บทที่ 334 รักษาอาการที่จวนเฉินเสี้ยง
อันหลิงหยุนออกจากจวนกั๋วจิ้วก็ได้กำชับชัดเจน พรุ่งนี้นางจะมาอีก เวลาประมาณนี้ หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก๊กกู๋ใหญ่พร้อมด้วยลูกชายทั้งสองฟังอย่างตั้งใจ อันหลิงหยุนกำชับเรียบร้อยแล้วจึงหันจากไป มู่มิงหันศีรษะมอง รีบตามอันหลิงหยุนไป
ก่อนขึ้นรถม้าอันหลิงหยุนจึงพูดขึ้น: “จวิ้นจู่หยุดก่อน ข้ายังมีธุระ ไม่ได้กลับจวนอ๋องเสียน ไม่จำเป็นต้องขึ้นรถม้าแล้ว”
มู่มิงสีหน้านิ่ง: “ใครบอกว่าข้าจะไปจวนอ๋องเสียน เจ้าคิดว่ามีดอกไม้เบ่งบานที่ประตูจวนอ๋องเสียนหรือไง ข้าถึงต้องไป?”
ก๊กกู๋ใหญ่และอ๋องจวิ้นเสียนยังอยู่ที่หน้าประตู เมื่อได้ยินคำพูดของมู่มิงใบหน้าก็เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน
ก๊กกู๋ใหญ่ดุ: “มู่มิง เจ้ายังไม่กลับมาอีก อย่าก่อเรื่อง”
“มิงเอ๋อ อย่าสร้างปัญหา กลับมา” อ๋องจวิ้นเสียนเหมือนเล้าโลมเด็กเพื่อต้องการให้มู่มิงกลับไป มู่มิงเหลือบมองอ๋องจวิ้นเสียน แต่ไม่สนใจ ก้าวตรงเข้าไปในรถม้า เปิดม่านรถม้าแล้วเข้าไปข้างใน
อ๋องจวิ้นเสียนดูกังวล มู่มิงหันเหลือบมองอ๋องจวิ้นเสียนและพ่อของนางก๊กกู๋ใหญ่: “พระชายาเสียนและข้าเป็นสหายที่ดีต่อกันแล้ว ข้าออกไปข้างนอกกับนาง ตอนนี้นางมีร่างกายไม่ปกติ ออกไปเช่นนี้ข้าไม่วางใจ ตามออกไปปกป้องนาง”
พูดจบมู่มิงก็เข้าไปข้างในรถม้า อ๋องจวิ้นเสียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ถูกก๊กกู๋ใหญ่ดึงไว้: “ช่างเถิด ให้นางไปเถิด”
อ๋องจวิ้นเสียนรีบโค้งลำตัว: “ท่านพ่อ แม้มิงเอ๋อจะมีใจต่ออ๋องเสียน แต่พระชายาเสียนเป็นผู้มีพระคุณต่อท่านแม่ เอาเป็นว่าเรื่องพระชายารอง……”
“เรื่องการแต่งงานของมิงเอ๋อไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะตัดสินใจเองได้ อ๋องเสียนเป็นอ๋อง เขาอาจจะไม่ยึดติดกับสิ่งนี้ในอนาคต ต่อให้พระชายารองไม่ใช่มิงเอ๋อ ตำแหน่งก็ไม่สามารถว่างได้อย่างแน่นอน
ความคิดของเจ้า อย่าพูดขึ้นอีกเลย”
ก๊กกู๋ใหญ่เหลือบมองรถม้าที่จากไป แล้วหันกลับเข้าไปในจวน
ด้วยความเป็นพ่อ เขาก็ย่อมมีความคิดของเขา มู่มิงคืออัญมณีบนฝ่ามือของเขา จะทำให้ลำบากใจได้อย่างไร
แต่เมื่อมองไปที่เมืองหลวง ยังจะมีผู้ใดสะดุดตามากไปกว่ากงชิงวี่ล่ะ
ลำบากใจบ้างไม่เป็นไร มีเสียก็ต้องมีได้
เขาได้เห็นตัวตนอันหลิงหยุนอย่างชัดเจนแล้ว มู่มิงก็จะไม่เสียเปรียบในอนาคต
มองดูผู้เป็นพ่อจากไปแล้ว อ๋องจวิ้นเสียนทำได้เพียงเดินตามเข้าไป
หลิงหยุนเอนตัวอยู่ในรถม้าและมองไปที่มู่มิง นางเก่งมากในการหาข้ออ้าง มู่มิงยังคงหยิ่งทะนง อันหลิงหยุนมองนาง นางก็ไม่สนใจ หันหน้าหนีและมองออกไปนอกรถม้า พลางคิดเรื่องอื่น
อันหลิงหยุนอุ้มหมาจิ้งจอกตัวน้อยขึ้นมาลูบขนของหมาจิ้งจอกตัวน้อย แล้วหรี่ตาลงเพื่อพักผ่อน
ในรถม้าสงบลง มู่มิงจึงมองไปทางอันหลิงหยุน กระทั่งรถม้าหยุดลงเมื่อถึงจวนเฉินเสี้ยง อันหลิงหยุนลืมตาขึ้น
อันหลิงหยุนปล่อยหมาจิ้งจอกหางสั้นลง เหลือบมองไปที่มู่มิงที่กำลังลงจากรถม้า
อาหยู่ถือกล่องยาไว้ ตามอันหลิงยุนไปจวนเฉินเสี้ยง
มู่มิงลงรถม้าแล้วเดินไปที่ข้างกายอันหลิงหยุนและอาหยู่ แล้วเอากล่องยาในมืออาหยู่ไป กะทันหันจนอาหยู่จับไม่ทันตั้งตัว กล่องยาจึงถูกเอาไป
อันหลิงหยุนหันไป มู่มิงได้พูดไว้ก่อนว่า: “ให้ข้าเอาไว้เถิด”
“ไม่เป็นไร ไม่รบกวนจวิ้นจู่ดีกว่าขอรับ” อาหยู่ต้องการนำกล่องยากลับคืนไป มู่มิงหน้านิ่ง ไม่สนใจอาหยู่
ไม่ว่าอย่างไรมู่มิงก็เป็นจวิ้นจู่ นางไม่ให้อาหยู่ก็ไม่กล้าทำโดยภาระการ ทำได้เพียงมองไปที่อันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนจึงพูดขึ้น: “ให้จวิ้นจู่ถือเอาไว้เถิด”
“พ่ะย่ะค่ะ” อาหยู่ทำอะไรไม่ได้ มองไปยังจวนเฉินเสี้ยง
“อาหยู่ เจ้าไปเคาะประตู” อันหลิงหยุนมอบหมายแล้ว อาหยู่จึงไปเคาะประตู ในไม่ช้าคนของจวนเฉินเสี้ยงก็ออกมา
เมื่อพ่อบ้านเห็นอาหยู่จึงรีบมองออกไปข้างนอก เห็นอันหลิงหยุนรีบเชิญอันหลิงหยุนเข้าไป
“เชิญพระชายาเสียนด้านในพ่ะย่ะค่ะ คนของเฉินเสี้ยงกำลังจะไปเชิญพระชายาอยู่พอดี”
ระหว่างทางเข้าประตู พ่อบ้านก็พูดถึงเรื่องที่เสินหยุนเจ๋ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้พูดถึงเกี่ยวกับฮองเฮาแม้แต่คำเดียว
อันหลิงหยุนเดินตรงไปที่หลังลานของเสินหยุนเจ๋ ก่อนเข้าประตูเห็นเสินหยุนเอ๋อยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับสาวใช้ สาวใช้ร้องไห้จนตาแดง แต่ไม่เห็นว่าเสินหยุนเอ๋อจะเป็นอะไร
อันหลิงหยุนเหลือบมองผ่านไป คนที่มีจิตใจที่ใจเย็น คนผู้นั้นก็คือคนใจเย็นเช่นกัน
อันหลิงหยุนรู้มานานแล้ว ว่าเสินหยุนเอ๋อและเสินหยุนเจ๋ขัดแย้งกัน
แต่เสินหยุนเจ๋ค่อนข้างดีกับเสินหยุนเอ๋อ เพียงแค่ว่าในใจของเสินหยุนเอ๋อไม่เคยมีบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะเสินหยุนเจ๋ผู้ที่เป็นพี่ชายคนนั้น
“เจ้ามาได้อย่างไร?” ทันทีที่เห็นอันหลิงหยุน เสินหยุนเอ๋อก็เหมือนไก่ที่ตื่นตูม ถามอันหลิงหยุน
พ่อบ้านรีบอธิบาย: “คุณหนู เพราะแม่ทัพน้อยจึงเป็นเช่นนี้ พระชายามาไม่แปลกขอรับ”
“ข้าไม่ได้มาหานาง” อันหลิงหยุนขี้เกียจที่จะสนใจเสินหยุนเอ๋อ เดินตรงไปในลาน เดิมเสินหยุนเอ๋อต้องการหยุดอันหลิงหยุน เมื่อเห็นจวิ้นจู่มู่มิงพร้อมกล่องยาอยู่ข้างหลัง ก็ตกใจมาก
“จวิ้นจู่มู่มิง” เสินหยุนเอ๋อรีบเข้าไปหามู่มิง ตอนนี้ตระกูลเสินกำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่มีผู้ใดคบหาสมาคมกับนาง
แต่มู่มิงไม่เหมือนกับคนทั่วไป มู่มิงไม่สนใจมุมมองผู้อื่น ยิ่งไม่สนใจกับสถานะที่เปลี่ยนแปลงไป
เสินหยุนเอ๋อยังคงต้องการพึ่งพามู่มิงเพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ นางจะต้องสร้างมิตรภาพที่ดีต่อมู่มิง
แต่ในเวลานี้มู่มิงเห็นเสินหยุนเอ๋อก็รู้สึกไม่ชอบ และนางก็ไม่สนใจเสินหยุนเอ๋อ แต่เสินหยุนเอ๋อไม่รู้เรื่องเหล่านี้ จึงยืนหยัดที่จะเข้าหามู่มิง
“จวิ้นจู่มู่มิง เจ้ามาทำไมไม่บอกข้า ข้าจะได้ไปรับเจ้า”
เสินหยุนเอ๋อเข้าใกล้ มู่มิงสีหน้านิ่ง: “แม้แต่พระชายาเสียนยังไม่อยู่ในสายตาท่าน นับประสาอะไรกับคนอย่างข้าที่ไม่มีแม้แต่ตำแหน่งพระชายารอง ทำไมต้องแสร้งทำด้วย?”
อันหลิงหยุนพูดไม่ออกสักพัก หันไปมองใบหน้าที่เย็นชาและภาคภูมิใจของมู่มิง
ปากนี้ สักวันจะทำให้ผู้คนขุ่นเคืองและเกิดเรื่องเดือดร้อน
แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว อันหลิงหยุนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร จะว่าไปเรื่องทั้งหมดก็เกิดขึ้นเพราะเสินหยุนเอ๋อทำมันเอง
นิสัยของมู่มิงเป็นนิสัยตรงไปตรงมาที่ไม่สามารถทนต่อความไม่เที่ยงธรรมได้ ได้พบกับจอมวายร้ายดั่งเช่นเสินหยุนเอ๋อ นางย่อมไม่ปล่อยไว้แน่
เสินหยุนเอ๋อที่หน้าเสียไม่สามารถอดกลั้นแสร้งทำหน้าสดใสได้อีกต่อ แต่นางไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียงก้มหน้าโมโห
อันหลิงหยุนเรียกมู่มิง: “จวิ้นจู่ตามข้ามา”
มู่มิงกลอกตามองอันหลิงหยุนด้วยความโกรธ: “ก่อนแต่งงานกับเขาเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนี้ หลังจากแต่งงานแล้วก็กลายเป็นเช่นนี้ ไม่ได้เรื่องเลย”
“เจ้าอย่ามาว่าข้า รอเจ้าออกเรือนแล้ว เจ้าก็จะเป็นเหมือนกัน” อันหลิงหยุนเข้าไป กล่าวยังไม่พอใจ
มู่มิ่งกล่าวเบาๆ : “ไม่มีทาง”
อันหลิงหยุนขี้เกียจใส่ใจ เข้าไปและตรงไปที่ห้องที่เสินหยุนเจ๋อาศัยอยู่ ขณะนี้มีคนรับใช้ในบ้านหลายคนยืนอยู่ที่ประตู ข้างในมีคนร้องไห้อยู่ ฟังจากเสียงอันหลิงหยุนสามารถรับรู้ได้ เฉิงเสี้ยงฮูหยินกำลังร้องไห้อยู่ข้างใน
พ่อบ้านพาอันหลิงหยุนเข้าไป เสินเฉิงเสี้ยงยืนเหม่ออยู่ในประตู เมื่อเห็นอันหลิงหยุนรีบเข้าไปทักทาย
“พระชายาเสียน”
อันหลิงหยุนกล่าว: “เฉิงเสี้ยงไม่ต้องเกรงใจ ข้ามาคือมาดูอาการแม่ทัพน้อย แม่ทัพน้อยมีบุญคุณต่อข้า ข้ามาดูหน่อย”
หลิงหยุนมองเข้าไปข้างใน เฉิงเสี้ยงฮูหยิงร้องไห้น้ำตาอาบหน้า อันหลิงหยุนเข้าไปใกล้เฉิงเสี้ยงฮูหยินลุกขึ้นเพื่อทักทาย: “หม่อมฉันถวายบังคมพระชายาเสียน”
“ไม่ต้องแล้ว เฉิงเสี้ยงฮูหยิงไม่ต้อง ข้ามาดูแม่ทัพน้อยหน่อย” อันหลิงหยุนไม่สนใจสิ่งอื่นใด เดินเข้าไปดูเสินหยุนเจ๋
เสินหยุนเจ๋นอนอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเผือด ตาปิดสนิท
อันหลิงหยุนก้มไปจับข้อมือเสินหยุนเจ๋ เริ่มการสแกน
สูญเสียเลือดมาก ตับได้รับความเสียหาย อันหลิงหยุนปล่อยมือเสินหยุนเจ๋ เปิดผ้าห่มออกดู ร่างกายได้รับการจัดการแล้ว แต่ดูแล้วอาการไม่ดีนัก และเขาอยู่ในอาการนอนหมดสติ หากนางไม่มา คาดว่าอยู่รอดได้ไม่เกินห้าวัน
อันหลิงหยุนนับถือฝีมือกงชิงวี่จริงๆ ลงมือได้โหดเหี้ยมไร้ความปรานีจริงๆ
เสินหยุนเจ๋ไม่ได้ทำผิดถึงขั้นที่จะต้องถึงแก่ความตาย เป็นเพราะฮองเฮาเสินหยุนชู เขาถึงได้ลงมือหนักเพียงนี้
หากเกิดเรื่องกับฮ่องเต้ชิงหยู่ขึ้นจริงๆ เขาจะไม่ล้มล้างตระกูลเสินเลยหรือ?
เสินหยุนชูไม่รู้จริงๆ คนที่นางต้องเผชิญหน้าไม่ได้มีเพียงฮ่องเต้ชิงหยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ยังมีกงชิงวี่ผู้ค้ำฟ้าอีกคนงั้นหรือ?
“มู่มิง” อันหลิงหยุนเรียก มู่มิงเหม่อลอยอยู่เป็นเวลานานแล้ว ถูกอันหลิงหยุนเรียกจึงดึงสติกลับมา
“กล่องยาให้ขา” อันหลิงหยุนหยิบกล่องยาไปและเปิดออก ข้างในมีกระบอกฉีดยาและชุดให้น้ำเกลือ
ฉีดยาให้เสินหยุนเจ๋ แล้วรักษาบาดแผลให้เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน