ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 320

บทที่ 320การแสดงนี้สนุกน่าชมแท้

อันหลิงหยุนปัดๆฝุ่นบนร่างกายตนเอง: "พยุงฮูหยินแก่ขึ้นรถ จำไว้ว่าต้องระวังหน่อยล่ะ มีเข็มเงินอยู่ในขาทั้งคู่ของฮูหยินแก่ ใครก็ตามห้ามทำนางบาดเจ็บ เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งปวง"

แม่นมสวีรีบพูดขึ้นว่า: "ข้ามีวิธีเพคะ พระชายาโปรดวางใจได้"

อันหลิงหยุนมองไป: "แม่นมสวี จากนี้ไปข้าจะไม่พูดอะไร เจ้าก็อย่าได้เรียกข้าว่าพระชายา เจ้าต้องเรียกเขาว่าคนขับรถม้า คนที่เหลืออีกสองสามคน เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วเจ้าก็ไม่รู้จักใครทั้งสิ้นแล้ว ให้เรียกข้าว่าหมอน้อย"

“เพคะ”

“ อีกทั้งไม่ต้องเคารพนอบน้อมข้า ให้เจ้าทำเหมือนว่า ข้าเป็นเพียงหมอที่เจ้าเชิญมาเท่านั้นก็พอ”

แม่นมสวีเองก็เป็นคนรู้เหตุรู้ผล จึงรีบกล่าวตอบรับทันที : "ข้าเข้าใจแล้ว"

อันหลิงหยุนพยักหน้า แม่นมสวีรีบเดินเข้าประตูไป ใช้ไม้ดามหัวเข่าทั้งสองข้างของฮูหยินแก่ให้คงรูปเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยให้คนอุ้มนาง เท่านี้ก็ไม่เกิดความเจ็บปวดแล้ว

อันหลิงหยุนเมื่อเห็นฮูหยินแก่ก็รู้สึกขมขื่นเหลือจะเอ่ย หน้าผิดสีจนดูไม่ได้อย่างหนัก

"ไปกันเถอะ."

หลังจากพูดจบ อันหลิงหยุนก็เดินไปอยู่อีกด้าน ปู้เหวินเข็นรถที่มีกงล้อไม้สองอัน เดินมุ่งตรงไปข้างหน้า

อันหลิงหยุนมองดูฮูหยุนแก่ พลางเอ่ยขึ้นว่า "ท่านอดทนอีกหน่อยนะเจ้าคะ"

"ไม่เป็นไรหรอก ระหว่างทางรอนแรม นอนกลางดินกินกลางทรายจนชินแล้ว กลับยังได้มารับรู้ถึง น้ำใจแท้จริงของผู้คนในประเทศต้าเหลียงที่มอบให้ ทั้งยังได้มาเห็นมาตุภูมิที่สวยงามไม่มีที่สิ้นสุด”

อันหลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออก เห็นฮูหยินแก่เรียบเฉยสงบนิ่งขนาดนั้น ในใจรู้สึกเจ็บปวดไม่หาย

ยิ่งรู้สึกเหมือนการประชันประชดขึ้นทุกที น้ำใจแท้จริงของผู้คน มาตุภูมิที่สวยงามไม่มีที่สิ้นสุด นี่มันเป็นการเปรียบเปรยที่เข้าใจโลกนี้ได้มากขนาดไหนกัน!

ปู้เหวินเข็นรถออกประตู ตัวรถเล็กแคบจึงค่อยเข้าเรือนมาได้ ฮูหยินแก่นอนอยู่บนนั้น ยังดีที่รูปร่างผอมบาง ไม่เช่นนั้นคงจะยิ่งลำบากกว่าเดิม

บนร่างของปู้เหวินสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ ปกติที่อันหลิงหยุนเห็นปู้เหวิน สวมเสื้อผ้าตัวเองจะดูแล้วค่อนข้างผอมเพรียวบาง แต่พอสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ กลับมีกล้ามเนื้อให้เห็นไปทั่วทั้งร่าง แลดูแข็งแรงล่ำสันอย่างมาก

อันหลิงหยุนกวาดตามองครู่เดียว เดินตรงดิ่งไปข้างหน้า

เมื่อเทียบกับกงชิงวี่แล้ว ก็ยังห่างชั้นกันอยู่เยอะ

ทั้งหมดใช้เวลาเดินทางออกจากเรือน ไปถึงยังหน้าประตูกรมอาญาเป็นเวลาไม่น้อย เนื่องจากไม่ได้เดินเร็วนัก ตอนที่ไปถึงที่นั่นก็เลยเที่ยงวันไปแล้ว

ปู้เหวินวางรถเข็นลง เลิกเสื้อขึ้นปัดๆเช็ดๆเสื้อแบบจีนบนตัว พูดขึ้นด้วยสำเนียงของคนต่างถิ่นนอกเมืองหลวงว่า: "มาทำอะไรที่นี่หะ ข้าไม่กลัวคำขู่ของเจ้าหรอก ถ้าเจ้าไม่ให้เงินข้า ข้าจะไม่ไปนะ!"

อันหลิงหยุนเกือบจะกลั้นหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่นางก็รู้ว่าเรื่องนี้ล้วนเป็นกงชิงวี่จัดการมอบหมายมา นางจึงไม่รู้สึกว่ามันน่าขำขนาดนั้นแล้ว

เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบน กงชิงวี่กำลังนั่งอยู่บนนั้นอย่างที่คาดไว้ เล่นหมากรุกไปพลางโบกสะบัดพัดไปพลาง

บนพัดเขียนตัวอักษรสองตัวใหญ่ยักษ์ว่า: หยุนหยุน!

อันหลิงหยุนเกือบหลุดหัวเราะออกมาแล้ว รีบหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว อีตาคนนี้จงใจหาเรื่องเล่นลูกไม้ขายขำอะไรอีกแล้ว

กงชิงวี่ปรายตามองลงไปด้านล่างเพียงครู่สั้นๆ ไม่เดินหมากแล้ว

หวางหวยอันมองลงไปด้านล่าง ถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง ถามด้วยความประหลาดใจ: "เหตุใดหมอผู้นั้นดูไปแล้วช่างคุ้นตายิ่งนัก?"

กงชิงวี่โบกสะบัดพัดน้อยๆ ให้เห็นตัวอักษร หยุน สองตัวตรงหน้าเขา

หวางหวยอันพยักหน้าเงียบ ๆ หันกายกลับมา และจ้องมองลงไปข้างล่าง

แม่นมสวีกล่าวว่า "เจ้าวางใจเถอะ รอให้ข้าได้พบคนผู้หนึ่งก่อน แล้วข้าจะจ่ายเงินให้ หมอน้อยช่วยตรวจดูให้ข้าหน่อยเถิด เจ้านายของข้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"

อันหลิงหยุนเดินเข้ามาตรวจดูอาการ พูดด้วยเสียงต่ำว่า "ยังไหวอยู่ เพียงแต่ต้องกินยาทันที แต่เจ้ายังติดค้างเงินข้าอยู่ ข้าเองก็มีเงินเหลืออยู่ไม่มากแล้ว"

“ วางใจเถอะ รอให้ข้าพบคนผู้หนึ่งแล้ว ข้าจะให้เงินอย่างแน่นอน”

แม่นมสวีพูดจบ มองไปที่ประตูทางเข้ากรมอาญา นางเดินไปเคาะๆที่ประตู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน