ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 377

บทที่ 377 กลับมานำครึ่งก้าว

เป็นดังคาด ฮั่วไท่เฟยยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร ก็ได้ยินหวางฮองไทเฮาพูดขึ้นว่า “ตระกูลจุนดูแลสั่งสอนได้ไม่เข้มงวด จึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จุนฉูฉูแม้ตายก็ชดใช้ไม่ได้ ตายแล้วก็ใช่ว่าจะหนีโทษได้ ถ่ายทอดคำสั่งไป ลงโทษจวนราชครู สูงสุดถึงราชครู ต่ำสุดถึงเด็กไร้เดียงสาสิบขวบ โบยทุกคนคนละสามสิบที ไห่กงกง ……เจ้าต้องควบคุมการลงโทษเอง อย่าให้ผิดพลาด”

“ข้าน้อยรับบัญชา ”ไห่กงกงรีบเอาราชโองการออกจากวังไปทันทัน

หวางฮองไทเฮาย่อมไม่ปล่อยไปง่ายๆเช่นนี้แน่ นางเหลือบตาขึ้น “เซียวกุ้ยเฟยแม้จะอยู่ในวังหลัง แต่ก็มีโทษที่ควบคุมดูแลได้ไม่เข้มงวด ลงโทษโบยห้าสิบที เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

สวีกงกง รับบัญชาคุมการลงโทษ”

“ข้าน้อยรับบัญชา”

สวีกงกงทำตามบัญชาทันที

อันหลิงหยุนถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ในวังนั้นโหดร้ายจริง

จุนเซียวเซียวเองก็นับว่าโชคร้ายมาก ที่พบเจอกับเรื่องเช่นนี้

แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ตอนนี้ รวมถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่ง กลับไม่มีใครรู้สึกตกใจกับเรื่องนี้ เย็นชาด้วยซ้ำไป

เหมือนกับว่าเรื่องที่ตระกูลของราชครูจุนทั้งเล็กใหญ่ถูกโบยนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา

โดยเฉพาะอ๋องตวน เขาเองก็ไม่กลัวถูกหัวเราะเยาะ ถูกพระชายาทุบตี เขายังพูดออกมาได้อย่างไม่แยแส ช่างน่าเลื่อมใส

นอกจากนี้ยังสารภาพความในใจต่อหยุนโล๋ชวน เหมือนไม่มีผู้อื่นในสายตา “ข้าไม่อยากยอมรับว่า ตาข้ามันบอดแล้ว ที่ถูกนางหลอกลวง ใจข้าเจ็บปวดยิ่งนัก ทำไมนางถึงทำกับข้าเช่นนี้

แต่ว่า……

ข้าก็ยังชอบนางอยู่ดี

จนชวนเอ๋อปรากฏตัวขึ้น ข้าค่อยๆถูกชวนเอ๋อทำให้หวั่นไหว

ความมีน้ำใจและความดีของชวนเอ๋อ ทำให้ข้ารู้สึกถลำลึก

ข้าไม่กล้าที่จะบอกว่าไม่ชอบนาง แต่ตอนนี้ข้ายิ่งหวังว่านางจะอยู่กับข้า เมื่อคิดว่าชวนเอ๋อจะจากข้าไปอยู่กับคนอื่น ข้าก็จะเป็นบ้าแล้ว

ข้าก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ข้าคิดว่า หากมีใครบังอาจมาขอชวนเอ๋อแต่งงาน แม้ข้าต้องเปิดศึกสู้รบ ฆ่าตายเป็นเบือ ก็จะต้องแย่งชวนเอ๋อกลับมาให้ได้

แต่ว่า

กับจุนฉูฉูไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ ข้าแค่อยากได้นางมาอยู่ข้างกาย ให้น่ามอง ให้คนอิจฉา

แค่ชื่อเสียงจอมปลอม

แต่ความรู้สึกที่มีต่อชวนเอ๋อ กลับอยากเก็บซ่อนเอาไว้ ไม่อยากให้ใครอิจฉา ไม่อยากให้ใครได้เห็น มีเพียงข้าเท่านั้นที่เห็น

ข้าคิดว่า ข้านั้นบ้าไปแล้ว ไม่มีชวนเอ๋อก็จะเป็นบ้า”

อันหลิงหยุนมุมปากกระตุก เห็นที ก็คงเป็นอ๋องตวนที่ช่างพูดช่างเจรจา หากเป็นกงชิงวี่คงทำไม่ได้

หยุนโล๋ชวนจ้องกงชิงหยินตาค้าง สมองเหมือนตายไปแล้วไม่มีการตอบสนอง

คิดถึงเรื่องที่จุนฉูฉูทุบตีกงชิงหยิน ก็รู้สึกโกรธมาก จุนฉูฉูคนนี้ ช่างอุกอาจนัก บังอาจฉวยโอกาสที่ท่านอ๋องหลับลงมือกับท่านอ๋อง

กงชิงหยินหัวเราะฮึฮึ “ช่างเถอะ ข้าทำร้ายจิตใจชวนเอ๋อ พูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว เป็นข้าเองที่ไม่รู้จักรักษา ทำร้ายจิตใจชวนเอ๋อ ข้าควรใช้ความตายชดใช้ความผิด”

“หา”

หยุนโล๋ชวนเพิ่งจะได้สติ กงชิงหยินพูดว่า “แต่ข้าไม่ยอมให้ชวนเอ๋อหย่า และไม่อนุญาตให้ออกจากจวนอ๋องตวน ยิ่งไม่สามารถจะอยู่ร่วมกับอ๋องชินจงได้ หากชวนเอ๋อไม่ฟัง ข้าตายแล้วก็จะกลายเป็นผีไปหาอ๋องชินจง ให้เขาตายชิ้นส่วนศพไม่ครบ ”

“ท่านพูดเหลวไหลอะไร ตอนไหนกันที่ข้า ……”

กงชิงหยินยื่นมือไปกุมหน้าของหยุนโล๋ชวนไว้ “ชวนเอ๋อ ข้าผิดไปแล้ว ล้วนเป็นเพราะข้าไม่ดี ข้าขอตายเพื่อไถ่โทษ”

“ท่านอ๋อง ท่านอย่าขู่ผู้อื่นให้ตกใจ ท่าน ……”

“ข้าไม่ได้ขู่”กงชิงหยินเงยหน้าขึ้นไปมองบนศีรษะของหยุนโล๋ชวน ดึงเอาปิ่นปักผมของนางลงมา

ผมเส้นหนึ่งของหยุนโล๋ชวนร่วงลง กงชิงหยินเอาปิ่นปักผมแทงไปที่หัวใจ

“ท่านอ๋อง……”

กงชิงหยินรู้สึกเจ็บ จนเกือบหยุดหายใจแล้ว

เขามองหยุนโล๋ชวน “ไม่อนุญาตให้หย่า ไม่อนุญาตให้เจ้าไปจากจวนอ๋องตวน ไม่อนุญาตให้เจ้าแต่งงานกับอ๋องชินจง”

“เลือด เลือด……”

หยุนโล๋ชวนรีบกำมือของกงชิงหยินไว้ น้ำตาไหลออกมา

ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงเองก็ตื่นตกใจ โทษที่บีบบังคับให้อ๋องตวนต้องตายนั้นจวนกั๋วกงคงรับไม่ไหว

หวางฮองไทเฮาก็ตกใจเช่นกัน แม้แต่ฮั่วไท่เฟยยังตกใจจนขยับตัวไม่ได้ นางไม่คิดว่าลูกชายจะตัดสินใจเฉียบขาดเช่นนี้ “หยินเอ๋อ…… หยินเอ๋อ……”

ฮั่วไท่เฟยหายใจไม่ออก เป็นลมสลบไปแล้ว

อันหลิงหยุนขมวดคิ้ว ตกลงกันแล้วว่าเป็นที่ไหล่ ที่หัวใจนั้นอาจจะตายได้

อ๋องตวนเอาจริงหรือนี่

“พระชายาเสียน ท่านพี่……”

หยุนโล๋ชวนนึกถึงอันหลิงหยุนก็ร้องไห้ตะโกนขึ้น

อันหลิงหยุนจึงเดินไปข้างหน้า รีบไปดูกงชิงหยิน

เอายายับยั้งเลือดให้กงชิงหยินกินก่อน จากนั้นก็ประคองให้นอนราบ อันหลิงหยุนเริ่มจับชีพจรตรวจร่างกายกงชิงหยิน

ไม่ได้รับบาดเจ็บที่หัวใจถือว่าโชคดีมากแล้ว

อันหลิงหยุนจะทำการผ่าตัด สั่งการลงไปว่า “รีบไปเรียกให้หมอหลวงฮู๋และหมอจวนโจวเข้าวังเดี๋ยวนี้ ข้าจะผ่าตัด ตอนนี้ข้ามีครรภ์ทำคนเดียวไม่ได้”

“สั่งการลงไป”

ฮ่องเต้ชิงหยู่รีบสั่งการทันที อ๋องตวนถูกยกไปด้านหลัง อันหลิงหยุนให้คนอื่นๆถอยไปก่อน จะทำการผ่าตัดให้กับกงชิงหยิน

หมอหลวงฮู๋มาถึงก่อน อันหลิงหยุนเป็นผู้สั่งการให้หมอหลวงฮู๋ทำตาม หลังจากที่หมอจวนโจวมาถึงก็แขวนสายน้ำเกลือทันที

ทั้งสามร่วมมือร่วมใจกัน ไม่นานอ๋องตวนก็พ้นขีดอันตราย

แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง เข้าไปหลังห้อง อันหลิงหยุนได้ให้กงชิงหยินดื่มเลือดไปครึ่งถ้วย

เพื่อไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ก็ไม่ทำให้ดีขึ้น

อันหลิงหยุนนั่งพัก เหม่อมองไปที่กงชิงหยิน

เป็นแบบนี้ต่อไป เลือดนางคงถูกดื่มหมดเป็นแน่

หยุนโล๋ชวนเพิ่งเข้ามา เห็นกงชิงหยินที่เจ็บหนักก็พูดไม่ออก ส่วนหน้าของนางก็ร้องไห้จนดูไม่ได้นานแล้ว

อันหลิงหยุนลุกขึ้น ออกไปรายงานผล

ฮั่วไท่เฟยเมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็รีบถามขึ้นทันที “หยินเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง”

“ทูลเสด็จแม่ ไท่เฟย ฮ่องเต้ อ๋องตวนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หากจะให้บาดแผลหายดีก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวันเพคะ”

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว”ไม่รอให้ฮั่วไท่เฟยได้พูดอะไรบ้าง ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ชิงพูดก่อน

อันหลิงหยุนถอยลงไป ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปทางฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงที่หน้าขาวซีด

“ฮูหยิงแก่ ข้ารู้ การที่พระชายาตวนได้รับความลำบากเจ้าก็ปวดใจ แต่การหย่าร้างสำหรับผู้หญิงแล้วไม่ใช่เรื่องดีอะไร ยิ่งถ้าเป็นจวิ้นจู่ที่หย่าร้างด้วยแล้วละก็ ภายหน้าหากพบเจอคนอื่น ก็ไม่แน่ว่าจะดีกว่าอ๋องตวน

ไม่สู้ให้พวกเขาได้ลองดู หากยังไม่ได้ ข้าจะหาวิธีการให้พวกเขาหย่าเอง ฮูหยิงแก่เห็นเป็นเช่นไร”

“หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชาเพคะ”

ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงหลังเกิดเรื่องก็รู้สึกกลัว หากทำให้ตวนอ๋องตาย จวนกั๋วกงของนางจากบนลงล่างต้องมีมลทินติดตัว

ในเมื่อชวนเอ๋อเต็มใจ เช่นนั้นก็ให้โอกาสอ๋องตวนอีกสักครั้ง

สามารถตายแทนชวนเอ๋อได้ คิดว่าก็คงกลับใจได้แล้ว

ลองดูก็ได้

ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงคิดถึงคำพูดเหล่านั้นของอ๋องตวน ก็รู้สึกซาบซึ้งใจอยู่บ้าง

“เช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลา”

ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงเตรียมขอตัวกลับ ฮั่วไท่เฟยจึงพูดขึ้นว่า “ฮูหยิงแก่ช้าก่อน”

ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสบ้าง ฮั่วไท่เฟยจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร

อันหลิงหยุนรู้ได้ทันที เรื่องราวคงไม่ผ่านพ้นไปง่ายๆ

“เสด็จพี่ เรื่องอ๋องชินจงกับชวนเอ๋อยังไม่ได้พูดเลย”สะใภ้ของราชวงศ์ จะให้มัวหมองแม้สักนิดก็ไม่ได้ จุดนี้ทำให้ฮั่วไท่เฟยเองกลับขึ้นมานำอยู่ครึ่งก้าว

หวางฮองไทเฮามองไปทางฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกง ถามว่า “ฮูหยิงแก่ มีอะไรจะพูดหรือไม่”

“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เป็นแค่ข่าวลือ ไม่รู้ว่าอ๋องตวนได้ยินมาจากที่ใด จึงได้คิดว่าเป็นเรื่องจริง

หม่อมฉันแม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ผ่านน้ำร้อนมาก่อน หนุ่มสาวสมัยนี้เลือดร้อน ชอบอิจฉาริษยากัน

แต่ก็มองออกว่า อ๋องตวนนั้นชอบชวนเอ๋อด้วยใจจริง หากไม่ชอบด้วยใจจริง ไหนเลยจะอิจฉาเช่นนี้

เท่าที่หม่อมฉันทราบนั้นอ๋องชินจง ร่ำเรียนวิชาการต่อสู้ที่จวนกั๋วกงแต่เล็ก เป็นผู้มีฝีมือทั้งบุ๋นบู๊ เขานั้นชอบชวนเอ๋อแต่เล็กนั้นไม่ผิด แต่ชวนเอ๋อเห็นเขาเป็นพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น เรียกเขาว่าพี่ซวนเฉินตลอดมา ระหว่างพวกเขา ก็มีเพียงเท่านี้

หม่อมฉันเชื่อว่าตอนที่ไทเฮาและไท่เฟยเข้าวังนั้น ก็คงเคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ เชื่อว่านอกวังก็ต้องมีเพื่อนทีรู้ใจอยู่บ้างสักคนสองคน หลังเข้าวังแล้วฮ่องเต้เองก็คงรู้สึกอิจฉาอยู่บ้างจริงไหมเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน