอีก

คนที่ถูกพิษคนหนึ่ง ช่างเถอะ ไม่ถือสาหาความกับเขาแล้ว

อันหลิงหยุนปล่อยมือ ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวถาม “เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ฝ่าบาททรงประชวร ต้องพักผ่อนเยอะๆ”

อันหลิงหยุนจะพูดอะไรได้ เป็นเรื่องที่ทั้งสองรู้อยู่แก่ใจดี แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่พูดถึงเรื่องนี้ พูดเช่นไร? พูดอะไร?

ในเมื่อพูดไม่ได้อันหลิงหยุนก็เลยอ้อมผ่านไป

กงชิงวี่วางหมากลงไปหนึ่งเม็ด เตือนว่า “ถึงตาฝ่าบาทแล้ว!” ฮ่องเต้ชิงหยู่ถึงรวบรวมสติกลับคืนมา เอาความคิดไว้บนกระดานหมากรุก

กงชิงวี่เล่นอยู่กับเบี้ยหมากรุก ใบหน้านั้นดูไม่พอใจอย่างมาก

แต่ว่าเขาไม่พูด เพียงแต่ทำหน้าอึดอัด(หน้าบูด)เล่นหมากรุก

กลับเป็นฮ่องเต้ชิงหยู่ “ข้าลองถามใจตัวเองดู ไม่ได้ทำอะไรล่วงเกินเจ้า หน้าเจ้าเช่นนี้ทำให้ใครดู?”

กงชิงวี่ก็ตอบตามความจริง “ต้องทำให้ฝ่าบาทดูอยู่แล้ว ในใจฝ่าบาทไม่ได้คิดเช่นนี้อยู่หรือ?”

“ออ?” ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ไม่ได้โกรธ กับน้องชายคนนี้เขาก็สามารถเข้าใจได้อยู่ อีกทั้งยังรักเขาแบบไม่ลืมหูลืมตา

กงชิงวี่กล่าวต่อว่า “ตอนนี้ข้าไม่มีตำแหน่งอะไร ฝ่าบาทตรัสแล้วไม่คืนคำ กลับให้งานหยุนหยุนทำ หยุนหยุนตัวหนัก เรื่องที่ควรห่วงก็มีมากมายแล้ว”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยิ้มเฉยเมย “งั้นหรือ?”

กวาดมือไปที่กระดานหมากรุกไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ฮ่องเต้ชิงหยู่เลิ้กคิ้วมองไปทางอันหลิงหยุน คำพูดไม่ได้ปกปิด “ถึงแม้ว่าในใจเจ้าจะไม่ยินยอมแค่ไหน ข้าก็ไม่คิดจะอธิบาย คนที่ข้าต้องการ ใครจะมาหยุดยั้งได้ จำไว้นะ มีเพียงข้าอยากหรือไม่อยาก ไม่มีสมควรหรือไม่สมควร แค่นั้นเอง”

ฮ่องเต้ชิงหยูลุกขึ้น เดินผ่านอันหลิงหยุนไป “เสด็จแม่กำลังรอพวกเจ้าไปน้อมทักทายอยู่อย่าให้รอนาน ไปเถอะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดจบก็จากไปก่อน สวีกงกงรีบร้อนเดินตามหลังไป

รอคนจากไปแล้วอันหลิงหยุนก็ไปดูกงชิงวี่ “ท่านอ๋อง......”

“ฮึ!”

กงชิงวี่กวาดเบี้ยหมากทั้งหมดทิ้ง โกรธมากมาย! อันหลิงหยุนตกใจ นิสัยร้ายไปหรือเปล่าเนี่ย

กงชิงวี่ลุกขึ้น “เราไปกันเถอะ”

อันหลิงหยุนไม่พูดอะไรกับเขาอีก ตอนนี้เขากำลังโกรธอยู่ พูดอะไรไปก็เกินความจำเป็น เขาก็ฟังไม่เข้าหูอยู่ดี สู้ไม่พูดดีกว่า

ตามกงชิงวี่ออกจากพระตำหนักจรุงจิต อันหลิงหยุนพาป๋ายสู้สู้ไปด้วย

เวลานี้ฮ่องเต้ชิงหยู่ออกมาจากด้านหลังพระราชฐาน มองนิ่งไปที่เบี้ยหมากที่กระจายเต็มพื้น

สวีกงกงโค้งตัวลง “ฝ่าบาท ที่จริงอ๋องเสียน........”

“ข้าเป็นคนทำให้เขาโกรธเอง แต่ไฟโกรธของเขาก็ยังไม่ใหญ่พอ!”

ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดจบก็หันหลังไปทางด้านหลัง เขาไปดูฮองเฮา

หลายวันมานี้ฮองเฮายังคงป่วยอยู่ต่อเนื่อง เขาเลยอยู่กับฮองเฮาที่วังเฟิ่งหยี แล้วพิษนั้นทวีความรุนแรงขึ้นเล็กน้อยจริงๆ

ยังไงซะเขาก็ยังหวังอยู่ริบหรี่ หากไม่ใช่ก็คงไม่ผิดหวัง

อันหลิงหยุนมาถึงก็หน้าหวางฮองไทเฮาก็น้อมทักทายก่อน ไห่กงกงรายงานเรื่องของป๋ายสู้สู้แล้ว แต่หวางฮองไทเฮาก็ไม่พบ

อันหลิงหยุนก็รู้อยู่แล้ว ในวังยังไงก็มีกฏระเบียบในวัง

หวางฮองไท่เฮาไม่พบก็ต้องมีเหตุผลที่ไม่พบอยู่แล้ว

อันหลิงหยุนน้อมทักทายหวางฮองไท่เฮาเสร็จ หวางฮองไทเฮาก็อยากส่งลูกชายที่กำลังหน้าดำออกไป แต่เวลานี้กงชิงวี่ไม่ยอมห่างจากอันหลิงหยุน ดื้อรั้นขึ้นมา หวางฮองไทเฮาก็ทำอะไรเขาไม่ได้แม้แต่น้อย เลยทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน เรียกอันหลิงหยุนเข้าไปแล้วดูที่ท้องนางอย่างละเอียด

“ไห่กงกงกลับมารายงาน ว่าในท้องเจ้าไม่ได้มีแค่คนเดียว?” สำหรับเรื่องนี้หวางฮองไทเฮามีทั้งความรู้สึกดีใจและกังวล ดีใจเพราะลูกเยอะ เป็นเรื่องที่ดีมาก

กังวลเพราะการคลอดลูกคนเดียวก็อันตรายแล้ว สองคนก็ยิ่งยากเข้าไปอีก

อีกอย่าง ท้องดูแบนเช่นนี้ ก็ไม่เหมือนว่ามีสองคน นอกจากจะอ้วนไปนิด อย่างอื่นดูไม่ออกเลย อย่าให้เป็นการวินิจฉัยผิดพลาดแล้วกัน

อันหลิงหยุนกลับตรงไปตรงมา “ใช่เรื่องจริงหรือเปล่าหม่อมฉันก็ไม่ทราบ แต่ทักษะทางการแพทย์พระชายาจวิ้นเสี้ยวยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้ข้ายังสู้เขาไม่ได้ รอดูต่อไปเถอะเพคะ”

“อืม ก็ทำได้แค่นี้แหละ แต่ว่าเจ้าต้องระวังให้มาก ฮ่องเต้ก็เหลือเกิน รู้ทั้งรู้ว่าท้องเจ้าเป็นเช่นนี้ เขายังให้ตำแหน่งผู้ตรวจสอบคดีภายในกับเจ้าอีก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ความคิดของฮ่องเต้คาดเดาไม่ได้จริงๆ นี่พูดออกไป ยังจะไม่ให้คนหัวเราะเยาะวี่เอ๋อหรือ ก็ไม่แปลกที่เขาจะหน้าดำขนาดนี้”

คำพูดของหวางฮองไทเฮาอันหลิงหยุนเข้าใจดี เรื่องนี้พูดตามตรงคือฮ่องเต้ให้ความกรุณานาง แต่ความเป็นจริงคือให้เหตุผลในการหาช่องว่างให้กงชิงวี่ไปตรวจสอบเรื่องของอ๋องแปด

หวางฮองไทเฮากำลังลองใจนางอยู่

“หม่อมฉันรู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่ว่าฝ่าบาทจะคิดเช่นไร อย่างไรหม่อมฉันก็ต้องพึ่งท่านอ๋อง อย่างมากหม่อมฉันก็แค่เดินตามไปด้วย ร่างกายหม่อมฉันก็ไม่เหมาะแก่การวิ่งเต้นจริงๆ แต่ยังไงเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพราะพระชายาเสี้ยวจวิ้น ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้มีพระคุณของหม่อมฉัน ไม่หากไม่ยุ่งเลยคงไม่ดี

ครั้นจะให้ท่านอ๋องไปยุ่งก็กลัวจะเสื่อมเสียเกียรติ มีท่านอ๋องที่ไหนยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องหลังเรือน

หากหม่อมฉันไป ท่านอ๋องคอยจ้องมองอยู่ด้านข้าง หม่อมฉันก็จะไม่ลนลานตื่นตระหนก”

“อืม ก็ดี พวกเจ้าผัวเมียทำงานด้วยกันก็ข้าวางใจแล้ว”

หวางฮองไทเฮามองกงชิงวี่ครู่หนึ่ง คิดว่าเขากลัวว่าอันหลิงหยุนจะทำงานหนักเกินไปเลยไม่พอใจ เลยมาถามอะไรอีก ส่งพวกเขากลับไปก็ถือว่าสงบเงียบลง

อันหลิงหยุนพาป๋ายสู้สู้จากไป ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลย ขึ้นรถม้าอันหลิงหยุนก็นั่งกับป๋ายสู้สู้ในรถ ส่วนผู้ชายอย่างกงชิงวี่จะเข้าไปนั่งข้างในคงไม่ดีนัก เลยนั่งอยู่ข้างนอก

อาหยู่บังคับรถม้าพาทั้งสามกลับไปพร้อมกัน

ในรถม้าป๋ายสู้สู้กล่าวว่า “ลำบากเจ้าแล้ว”

“มีอะไรลำบากล่ะ เจ้าให้ข้าได้มีงานทำ ข้ากลับดีใจมากด้วยซ้ำ”

“............”

ป๋ายสู้สู้ไม่ได้พูดอะไร อันหลิงหยุนกลับกล่าวว่า “เรื่องของแม่เจ้าข้าจะช่วยเจ้าเอง และก็เรื่องของย่าเลี้ยงเจ้าอีก แต่ฝ่าบาทไม่ได้ถามเรื่องที่อ๋องจวิ้นเสี้ยวเจ้าทำร้ายลูกของเจ้า เรื่องนี้กลัวว่าคงจะยากเสียหน่อย

ฝ่าบาทตั้งใจจะเลี่ยงเรื่องนี้ไป ดูท่าเขาไม่อยากให้ข้าไปคิดบัญชีกับอ๋องจวิ้นเสี้ยว แต่ว่าเจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่ปล่อยอ๋องจวิ้นเสี้ยวไปแน่”

ป๋ายสู้สู้ส่ายหน้า “เรื่องนั้นไม่สำคัญ ลูกคือสิ่งที่เขาให้ เขาเอาออกเองกับมือข้ากับเขาก็ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ส่วนสองเรื่องนั้น ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก”

“ขอบคุณข้าทำไม เจ้าเป็นคนต่อสู้มาด้วยตัวเอง แต่ว่าพรุ่งนี้ข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ เจ้าอย่าเพิ่งใจร้อนไป ข้าจะต้องคืนความเป็นธรรมให้แก่เจ้าแน่”

เรื่องอื่นอันหลิงหยุนอาจไม่ยุ่งได้ แต่เรื่องนี้อันหลิงหยุนยุ่งด้วยแน่แล้ว

ลงจากรถม้าอันหลิงหยุนกับป๋ายสู้สู้เตรียมเข้าไปพร้อมกัน กงชิงวี่ที่เดินอยู่ข้างหน้ากลับหยุดลง

และคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่อ๋องจวิ้นเสี้ยวแล้วยังจะเป็นใครได้อีก?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน