ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 392

บทที่ 392 ท่านอ๋องมาแล้ว

หยุนจิ่นรีบเดินไปขวางเอาไว้ “แม่ทัพ ท่านอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม”

“หยุนจิ่น เจ้ารีบหลบไป ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าโยนออกไป” ในสายตาแม่ทัพอัน หยุนจิ่นเหมือนกันกับลูกสาว ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง

เขาพูดเช่นนี้ก็เพียงเพื่อขู่หยุนจิ่น

หยุนจิ่นไม่กลัว รู้ว่าแม่ทัพอันใจดีมีเมตตา

“แม่ทัพ ท่านระดมคนออกไปไล่ตามอย่างเอิกเกริก ไม่กลัวว่าคนข้างนอกจะรู้ข่าวแล้วไล่ตามไป ถึงแม้ว่าจะต้องไปหาเจ้านาย ก็ควรต้องทำอย่างลับๆ ไม่เช่นนั้นท่านหาให้เป็นที่สนใจมากเกินไป พวกเขารู้แล้วไปหาเจ้านาย ถึงเวลา ยังจะไม่ส่งคนไปตามฆ่า?”

แม่ทัพอันฟังแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผล รีบกล่าวว่า “งั้นข้าจะดำเนินการอย่างลับๆ”

“อย่างนั้นก็ไม่ได้ แม่ทัพ เจ้านายกลัวว่าท่านจะไม่ยอมฟังคำโน้มน้าว ถึงได้ให้ข้ามาขัดขวางเอาไว้ แม่ทัพท่านนั่งลง เรามาคุยกันดีๆ”

“พูดอะไร? ช้าไปเดี๋ยวก็ตามไม่ทันแล้ว ไปตามตอนนี้เลย” แม่ทัพอันจะไป หยุนจิ่นก็ร้องไห้ขึ้นมา

พอเห็นหยุนจิ่นเบือนหน้าออกไปร้องไห้ แม่ทัพอันรู้สึกตกใจ

“ร้องไห้ทำไม ข้าก็ไม่ได้โยนเจ้าออกไป รีบๆกลั้นกลับไปเลยนะ”

หยุนจิ่นเกือบจะหัวเราะออกมา

หันกลับไปหยุนจิ่นพูดทั้งน้ำตา “เจ้านายติดต่อกับท่านอ๋องเอาไว้แล้ว ท่านอ๋องบอกว่าจะมารับระหว่างทาง หากว่าแม่ทัพไปแล้ว แล้วข้าจะอธิบายได้อย่างไร”

“อ๋า? เป็นเช่นนี้หรือ? ทำไมข้าไม่รู้?” แม่ทัพอันสงสัย เขาส่งพิราบสื่อสารไปลูกเขยยังไม่ตอบกลับ หรือว่าลูกสาวจะติดต่อเขาได้?”

“ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่เจ้านายพูดเช่นนี้”

“เจ้านายเจ้าหลอกเจ้า ข้ายังไม่เชื่อ เจ้าเด็กน้อยอย่างเจ้านี่จริงๆเลย นึกไม่ถึงว่าจะหลงเชื่อซะได้?”

แม่ทัพอันดูแคลนหยุนจิ่นในใจ เด็กสาวคนนี้ดูแล้วด็ฉลาดดี หาเงินได้มากมาย ทำไมถึงถูกหลอกเอาได้

เดินอ้อมออกแม่ทัพอันก็คิดจะไป หยุนจิ่นรู้ว่าขวางเอาไว้ไม่อยู่และก็หลอกไม่ได้แล้ว จึงกอดแม่ทัพอันไว้จากด้านหลัง

“แม่ทัพ ท่านกับข้าเช่นนี้ ท่านไปเถอะ ดูว่าท่านจะไปอย่างไร?”

แม่ทัพอันตกใจมาก ตัวสั่นไปทั้งตัว

“เจ้ารีบ รีบปล่อยข้า” แม่ทัพอันรีบร้อนจะดึงหยุนจิ่นออก หยุนจิ่นก็ร้องขึ้นมา

“มีใครอยู่บ้าง มีใครอยู่บ้าง........”

มู่มิงรออยู่หน้าประตู รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า หันหลังกลับไป ใช้มือปิดตาเอาไว้

“บัดสีบัดเถลิง บัดสีบัดเถลิง.......” ทำตามที่วางแผนกันไว้ก่อนหน้านั้น มู่มิงพูดซ้ำๆไปมา

แม่ทัพอันตกใจจนรีบผลักหยุนจิ่นออก ไปแอบอยู่อีกด้าน

“นี่มัน.......นี่มัน.......”

แม่ทัพอันอ้ำอึ้งพูดไม่ออก หยุนจิ่นจึงกล่าวว่า “มู่มิง เจ้าอย่าพูดไปเรื่อยนะ”

มู่มิงสะบัดแขนเสื้อวิ่งหนีไป

แม่ทัพอันรับตะโกนเรียก “กลับมา เจ้ากลับมาก่อน”

หยุนจิ่นทำหน้าร้อนรน ถามราวกับจะร้องไห้ “แม่ทัพ จะทำเช่นไรดี?”

“เหลวไหล ทำเช่นไรอะไรกัน? ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

“แต่ว่ามู่มิงคิดอย่างไร?” หยุนจิ่นทำหน้าลำบากใจ แม่ทัพอันก็ร้อนรนขึ้นมา

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าว่าจะทำเช่นไรล่ะ? เป็นเพราะเด็กน้อยอย่างเจ้า อยู่ดีๆมากอดข้าไว้ทำไมกัน” แม่ทัพอันโมโห

“ไม่ใช่เพราะว่าแม่ทัพท่านจะไปหรือ?” หยุนจิ่นทำหน้าลำบากใจ

แม่ทัพอันชี้ไปหน้าประตู “เจ้าไปพานางมา พูดให้ดีๆ อย่าให้นางไปพูดเหลวไหลข้างนอก”

“ถ้าอย่างนั้นแม่ทัพท่านจะไปหรือไม่?”

“ไป ยังจะไปอย่างไร เจ้ารีบไปเถอะ” แม่ทัพอันโกรธแล้ว

หยุนจิ่นหันหลังออกไป

แม่ทัพอันรอจนคนออกไปแล้วสีหน้าจริงจังขึ้นมาไม่น้อย เดินออกจากลานด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ตรงไปที่หน้าจวนอ๋องเสียน

เขาจะไปหาลูกสาว เรื่องอื่นไม่มีอะไรที่สำคัญ

การเดินทางไปชายแดนระยะทางยาวไกล เขาจำเป็นจะต้องไปปกป้องลูกสาว ไม่ใช่คำสองคำของพวกหยุนจิ่นจะมาหลอกเขาได้

เขายังตัองเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท บอกกับพระองค์ว่าเขาจะไปหาลูกสาว

แม่ทัพอันออกจากจวนอย่างกระวนกระวาย เมื่อมาถึงหน้าจวนเท้าก็สะดุดกำลังจะล้มลง

เงาคนคนหนึ่งปรากฏขึ้น โฮ่เซิงกอดแม่ทัพอันเอาไว้

ด้านหน้าแม่ทัพอันพร่ามัว โฮ่เซิงก้มตัวแบกแม่ทัพอันเข้าไปยังลานท้ายเรือน

พ่อบ้านรีบร้อนปิดประตูลง ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว

หยุนจิ่นก็ตามกลับไปตำหนักจู๋หยุนที่อยู่ลานท้ายเรือน

แม่ทัพอันถูกวางเอาไว้ข้างใน

มู่มิวก็กลับไปเตรียมตัวให้พร้อม หงเถาลุ่ยหลิวรีบมาดูแล เตรียมพร้อมตลอดเวลา ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย

ตอนแม่ทัพอันตื่นขึ้นมาเป็นเวลาดึกมากแล้ว หยุนจิ่นกำลังนั่งรอด้านหนึ่ง เห็นแม่ทัพอันตื่นขึ้นมาหยุนจิ่งก็ลุกขึ้นมาแล้วไปคุกเข่าบนพื้น

“หยุนจิ่นขอรับโทษจากท่านแม่ทัพ ขอท่านแม่ทัพได้โปรดลงโทษ หยุนจิ่นรู้ ไม่อาจขวางท่านแม่ทัพเอาไว้ได้ ถึงได้คิดวางกับดักไว้ก่อน ให้ท่านแม่ทัพชะล่าใจก่อน วางยาท่าน”

ร่างกายแม่ทัพอันไร้เรี่ยวแรง ฝืนลุกขึ้นมานั่ง เห็นหยุนจิ่นก็รู้สึกโกรธหลายๆอย่าง

แต่เวลานี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินเหิน ทำได้แค่มองหยุนจิ่นไม่พูดไม่จา

หยุนหลิงก็คุกเข่าไว้อย่างนั้น ครึ่งชั่วยามผ่านไปไม่ขยับเขยื้อนเลย แม่ทัพอันใจอ่อน ถึงอย่างไรก็เป็นแค่เด็ก จึงได้พูดว่า “เจ้าลุกขึ้นมาเถอะ ลุกขึ้นมากระจายฤทธิ์ยาให้ข้า”

หยุนจิ่นลุกขึ้นมา ส่ายหน้า “ไม่ได้ ท่านแม่ทัพจะต้องไปหา”

“ถ้าอย่างนั้นแล้วข้าจะกินจะถ่ายอย่างไร?”

“มีหยุนจิ่นอยู่ ทุกอย่างสามารถจัดการได้”

“เหลวไหล เจ้าออกไปเลย”

“ได้”

หยุนจิ่นถึงได้ออกไป แม่ทัพอันนอนลง โมโหอยู่ไม่น้อย

อันหลิงหยุนเดินทางมาหนึ่งวัน ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ บรรยากาศโดยรอบก็ไม่ถูกต้อง

บวกกับเป็นเวลาดึกดื่นพอดี แล้วก็เป็นถิ่นทุรกันดาร อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นไปได้ นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการตามไล่ฆ่า

อาหยู่กล่าวเตือน “พระชายาระวังตัวด้วย มีคนกำลังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง”

“เร่งเดินทางต่อ เราไม่ต้องไปสนใจ มาถึงแล้วค่อยว่ากัน”

อันหลิงหยุนรู้สึกชินแล้ว สำหรับนางที่เคยได้รับการฝึกฝนทักษะการต่อสู้แล้ว สภาพแวดล้อมในป่าเขายังสบายมากกว่าการวางอุบายกันไปมาในเมืองเสียอีก

เมื่อลมหยุดพัดคนมาถึง

อาหยู่หยุดรถม้า กล่าวว่า พวกเจ้าทั้งสองปกป้องพระชายา

“ก๋าก๋า.........”

“กี๊ดกี๊ด.......”

อันหลิงหยุนสงสัย ตกลงใครปกป้องใครกันแน่? มีคนชุดดำเป็นสิบคนนอกรถม้า คนชุดดำพกกระบี่มาด้วย ไม่รอช้า รีบพุ่งไปทางรถม้ากันอย่างรวดเร็ว อาหยู่กระโดดลงมา เตรียมพร้อมที่จะต้านเอาไว้

แต่แล้วทั้งสิบกว่าคนก็หยุดไปในพริบตา ตัวสั่นไหวเล็กน้อยก็ล้มลงไปกับพื้น

อาหยู่ไปดู มองสำรวจไปรอบๆ

ราชาอีกาที่อยู่บนหัวร้องเรียกกา กา

ห่างออกไปไม่ไกลมีม้า(ดุร้ายและเชื่องยาก)หลายตัววิ่งมาถึงตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

อาหยู่เงยหน้าขึ้นมอง เป็นคนสิบกว่าคนที่แบกถุงใส่ลูกธนูไว้บนหลัง ในมือถือคันธนูและลูกธนูเอาไว้ เวลานี้กำลังมองมาที่อาหยู่

“กองทัพแด่ฉี?” อาหยู่รู้จัก

หนึ่งในนั้นกำหมัดขึ้นคำนับ “พวกเรารับคำสั่งให้มาปกป้องพระชายา มาเพื่อรับพระชายา”

“อืม พระชายาอยู่ในรถ ลำบากพวกท่านแล้ว” อาหยู่กำหมัดคำนับ

คนที่อยู่บนม้ารีบลงมาทันที สิบกว่าคนรีบไปยังด้านหน้ารถม้า คุกเข่าข้างเดียวลงไปกับพื้น “พวกหม่อมฉันกองทัพแด่ฉีคำนับพระชายา” อันหลิงหยุนเปิดม่านของรถม้าออก มองออกไปข้างนอก

สวมชุดเกราะสีดำ ด้านหลังมีคันธนูและลูกธนู กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น

“ท่านอ๋องล่ะ?”

“ท่านอ๋องกำลังรีบมา ให้พวกข้ารอรับตรงนี้ พระชายาโปรดรอสักครู่”

“อืม ลุกขึ้นเถอะ ลำบากพวกเจ้าแล้ว” อันหลิงหยุนลงจากรถม้า คนของกองทัพแด่ฉีถอยหลังออกไป ม้ารอบๆกำลังเล็มหญ้าบนพื้น ราชาอีกาลงมาเกาะบนหลังม้าของรถม้า มองไปทางอันหลิงหยุน

“ให้เจ้าไปสืบดูว่าเขาอยู่ที่ไหน ไม่ใช่ให้เจ้าไปเรียกเขากลับมา” อันหลิงหยุนยังเล่นสนุกไม่พอ นี่เพิ่งจะออกมาวันเดียว

ราชาอีกาไม่สนใจอันหลิงหยุน ห่างออกไปมีเสียงไม่พอใจกล่าวออกมาว่า “ข้าคุมเจ้าไม่อยู่แล้วหรือ ไม่ทันได้ระวังเจ้าก็หนีออกมา หากกองทัพแด่ฉีไม่ได้ล่วงหน้ามาก่อน อาหยู่คนเดียวจะปกป้องพระชายาได้หรือ?”

อันหลิงหยุนหันหลังกลับไปทันที มองห่างออกไปในความมืด รู้สึกว่ามีคนเดินมาจากทางด้านนั้น

คืนนี้ไม่มีแสงจันทร์ อันหลิงหยุนอยากรีบเห็นคน หันกลับไปหยิบโคมไฟลงมา ยกขึ้นมองห่างออกไป

กงชิงวี่สวมเสื้อแพรสีน้ำเงิน

สายตามั่นคง ตัวสูงและแข็งแรง

เขายังคงหล่อเหลาขนาดนั้น ผูกผ้าไว้บนหัว ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้ขาวอย่างแต่ก่อน คล้ำไปเล็กน้อย แต่ดูเขามีความเป็นชายชาตรีมากขึ้น

อันหลิงหยุนไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ผู้ชายคนหนึ่งจะมีเสน่ห์ดึงดูดคนได้ขนาดนี้ ชวนให้คนหลงใหลได้ขนาดนี้ แล้วยังหล่อเหลาไม่ธรรมดาขนาดนี้

กงชิงวี่ยังคงเป็นกงชิงวี่ แต่ทำไมนางถึงอยากร้องไห้มาก

ถูกทำให้หลงใหลแล้วหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน