ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 298

บทที่ 298 หนึ่งหมื่นเก้าพันหนึ่งร้อย

อันหลิงหยุนถาม “เรื่องที่เจ้าวางยาพิษลูกสาวตัวเองว่าอย่างไร”

ป๋ายจิ้งหยวนรู้ว่า เรื่องนี้ช้าเร็วก็ต้องมีคนรู้อยู่ดี เขาแค่รู้สึกเกลียด ที่ตอนนั้นไม่ได้โหดเหี้ยมกว่านี้ ยุติชีวิตคนต่ำทรามป๋ายสู้สู้ตั้งแต่แรก

ถึงแม้เขาจะเป็นพ่อ แต่กลับไม่ชอบลูกสาวอย่างป๋ายสู้สู้

หนึ่งคือที่เขาแต่งงานกับแม่ของป๋ายสู้สู้ก็เพื่อทักษะทางการแพทย์ สองคือทุกครั้งที่เขาเห็นป๋ายสู้สู้ก็จะนึกถึงผู้หญิงที่ตายไปแล้วคนนั้น ดังนั้นเขาก็เลยไม่ชอบ เพื่อที่จะทำให้ตระกูลป๋ายมั่นคง เขาเสียสละลูกสาวคนหนึ่ง ผู้หญิงชาวยุทธภพคนหนึ่งได้

พวกเขาไม่มีความผูกพันต่อกันอยู่แล้ว

พูดถึงเรื่องเก่าป๋ายจิ้งหยวนก็ไม่ปกปิดอะไรอีก กล่าวว่า “ข้าวางยาพิษนางจริงๆ แต่ว่าพิษนั้นข้าแก้ไม่ได้หรอก ตอนนั้น ภรรยาข้า(แม่ป๋ายสู้สู้)ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับข้า พูดอย่างไรก็จะออกจากตะกูลป๋ายท่าเดียว ด้วยความโมโหข้าเลยเอายาพิษทุกอย่างของนางกรอกใส่ปากป๋ายสู้สู้ นางเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ข้าคิดว่านางจะตายแล้ว สุดท้ายกลับรอดกลับมาได้ ส่วนยาพิษพวกนั้นมีตั้งสิบกว่ายี่สิบชนิด ข้าไม่รู้เลยว่ามีชนิดไหนบ้างและจะแก้อย่างไร”

อันหลิงหยุนกล่าวด้วยความโมโห “เสือมันยังไม่กินลูก แต่เจ้ากลับกรอกยาพิษยี่สิบกว่าชนิดให้เด็กตัวเล็กขนาดนั้น เจ้ามันสมควรตาย!”

ป๋ายจิ้งหยวนก้มหน้าลง เขาสมควรตาย เขาก็อยู่มามากพอแล้ว

อายุขนาดนี้แล้ว อะไรที่ควรจะเสพสุขก็เสพหมดแล้ว ตายก็ไม่เสียดาย แต่ว่าคนตระกูลป๋ายสองร้อยกว่าชีวิตของเขา จะทำเช่นไรดี?

“พระชายาเสียน ตระกูลป๋ายข้าทุ่มเทแรงกายแรงใจถวายการรับใช้ฝ่าบาทอย่างเต็มความสามารถ พระชายาเสียนโปรดไว้ชีวิตตระกูลป๋ายของข้าเถอะ?”

“ฮึ เจ้าวางใจ ถึงแม้ต้องตายก็จะฝังตระกูลป๋ายเจ้าลงไปด้วย!”

อันหลิงหยุนหันหลังกลับ กงชิงวี่ให้ป๋ายจิ้งหยวนลงลายมือเสร็จสิ้น ถึงตามอันหลิงหยุนจากไป

กงชิงวี่พาอันหลิงหนุนจากไป ไม่ได้ไปรายงานในวัง แต่ไปที่จวนอ๋องจวิ้นเสี้ยว

ระหว่างทางอันหลิงหยุดอดไม่ได้ที่จะโมโห แต่ไม่ว่าจะโมโหอย่างไร อันหลิงหยุนก็ยังใจเย็นลงมาได้ เรื่องบางอย่างไม่ใช่อะไรที่นางจะเปลี่ยนแปลงได้ นางทำได้แค่พยายามช่วยป๋ายสู้สู้ให้ดีที่สุด

กงชิงวี่เจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก กุมมืออันหลิงหยุนเอาไว้ น้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “หากโมโหเช่นนี้ เดี๋ยวก็กระเทือนลูกในท้องหรอก ป๋ายจิ้งหยวนก่อกรรมทำเข็ญมากมาย ย่อมมีวิถีแห่งสวรรค์”

อันหลิงหยุนมองไป “ท่านอ๋องเชื่อวิถีแห่งสวรรค์?”

“ที่ผ่านมาไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ข้าเชื่อแล้ว”

“เพราะอะไร?”

“วิถีแห่งสวรรค์ให้ภรรยาข้ามาหนึ่งคน”

“........”

กงชิงวี่หน้าตาออดอ้อน อันหลิงหยุนก็ยากจะพูดอะไรอีก ถูกเขาหยอกจนยิ้มออกมา

เวลานี้อ๋องจวิ้นเสี้ยวกำลังด่าเย้ยหยันอยู่ในบ้าน ถึงยังไงเขาก็ถูกทุบตีจนน่วมมา เปลี่ยนไปเป็นใครก็ไม่สามารถจะรู้สึกดีหรอก นอกจากนั้นเขายังเป็นถึงอ๋องจวิ้น ใช้ชีวิตหรูหราอยู่สบายตั้งแต่เด็ก ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี(ถูกโอ๋)มาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ทั้งรักและทนุถนอมไม่เคยแม้จะตี นับประสาอะไรกับคนนอก

อ๋องจวิ้นเสี้ยวปวดจะตายอยู่แล้ว นอนตะโกนด่าเย้ยหยันว่าเจ็บอยู่บนเตียงตลอด

แต่ป๋ายชิงชิงที่อยู่ข้างกายก็เอาแต่ร้องไห้อย่างหนัก

เรื่องของตะกูลป๋ายลือกันไปทั่วเมืองหลวง ถึงแม้ว่านางยังไม่ได้รับการแจ้งข่าว แต่คนในจวนอ๋องจวิ้นต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ ยังพูดกันว่าที่อ๋องจวิ้นเสี้ยวเป็นอย่างในตอนนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะตระกูลป๋าย

ป๋ายชิงชิงโอหังอวดดีมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งปกติอยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำก็จะเอาแส้ไปฟาดป๋ายสู้สู้ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้ชอบอ๋องจวิ้นเสี้ยว แต่นางเจ็บใจ ป๋ายสู้สู้มีสิทธิ์อะไรไปแต่งงานกับอ๋องจวิ้น นางกลับไม่มีคนสนใจถามถึง อาศัยความงามที่มี เพิ่มท่าทางดีดดิ้นยั่วยวนอีกหน่อย ไม่ช้าก็ล่อลวงอ๋องจวิ้นเสี้ยวที่หลายใจสำเร็จ

ก็ไม่กี่ครั้ง ก็ตั้งครรภ์ขึ้นมา

ฐานะแม่สูงส่งเพราะลูก เมื่อเข้าจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยว ถึงแม้จะเห็นชัดว่าเป็นเมียน้อย แต่ความจริงนางเหมือนกับแม่ของนาง ดูแลควบคุมจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวเอาไว้

เวลานี้ ป๋ายชิงชิงร้องไห้จนน้ำตานองหน้า เห็นแล้วรู้สึกสงสาร

“อ๋องจวิ้น ลำพังตัวข้าไม่มีอะไร ตามไปตายก็พอ แต่ว่าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของอ๋องจวิ้นท่าน จะทำเช่นไรดี? เขายังไม่ทันได้เกิดเลย ข้าจะยอมให้เขาตามข้าไปเช่นนี้ได้อย่างไร”

อ๋องจวิ้นเสี้ยวก็รู้สึกสับสนมาก เขาต้องรู้สึกเสียดายป๋ายชิงชิงอยู่แล้ว ป๋ายชิงชิงหน้าตาไม่เลว ที่สำคัญคือเอาใจเขาเก่ง

เขานึกเสียดายคือเรื่องจริง

แต่เวลานี้มีผลกระทบมาถึงจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวแล้ว เพื่อผู้หญิงคนเดียวเขาไม่อาจจะให้เสียแผนได้

ผู้หญิงหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ชีวิตมีแค่ชีวิตเดียว

ที่อ๋องจวิ้นเสี้ยวเกลียดที่สุดก็คือป๋ายสู้สู้ รู้อย่างนี้น่าจะรัดคอนางให้ตายตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมีปัญหามากมายขนาดนี้

“อั่ย ข้าก็ยังเอาตัวไม่รอด ถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องไปขอให้ท่านพ่อช่วยขอร้อง แต่เจ้าก็รู้ว่าตระกูลราชนิกุล ไม่สามารถยุ่งเรื่องการเมืองได้ ถึงได้ถูกรังแกเช่นนี้

แต่ชิงชิงเจ้าวางไว้ได้ หากพวกเขามา ข้าต้องปกป้องเจ้ากับลูกแน่ ให้พวกเจ้าแม่ลูกปลอดภัย”

ป๋ายชิงชิงฟังแล้วก็วางใจ โผเข้าไปร้องไห้ในอ้อมกอดร้องไห้ขึ้นมา

แต่ในใจอ๋องจวิ้นเสี้ยวกลับคิดว่า หากนำป๋ายชิงชิงส่งให้อันหลิงหยุนสามารถแลกกับความสงบสุขของจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวได้ เขาสามารถที่จะลองดูได้

ตอนที่อันหลิงหยุนมา ป๋ายชิงชิงหยุดร้องไห้แล้ว แต่นางก็ต้องออกไปต้อนรับอันหลิงหยุนอยู่ดี ถึงแม้ว่าอ๋องจวิ้นเสี้ยวจะบาดเจ็บไปทั้งตัว ก็ไม่มีข้อยกเว้น

คนในจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวออกมา อันหลิงหยุนเห็นป๋ายชิงชิงกับอ๋องจวิ้นเสี้ยวทันที

อ๋องจวิ้นเสี้ยวถูกตีไปไม่เบา อันหลิงหยุนคิดว่าทำไมไม่ตีเจ้าให้ตาย

ส่วนป๋ายชิงชิง ความรู้สึกเกลียดไม่ได้มากขนาดนั้น

ก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าไม่เกี่ยวกับตัวเอง เพียงแต่ว่าอันหลิงหยุนรู้สึกว่า เรื่องระหว่างชายหญิง ผู้หญิงครึ่งหนึ่งผู้ชายครึ่งหนึ่ง

แน่นอนว่าผู้หญิงต้องล่อลวง(อ่อย)ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมและดูดีอยู่แล้ว แต่หากผู้ชายไม่เอาด้วย ก็จะไม่มีปัญหามากมายขนาดนี้

สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นเพราะผู้ชายไม่รักดีไม่ใช่หรือ?

หากว่าไม่มีประกายไฟในใจลึกๆ ทำไมถึงมีประกายไฟส่องสว่างไปเต็มท้องฟ้า?

ดังนั้น ความรู้สึกที่อันหลิงหยุนมองป๋ายชิงชิง ก็แค่เมียน้อยคนหนึ่ง!

ที่นางไม่ชอบที่สุดก็ยังเป็นผู้ชาย

“ข้าคำนับอ๋องเสียน พระชายาเสียน”

“ข้าน้อยคำนับอ๋องเสียน พระชายาเสียน”

อ๋องจวิ้นเสี้ยวพาป๋ายชิงชิงคุกเข่าคาราวะ อันหลิงหยุนเห็นว่าเวลาไม่เช้าแล้ว ถามจบแล้วนางจะได้กลับ

เรื่องอื่นไม่ต้องรีบก็ได้ มีเพียงเรื่องที่เขาเตะจนป๋ายสู้สู้จนแท้งลูก อันหลิงหยุนจะต้องถามให้ชัดเจน

“อ๋องจวิ้นเสี้ยว ข้าถามเจ้า ก่อนหน้านั้นป๋ายสู้สู้เคยมีลูกหรือไม่?”

ท่ายืนอันหลิงหยุนโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีคนจำนวนมากคุกเข่าหมอบคลานอยู่บนพื้น นางยืนอยู่ตรงนั้น ท่ายืนยิ่งโดดเด่นและทรงเกียรติ

กงชิงวี่เป็นพวกปกป้องเมียแบบบ้าคลั่ง โอบกอดคนไว้ในอ้อมแขน ข้างหลังมีคนตามอยู่หลายคน

ไปๆมาๆ เลยมองดูพิเศษกว่าปกติธรรมดา

เวลานี้อ๋องจวิ้นเสี้ยวปวดร้าวไปทั้งตัว เห็นท่าทางทรงพลังนี้เขาก็ยิ่งดูเตี้ยลงไปอีกระดับ ตอนแรกเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เขานึกว่ามันผ่านไปนานมากแล้ว

ได้ยินเวลานี้อดไม่ได้ที่จะมีเหงื่อเย็นออกมาตามตัว

แต่ว่าเขาก็ไม่กลัวอะไร กล่าวเพียงว่า “มีคนหนึ่ง”

“ถ้าอย่างงั้นแล้วเด็กล่ะ?” อันหลิงหยุนถามต่อ

อ๋องจวิ้นเสี้ยวก็ตอบว่า “ข้ากับพระชายามีปากเสียงกัน ไม่ทันได้ระวังเตะนางไปหนึ่งที ใครจะไปรู้ว่าจะแท้งไปเช่นนี้

ตอนนี้ข้ารู้สึกผิดมาก หากไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบของข้า เด็กคนนั้นคงจะวิ่งไปทั่วพื้นแล้ว

พูดแล้วอ๋องจวิ้นเสี้ยวถึงกับร้องไห้ออกมา เช็ดน้ำตาไม่หยุด!

อันหลิงหยุนไม่รู้สึกเห็นใจสักนิด ไม่ควรค่าแก่การเห็นใจ แต่หากอ๋องจวิ้นเสี้ยวพูดแบบนี้ จะตัดสินลงโทษคงเป็นเรื่องยากแล้ว

“อ๋องจวิ้นเสี้ยว ข้าไม่มีความอดทนพอจะมาเสียเวลากับท่าน ยังไงซะท่านก็เป็นถึงอ๋องจวิ้น ข้าก็จะไม่ทำอะไรท่าน แต่ว่าผิดก็คือผิด ถ้าหากว่าท่านไม่พูดความจริงออกมา ข้าก็คงทำได้แค่ลงทัณฑ์สถานหนักกับท่านแล้ว”

อ๋องจวิ้นเสี้ยวกัดฟัน “พระชายาเสียนไว้ชีวิต ข้าเลอะเลือนไปชั่วขณะจริงๆ เรื่องนี้ไปถามพระชายาดูก็ได้ ข้าเสียใจตั้งแต่แรกจริงๆ!”

อันหลิงหยุนมองไปทางกงชิงวี่ ทำอย่างไรดี? กงชิงวี่ตบอันหลิงหยุนเบาๆ ส่งสายตาบอกว่าอย่าเพิ่งใจร้อนไป

“เด็กๆ เอาตัวอ๋องจวิ้นเสี้ยวไปทรมานให้พูด จะต้องให้พูดความจริงออกมาให้ได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน