ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 303

“ท่านอ๋อง”

เห็นอ๋องตวนหยุนโล๋ชวนแปลกใจเล็กน้อย จ้องมองกงชิงหยินนานครึ่งวัน ลุกขึ้นยืนขึ้นมา

สีหน้าอ๋องตวนไม่น่าดูเลย เย็นชามาก หยุนโล๋ชวนคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดแล้ว

ครั้งที่แล้วอ๋องตวนก็ตีจนอ๋องชินจงขาหักไปแล้ว วันนี้จู่ๆก็โผล่มา แล้วยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้อีก นึกกังวลจริงๆ

“พระชายารองทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?” อ๋องตวนก้าวเท้าขึ้นไปที่บันไดศาลาแล้วเข้าไป เดินไปถึงหน้าหยุนโล๋ชวนก้มหน้ามองนาง สายตาเย็นชามองจนหยุนโล๋ชวนไม่หนาวก็ตัวสั่น แต่นางก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร อีกทั้งยังไม่สามารถอธิบายออกมาได้

“ท่านอ๋อง ข้ามาเยี่ยมอ๋องชินจง” เดิมทีหยุนโลชวนก็ไม่ได้กลัวอ๋องตวน เพียงแต่จู่ๆเขาก็โผล่ออกมา บวกกับบรรยากาศที่คุกรุ่นไปด้วยไอสังหาร ต้องทำให้นางรู้สึกประหลาดใจอยู่แล้ว แต่พยายามควบคุมสติเอาไว้ก็ค่อยดีขึ้นมาหน่อย

“หลายวันก่อนข้าบาดเจ็บไม่เห็นเจ้าจะไปเยี่ยม กลับวิ่งมาถึงที่นี่?” อ๋องตวนไม่พอใจ เต็มไปด้วยความโกรธ

เดิมหยุนโล๋ชวนก็ไม่ใช่คนที่เข้าใจความรักลึกซึ้งของชายหญิงอยู่แล้ว จึงไม่เข้าใจความโกรธของอ๋องตวนที่จะคิดบัญชีกับนางสักนิดเดียว

นางจ้องไปที่อ๋องตวน “ท่านอ๋อง ท่านดีขึ้นหรือยัง?”“...........” ถูกถามเช่นนี้อ๋องตวนก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีกเขามาเพื่อขอให้นางเป็นห่วงหรือ?

เห็นว่านางตั้งครรภ์อยู่ อดกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่ถือสาหาความกับนาง

อ๋องตวนหันกลับไปมองอ๋องชินจงที่อยู่ด้านหลัง อ๋องชินจงรีบกล่าวทันที “ไม่ได้พบกันนาน อ๋องตวนสบายดีไหม?”

“มีเจ้าอยู่ข้าจะสบายดีหรือ? ลานใหญ่ของเจ้านี่ช่างดีจริงๆ หากว่าข้าไม่เข้ามา คงไม่รู้ว่าในศาลาของเจ้าได้เตรียมสุราอาหารเอาไว้แล้ว”

ขณะที่กำลังพูดอ๋องตวนก็กวาดไปที่อาหารว่างและผลไม้บนโต๊ะ อ๋องชินจงตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว หน้าซีดเผือด

“อ๋องตวน ท่านเข้าใจผิดแล้ว”

“เข้าใจผิด ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว ไม่ให้พบกับพระชายารองหยุนอีก นี่เจ้าจำไม่ได้แล้ว หรือถือว่าคำพูดข้าเป็นแค่ลมข้างหู?”

ถึงแม้จะดูเหมือนว่านิสัยของอ๋องตวนไม่ใช่คนใจร้อน แต่เขาไม่ใช่คนไม่มีอารมณ์แน่ เขาโกรธขึ้นมา คว้าเอาจานที่เหลืออยู่บนโต๊ะ ขว้างตรงไปยังหน้าประตูของอ๋องชินจง อ๋องชินจงตกใจจนต้องใช้สองมือขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ อ๋องตวนเดินไปก็ทุบตีเขาเลย

หยุนโล๋ชวนตกใจจนหน้าซีดขาว ก้าวเท้ากำลังจะเดินเข้าไป แม่นมเว่ยสายตาว่องไวคว้ามือหยุนโล๋ชวนหยุดนางเอาไว้ “พระชายารองอย่าเพิ่งใจร้อนไป ข้าน้อยมีวิธี”

ช่วงนี้หยุนโล๋ชวนอยู่กับแม่นมเว่ยตลอดทั้งสองเข้ากันได้ดี ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรที่แม่นมเว่ยบอกว่าทำได้ก็ต้องทำได้แน่ๆ

นางรีบร้อนมองไปทางแม่นมเว่ยอย่างตื่นเต้น แม่นมเว่ยกระซิบสองสามคำ หยุนโล๋ชวนรีบพยักหน้า

“เจ็บ แม่นม ข้าเจ็บ........”

หยุนโล๋ชวนจับมือแม่นมเว่ยเอาไว้ สีหน้าแสดงออกว่าข้าทรมานมาก

อ๋องตวนกำลังเตรียมจับอ๋องชินจงโยนออกไป ได้ยินว่าหยุนโลชวนเจ็บ หันหลังกลับไปอยู่ข้างกายหยุนโล๋ชวนทันที

หยุนโล๋ชวนเห็นว่าได้ผล ทำเป็นยืนไม่ไหวในทันที ทิ้งตัวกำลังจะล้มลง อ๋องตวนไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น ก้มตัวแล้วอุ้มนางจากด้านข้าง ก้าวเท้าเดินออกจากจวนอ๋องชินจงโดยตรง

อ๋องชินจงก็ตามออกไป ถึงหน้าประตูถูกอ๋องตวนใช้สายตาขู่จนต้องถอยกลับไป

ขึ้นไปบนรถม้า อ๋องตวนก็รีบร้อนไปยังจวนอ๋องเสียน หนึ่งคือทางนั้นอยู่ใกล้กว่า สองคือเท่าที่อ๋องตวนเห็น ขอเพียงมีอันหลิงหยุนอยู่ คนตายก็สามารถช่วยให้ฟื้นคืนชีพได้ ถึงแม้จะเข้าโล่งแล้ว ฝังดินแล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้รอดกลับมาได้

ในรถม้าอ๋องตวนกอดหยุนโล๋ชวนเอาไว้ตลอด ถึงแม้จะโกรธ แต่ไม่ปล่อยหยุนโล๋ชวนเลย

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไร มีเพียงมือที่จับไว้แน่นของเขาเท่านั้นที่ทำให้ดูออกถึงความตึงเครียดของเขา ถึงอย่างไรก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เป็นพ่อคน เด็กคนนี้เป็นลูกของเขาไม่ผิดแน่ แล้วคืนนั้น เขาก็เป็นสามีของนางครั้งหนึ่งแล้ว

แม่นมเว่ยกลับรู้สึกว่า ไม่ใช่ว่าท่านอ๋องจะไม่มีความคิดนั้น เพียงแต่ว่ายังไม่รู้ใจตัวเองเท่านั้น

นี่ถือเป็นเรื่องดี แม่นมเว่ยตั้งใจจะกราบทูลฮั๋วไท่เฟย รถม้ามาถึงหน้าจวนอ๋องเสียน อ๋องตวนลุกขึ้นอุ้มหยุนโล๋ชวนลงมาจากรถม้า หยุนโล๋ชวนกลับไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

ตอนนี้ควรจะลุกขึ้นมายอมรับผิดดี หรือว่าแกล้งทำต่อไปดี แม่นมเว่ยก็ไม่ได้พูดอะไร หยุนโล๋ชวนที่วิตกกังวลหลั่งเหงื่อเย็นออกมาทั่วร่าง

แม่นมเว่ยดูแลอยู่ด้านข้าง เดินเข้าจวนอ๋องเสียนไป อ๋องตวนอุ้มคนเข้าไปในตำหนักจู๋หยุนโดยตรง สั่งให้แม่นมเว่ยไปเชิญอันหลิงหยุน บอกให้นางรีบมาทันที

แม่นมเว่ยหันกลับไปดำเนินการเรื่องนี้ ก่อนจะไปก็ล็อคกลอนประตูไว้จากด้านนอก ล็อคกลอนประตูไว้ยังเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือไม่ได้ไปเชิญอันหลิงหยุนในทันที แต่กลับยืนรออยู่หน้าประตู

หยุนโล๋ชวนนอนลงไปแล้วมองไปรอบๆเรือน ยังคงเป็นเรือนหลังเดิม เพียงแต่เปลี่ยนเป็นของใช้สำหรับผู้ชายไปบ้าง แต่ว่าเตียงยังเป็นเตียงที่นางเคยนอนก่อนหน้านั้น

อ๋องตวนนั่งลง กุมมือของหยุนโล๋ชวนเอาไว้ ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เขาเพียงแต่ไม่วางใจในร่างกายหยุนโล๋ชวน

“ยังเจ็บไหม?”

ในที่สุดอ๋องตวนก็ถาม หยุนโล๋ชวนพูดโกหกไม่เป็น โดยเฉพาะกับอ๋องตวนแล้ว ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากัน อ๋องตวนคือสามีนาง จะให้นางโกหกหลอกลวง นางก็ต้องทำไม่ได้อยู่แล้ว

หยุนโล๋ชวนหน้าแดงขึ้นมาก็ดึงมือออกแล้วลุกขึ้นนั่ง

“ข้าไม่เจ็บตรงไหนทั้งนั้น ก่อนหน้าเห็นท่านอ๋องจะใช้กำลัง ข้าก็เลยคิดวิธีนี้ออกมา แกล้งทำเป็นว่าข้าป่วย

คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะเชื่อคิดว่าเป็นเรื่องจริง ข้าต้องขออภัยท่านอ๋องมา ณ ที่นี้ด้วย”

หยุนโล๋ชวนลงมาจากบนเตียง กำหมัดข้างหนึ่งแล้วยกมือทั้งสองขึ้นทำความเคารพ ก้มตัวลงไป กราบขออภัยอย่างนอบน้อม

อ๋องตวนมองหยุนโล๋ชวนเย็นชา “ไม่ต้องถาม เรื่องนี้แม่นมเว่ยก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย?”

สาวน้อยไร้เดียงสาอย่างนาง คิดอะไรเช่นนี้ไม่ออกหรอก อ๋องตวนมองทะลุปรุโปร่งแล้ว

หยุนโล๋ชวนกลัวจะทำให้แม่นมลำบาก รีบกล่าวว่า

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่นม เป็นเรื่องของข้าคนเดียว นอกจากนี้แล้วแม่นมเว่ยก็ไม่รู้มาก่อนว่าข้าจะไปพบอ๋องชินจง ท่านอ๋องโกรธที่ข้าไม่รักษาคุณธรรมของหญิงที่แต่งงานแล้ว ทำไมไม่หย่าให้ข้าซะล่ะ วันหน้าก็ไม่ต้องมายุ่งกับข้า ข้าก็จะได้ไม่ต้องทำให้ท่านอ๋องเสียหน้า!”

ได้ยินกะทันหัน บางอย่างที่หยุนโล๋ชวนพูดก็ฟังดูสมเหตุสมผล แต่ว่ายิ่งฟังก็ยิ่งไม่อยากฟัง

อ๋องตวนไปนั่งบนเตียง สะบัดเสื้อคลุมบนตัวคลุมเอาไว้บนเข่า ท่าทางเต็มไปด้วยความสง่าผ่าเผยที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้ จ้องมองหยุนโล๋ชวนอย่างเย็นชาและกล่าวถามว่า “นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“จะหมายความว่าอย่างไรได้ ข้าก็แค่คิดว่า ท่านเห็นข้าก็อึดอัดไม่สบายใจมากมาย แล้วข้าก็เห็นจุนฉูฉูแล้วไม่มีความสุข

เดิมข้าก็ไม่ได้คิดจะแต่งกับท่าน แต่เสร็จแม่เจรจาอย่างยากเย็น ทั้งยังบอกอีกว่านิสัยท่านดีมาก มีความกระตือรือร้นแสวงหาความก้าวหน้าอย่างแรงกล้า ข้าคิดว่าจะหาสามีก็ไม่เกินคนสามชนชั้น หนึ่งคือฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน สองคืออ๋องชินแม่ทัพ สามคือขุนนางชั้นสูงร่ำรวยล้นฟ้า

ข้าต้องไม่กล้าคิดเรื่องของฮ่องเต้อยู่แล้ว คิดว่าข้าก็ไม่มีคุณสมบัตินั้น

ส่วนอ๋องชินกับแม่ทัพ ที่ข้าชอบที่สุดก็คือแม่ทัพ คิดดูสิเวลามีคนออกไปต่อสู้ในสนามรบพร้อมกันกับข้าเป็นเรื่องสง่างามแค่ไหน

ข้าหลวงปกครองที่มีความรู้มาก ข้าไม่ถูกกันกับข้าหลวงปกครอง หากเขาพูดคุยกับข้าอย่างคนมีการศึกษา ข้าอาจจะตีเขาจนน่วมไปเลย

หากเป็นผู้ที่ร่ำรวยล้นฟ้า ข้าก็ดูถูกเขาอีก รู้สึกว่าเขาเหม็นกลิ่นเงินไปทั้งตัว

ชาวบ้านธรรมดาอาจจะกลัวข้า ผู้หญิงตระกูลหยุนของเราล้วนแต่แข็งแกร่งมาก พวกเขาปล่อยข่าวว่า ยอมแต่งกับหญิงพิการ ก็ไม่แต่งกับลูกสาวตระกูลหยุน ลูกสาวของตระกูลหยุน แต่งกลับไปแล้วก็เหมือนแต่งเอาทหารคนหนึ่งกลับไป”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ หยุนโล๋ชวนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ใบหน้าเล็กไม่น่าดูเลย

อ๋องตวนมองหยุนโล๋ชวนครู่หนึ่ง คิดเพียงว่าสมองของสาวน้อยคนนี้มีปัญหา ก็ขี้เกียจจะพูดอะไรอีก

หยุนโล๋ชวนก็กล่าวต่อ “แต่งงานกับท่านอ๋องเดิมทีก็มีความคาดหวังเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าในบรรดาเชื้อพระวงศ์ทำไมจะไม่มีผู้ชายดีๆ

เห็นฮ่องเต้สง่าผ่าเผย เห็นอ๋องเสียนกล้าหาญชาญชัย ถึงแม้ท่านอ๋องจะเทียบพวกเขาไม่ได้ คิดว่าเกิดมาเป็นเชื้อพระวงศ์ ก็ต้องมีคุณธรรมสูงสุดอยู่ไม่น้อยอยู่แล้ว

แต่ว่า ท่านอ๋องกลัวเมียไม่ว่า แถมยังเลอะเลือนอีก ตอนนี้ข้าเป็นห่วงมาก หากว่าลูกเกิดมาแล้วอยู่กับท่านอ๋องทั้งวัน ไม่แน่ว่าเขาจะอาจเหมือนกันกับท่านอ๋อง อ่อนแอเช่นนี้.......”

ไร้ความสามารถสองคำข้างหลังไม่ว่าอย่างไรหยุนโล๋ชวนก็ไม่กล้าพูด แต่อ๋องตวนก็ไม่ใช่คนโง่ เขาฟังออกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน