ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 391

บทที่ 391 วางแผนลับออกนอกเมือง

มู่มิงสีหน้าหมุ่นหมอง “เจ้านี่เล่นลิ้นเก่งจริงๆ แต่ถึงแม้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดจะถูกหมด แล้วเจ้าไม่กลัวว่ากงชิงวี่จะกลับมาคิดบัญชีกับเจ้า? เจ้ายังจะไปหาเขาตอนนี้ท้องเจ้าก็ใหญ่ขนาดนี้แล้ว เจ้าไม่กลัวจะเกิดเรื่อง?

“เขากลับมาเจ้าก็ไปก่อน อย่าให้เขาเห็น ต่อไปเราก็พบกันข้างนอก เขาก็หาเรื่องไม่ได้แล้ว ส่วนท้องของข้า ข้าคิดว่าไม่เป็นไร”

“หากเจ้ารู้สึกว่าไม่เป็นไร งั้นก็ทำตามที่เจ้าพูดเถอะ ข้าอย่างไรก็ได้”

พูดกับมู่มิงเสร็จแล้ว อันหลิงหยุนก็ให้อาหยู่ไปห้องตัดเย็บ หาหยุนจิ่นมา แล้วยังเขียนจดหมายถึงหยุนโล๋ชวน

เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว อันหลิงหยุนรอไปสองวัน

สองวันมานี้ทำเอาแม่ทัพอันร้อนรนมาก รอข่าวจากกงชิงวี่แต่ไม่มีเลย

อันหลิงหยุนก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นางให้คนไปรับครอบครัวทั้งสามคนที่ได้ยินเสียงจังหวะมาในจวนอ๋องเสียน

อันดับแรกคือสังเกตการณ์เด็กหนุ่มคนนั้นอยู่วันหนึ่ง

คนไม่ได้โง่นัก อันหลิงหยุนตัดสินใจลองสะกดจิตให้เขาดูตอนนี้

อันหลิงหยุนก็ไม่ได้คล่องมากนัก อีกทั้งยังต้องเป็นสถานที่ที่ปิดตาย ควบคุมได้ไม่ดีกลัวว่าจะเกิดเรื่อง

ดังนั้นนางให้อาหยู่เฝ้าหน้าประตูเอาไว้ มีเรื่องอะไรให้อาหยู่เข้าประตูไปทันที

ถือว่าดำเนินการได้ราบรื่น อันหลิงหยุนรอไปสักพักหนึ่ง เรียกให้คนตื่นขึ้นมาสังเกตอาการอย่างละเอียด ถามคำถามไปบ้าง แต่กลับสับสนมาก

“เจ้าชื่อโฮ่เซิง พ่อกับแม่ตายไปนานแล้ว เจ้าอยู่กับปู่กับย่าของเจ้า พวกเขาเลี้ยงดูเจ้าจนเติบใหญ่ด้วยความยากลำบาก เจ้าป่วยหนัก จนจำอะไรไม่ได้ ก็เลยมาหาข้าที่นี่ ตอนนี้เจ้าหายแล้ว เพียงแต่จำพวกเขาไม่ได้ เจ้าต้องกตัญญูต่อพวกเขาให้มากๆ เพื่อเจ้าแล้วพวกเขาลำบากมาไม่น้อย”

“...........” โฮ่เซิงรีบร้อนวิ่งออกไป ในขณะที่วิ่งไปก็ร้องเรียกปู่กับย่าไปด้วย

ออกจากประตูไปก็เห็นคู่ผัวเมียแก่ๆคู่หนึ่งด้านนอกประตู

คู่ผัวเมียเห็นว่าหลานพูดได้แล้ว ทั้งดีใจทั้งประหลาดใจ ทั้งสามกอดคอกันร้องไห้

อันหลิงหยุนออกมาจากด้านใน เห็นพวกเขากอดคอกันร้องไห้ รู้สึกปลื้มใจมาก

นางไม่เข้าใจเรื่องการสะกดจิต แต่ว่านางสามารถเรียนรู้ได้

แล้วของแบบนี้ ก็สามารถศึกษากันได้

เห็นว่าโฮ่เซิงไม่เป็นไรแล้วอันหลิงหยุนเดินเข้าไป “เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองชื่ออะไร ข้าตั้งชื่อใหม่ให้เขาชื่อหนึ่ง ชื่อโฮ่เซิงดีไหม”

“อา ดี ดี..........”

หญิงชราตอบรับซ้ำๆ จากนั้นก็คุกเข่าลงไปกับพื้น ดึงโฮ่เซิงลงไปคุกเข่าด้วย

ทั้งครอบครัวคุกเข่าลงไปกับพื้น คำนับให้อันหลิงหยุน

“ขอบคุณท่านผู้สูงศักดิ์ ขอบคุณท่านผู้สูงศักดิ์......”

“พวกเจ้ายังจะเรียกท่านผู้สูงศักดิ์อยู่อีก นางก็คือพระชายาเสียนที่พวกเจ้าต้องการหา แต่ว่านางไม่ได้มีสามเศียรหกกร และก็ไม่ได้เป็นสัตว์ที่มีเขา นางเป็นพระชายาของท่านอ๋องของเรา ดังนั้นจึงเรียกว่าพระชายาเสียน” อาหยู่อธิบายอยู่ข้างๆ ครอบครัวหญิงชราลุกขึ้นมา จ้องมองไปที่อันหลิงหยุนด้วยความตกตะลึง

อันหลิงหยุนกล่าวว่า “พวกเจ้าก็ไม่ใช่ว่าจะง่าย ข้าจะให้พ่อบ้านเอาเงินให้พวกเจ้าเล็กน้อย พวกเจ้ากลับบ้านเถอะ”

“.........อย่างนี้จะดีได้อย่างไร?” หญิงชราน้ำตาไหล เป็นครั้งแรกที่รักษาโรคหายแล้ว ยังไม่รับเงิน แถมยังจะให้เงินพวกเขาอีก

“ไม่มีอะไรที่ไม่ดีหรอก จวนอ๋องของเรามีเงิน พวกเจ้ากลับไปต้องใช้เงิน พวกเจ้ารับไปเถอะ”

“ขอบคุณ ขอบคุณท่านผู้สูงศักดิ์” หญิงชราขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า นางไม่สามารถเปลี่ยนคำเรียกได้ เรียกว่าท่านผู้สูงศักดิ์คล่องปากแล้ว

อาหยู่นึกตลก หยิบเอาเงินให้พวกเขาไป

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าทำความดีแล้วมีความสุข หันหลังก็กลับเข้าไปก่อน

วันรุ่งขึ้น

ตื่นเช้ามาเมื่ออันหลิงหยุนออกจากประตู ก็เห็นครอบครัวหญิงชรารออยู่ที่หน้าประตูแล้ว

อันหลิงหยุนแปลกใจ “เมื่อวานไม่ได้กลับหรือ?”

“พระชายา ได้โปรดรับเราไว้ด้วย” หญิงชราจูงหลานกับสามีเอาไว้ ครอบครัวทั้งสามคุกเข่าลง เอาเงินที่อยู่ในมือวางลงให้อันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนก้มแปลกใจ “พวกเจ้าไม่อยากกลับบ้านเกิดหรือ?”

“พระชายา พวกข้าจากบ้านเกิดมานานเกินไป ระยะทางยาวไกลกลับไปก็ไม่รู้ว่าสังขารแก่ๆเช่นนี้จะเดินทางไหวหรือไม่ แล้วพวกข้าก็ไม่อยากกลับไป พระชายามีบุญคุณต่อเรา เราจากไปเช่นนี้ ยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณพระชายาเลย

แล้วอีกอย่าง ไม่รู้ว่าโรคเก่าของโฮ่เซิงจะกำเริบหรือไม่ หากว่าเราไปแล้ว มีเรื่องอะไรแล้วค่อยกลับมา เรากลัวจะไม่ทันการ

พระชายา เราแก่แล้ว แต่ว่าเราขยันมาก ทำงานได้หลายอย่าง ขอเพียงแต่พระชายายินดีรับเราเอาไว้ ถึงแม้เราจะต้องเป็นวัวเป็นควาย เราก็ยินดี

ส่วนโฮ่เซิง เขายังอายุน้อย เขามีแรงมาก เขาสามารถทำงานได้เยอะมาก พระชายาได้โปรดรับเราเอาไว้ด้วยเถอะ”

เห็นทั้งสามคนคุกเข่าไม่ยอมลุกขึ้นมา อันหลิงหยุนทนแข็งใจปฏิเสธไม่ได้ จึงกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ลุกขึ้นมาเถอะ กฎระเบียบในจวนเยอะมาก พวกเจ้าจะต้องจำกฎระเบียบให้ขึ้นใจ ไม่เช่นนั้นจวนอ๋องจะต้องไล่พวกเจ้าไป”

“ได้ พวกเราจะต้องจำกฎระเบียบให้ขึ้นใจ” หญิงชราเป็นเสาหลักในบ้าน ทุกอย่างนางเป็นคนตัดสินใจ

อันหลิงหยุนมองพ่อบ้านสั่งพ่อบ้านให้พาทั้งสามคนลงไป ถึงออกจากจวนไป

หยุนจิ่นรออยู่หน้าประตูนานแล้ว เห็นอันหลิงหยุนรีบเดินเข้าไป “เจ้านาย”

“บอกให้เจ้าเรียกข้าหยุนหยุน เจ้ามักจะจำไม่ได้เสมอ” อันหลิงหยุนขึ้นรถม้าไป หยุนจิ่นโค้งตัวลง แล้วค่อยตามขึ้นไป

ในรถม้านั่งกันอยู่หลายคน หยุนโล๋ชวนก็อยู่ด้วย เห็นอันหลิงหยุนค่อนข้างรู้สึกเป็นห่วงมาก

“เจ้าคิดจะไปชายแดนจริงๆหรือ?”

“ข้าอยากไปดูหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะต้องระวังตัวให้มาก ระยะทางยาวไกลข้าไม่แนะนำให้เจ้าไป เจ้าทำเช่นนี้คือเอาแต่ใจ!” เกี่ยวกับเรื่องนี้หยุนโล๋ชวนไม่เข้าใจอย่างมาก ไม่มีคำสั่งฮ้องเต้ พระชายาอย่างพวกนางไม่สามารถออกจากเมืองได้ตามใจ นางนับถือในความใจกล้าของอันหลิงหยุน แต่ว่านางมาสนับสนุน

ทำอย่างไรได้ นางไม่ยุ่งอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

“ข้ารู้” อันหลิงหยุนก็ไม่อธิบาย มองไปทางมู่มิง “เจ้าจะต้องทำตัวให้เหมือนหน่อย”

“ข้ารู้ เจ้าก็ไม่ต้องสนใจข้าหรอก ออกไปข้างนอก ระวังตัวเอาไว้ให้มาก เจ้าดูแลตัวเจ้าเองให้ดีเถอะ ท้องก็ใหญ่ขนาดนั้น ยังจะวิ่งวุ่นไปทั่ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาไม่เกี่ยวอะไรกับข้านะ”

“วางใจเถอะ ไม่ให้เจ้าติดร่างแหไปด้วยหรอก”

อันหลิงหยุนมองไปทางหยุนจิ่น “หยุนจิ่น ในจวนเจ้าจะต้องใส่ใจให้มาก โดยเฉพาะพ่อข้า สองสามวันนี้เจ้าต้องเกลี้ยกล่อมเขาให้ดี”

“เจ้านายโปรดวางใจ หยุนจิ่นจะต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”

“อืม งั้นก็ดี ส่งข้าไปเถอะ กลับมาพวกเจ้ายังต้องดำเนินเรื่องต่ออีก อาหยู่จะไปกับข้า หงเถาลุ่ยหลิ่วจะช่วยเจ้า ชวนเอ๋อ เมืองหลวงฝากไว้ให้เจ้าแล้วนะ”

“วางใจเถอะ ข้าจะจัดคนไปลาดตระเวนเอง”

“อืม”

อันหลิงหยุนสั่งการเสร็จ รถม้าถึงออกนอกเมืองไป

พอถึงข้างนอกอันหลิงหยุนลงมาจากรถม้า ไปยังรถม้าอีกคันที่อาหยู่เตรียมเอาไว้ กล่าวคำลากับสามคนที่เหลือ หันหลังขึ้นไปในรถม้า

หยุนจิ่นวางมือทั้งคู่ไว้ตรงหน้า โค้งตัวลงไปทางอันหลิงหยุน “เจ้านายระหว่างระวังตัวด้วย อย่าไปยุ่งเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวข้อง”

อันหลิงหยุนยิ้มออกมา “รู้แล้ว หยุนจิ่นเจ้านี่มันจู้จี้มากจริงๆ กลับไประงับอารมณ์พ่อข้าเอาไว้”

“หยุนจิ่นทราบแล้ว”

อันหลิงหยุนเหลือบมองอีกสองคนที่เหลือ ปล่อยม่านรถม้าลง อาหยู่ขึ้นรถม้ารีบบังคับรถม้าออกจากเมืองหลวง รีบไปทางชายแดน

แม่ทัพทราบข่าวลูกสาวไปแล้ว ตกใจจนมือไม้วางไม่เป็นที่(ไม่รู้จะทำอย่างไรดี) คิดจะส่งคนไปตามกลับมา

กลับถูกหยุนจิ่นขวางเอาไว้ในลาน ไม่ให้เขาไป

แม่ทัพอันร้อนรนจนอยู่ไม่เป็นสุข ชี้ไปทางหยุนจิ่นให้นางหลบไป หากไม่หลบก็จะจับคนโยนออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน