ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 395

บทที่ 395 คนที่ชอบ

องค์หญิงใหญ่ยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองเว่ยหลิงชวนที่อยู่บนพื้นถามว่า “พระชายาเสียนรังแกเจ้าใช่ไหม?”

อันหลิงหยุนยืนนอกประตูรู้สึกเหมือนถูกใส่ความ นางไปรังแกใคร?

“จงลิ่ง สุขภาพท่านไม่ดี เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่อาจคลายปมในใจได้ กลัวว่าจะไม่มีทางรักษาให้หายได้ เช่นนั้นข้าก็อยู่มามากพอแล้ว ให้ข้าไปกับองค์หญิงใหญ่เถอะ”

อันหลิงหยุนตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเว่ยหลิงชวนจะมีใจส่วนนี้อยู่

แล้วมองไปที่องค์หญิงใหญ่ แววตาของนางเหมือนตกอยู่ในภวังค์ สักพักใหญ่ก็คำรามด้วยความโกรธ “เจ้าคนไม่เอาไหน ข้ายังไม่ตาย ไม่ต้องให้ฝังเจ้าลงไปพร้อมกับข้าหรอก ยังไม่ลุกขึ้นอีก?”

“จงลิ่งไม่กินไม่ดื่ม เช่นนี้ต่อไปกลัวจะเกิดเรื่อง ไม่เช่นนั้น......”

“พูดจาเหลวไหล หากเจ้ายังพูดเหลวไหลอีก ข้าจะตีจนเจ้าหาฟันไปทั่วพื้น(ตีให้น่วม)เลย เด็กๆ ลากเขาลุกขึ้นมา หาคนมาให้เขากินข้าว เอาให้เขาอิ่มตาย!”

“.......”

ต้าจงเจิ้งย่วนเกิดความวุ่นวายกะทันหัน ว่ากันว่าองค์หญิงใหญ่ป่วยเป็นโรคร้าย เกิดอาการบ้า จับโจ๋จงเจิ้นไว้กับเสาบังคับให้กินข้าว บอกว่าจะให้กินจนท้องแตกตาย

ตอนที่อันหลิงหยุนจากไปเพียงแต่รู้สึกว่า มีเว่ยหลิงชวนอยู่องค์หญิงใหญ่คงไม่เป็นอะไรชั่วคราว

ผู้ภักดีแบบโง่เขลาย่อมมีวาสนาและโชคชะตาเป็นของตัวเอง อันหลิงหยุนรู้สึกว่าเว่ยหลิงชวนก็คือวาสนาและโชคชะตาขององค์หญิงใหญ่

ออกจากต้าจงเจิ้นย่วนอันหลิงหยุนกลับไปถึงจวนอ๋องเสียน แต่อันหลิงหยุนไม่ได้กินอาหารเย็น

กงชิงวี่ออกจากวังกลับมา ก็เห็นอันหลิงหยุนมองใบไม้ที่อยู่บนยอดต้นไม้ด้วยความจมปลักอยู่ในความทุกข์

เข้ามาในลานกงชิงวี่นั่งลงถามว่า “ไม่ทราบว่าพระชายามีความในใจอะไรอยู่ ดูเหมือนจะดีใจไม่ออกเลย?”

อันหลิงหยุนรู้อยู่แล้วว่ากงชิงวี่ต้องถาม นางก็ไม่ได้ปกปิด “ท่านป้าไม่สบาย และยังเป็นโรคร้ายที่รักษายากมาก ข้าหดหู่เพราะเรื่องนี้”

“ท่านป้าไม่สบายหรือ?” สีหน้ากงชิงวี่เปลี่ยนไป

รู้ว่ากงชิงวี่เป็นห่วงท่านป้าคนนี้มาก อันหลิงหยุนตั้งใจอธิบายรายละเอียดของอาการป่วยท่านป้าอย่างรอบคอบ ให้กงชิงวี่ได้เข้าใจบ้างเล็กน้อย

“พูดเช่นนี้ก็คือการป่วยทางใจ?” กงชิงวี่สงบลงช้าๆ แต่ไม่ช้าก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของโรคนี้

โรคที่หยุนหยุนไม่สามารถรักษาให้หายได้ มองจากมุมมองของกงชิงวี่ มันก็ไม่ใช่โรคที่สามารถรักษาให้หายได้

อันหลิงหยุนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ถึงจะบอกว่าโรคนี้เป็นอาการป่วยทางใจ แต่มันเป็นอาการป่วยที่เกิดจากสมอง เราเรียกคนบางกลุ่มว่าเป็นโรคประสาท ก็คือเส้นประสาทของพวกเขาผิดปกติ ทำในสิ่งที่ผิดปกติจากคนทั่วไป ก็เหมือนกับว่าสมองไม่ปกติ”

และโรคนี้ ถ้าจะพูดให้ชัดก็คือสมองไม่ปกตินั่นเอง

อาการป่วยทางใจไม่ผิด แต่รากฐานมาจากสมอง”

“งั้นสิ่งที่หยุนหยุนรู้มีมากมาย ทำไมรักษาไม่ได้ล่ะ?”

“สาเหตุของโรคซึมเศร้าซับซ้อน ทฤษฎีทางการแพทย์ยังไม่ชัดเจน แต่ว่าสาเหตุหลักเกิดจากจิตใจและอารมณ์ ส่วนใหญ่อาการป่วยมีปัจจัยมาจากจิตใจ เกี่ยวกับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ประสาทชีวเคมี การคัดหลั่ง การสร้างใหม่........

แล้วก็สภาพแวดล้อมทางสังคม การใช้ชีวิต การเติบโต......

ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้อง

แต่ว่าโรคของท่านป้า เป็นเพราะตระกูลอ๋องเจ็ดตายอย่างอนาถ ในใจนางรู้สึกผิด สาเหตุมาจากโรคซึมเศร้า

นางเหนื่อยหน่ายแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเช่นนี้

นี่แค่เริ่มต้น เป็นเช่นนี้นานๆไป นางไม่กินไม่ดื่ม หมดอาลัยตายอยาก บวกกับนอนหลับไม่เพียงพอ นางก็จะเกิดเรื่อง

แต่ว่าวันนี้ข้าก็บอกเรื่องพวกนี้กับโจ่จงเจิ้นแล้ว เขาตื่นตระหนกมาก วิ่งกลับไปอดอาหารพร้อมกับท่านป้า ท่านป้าโมโหมาก ลุกขึ้นมาจัดการเขา

นี่ถือเป็นเรื่องดี ในใจท่านป้ายังมีคนที่ไม่สามารถปล่อยวางได้

แต่ว่าตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นกับสมองของนาง เพียงแค่นี้ยังไม่พอ ดีที่สุดคือต้องมียารักษา และตอนนี้ข้าไม่มี”

อันหลิงหยุนพูดถึงประเด็นสำคัญ หลักๆแล้วคือนางไม่มียาที่จะมารักษาโรคนี้

แววตากงชิงวี่ขรึมลง “หยุนหยุน เจ้าจะบอกอะไรข้า?”

“......” อันหลิงหยุนถอนหายใจ ฉลาดสมกับที่เป็นเขาจริงๆ สามารถมองความหมายของนางออกในคราเดียว

อันหลิงหยุนลุกขึ้นเดินไปข้างหน้า หันหน้าไปทางเรือนเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่บนหลังคา

“ที่นี่ไม่มี มีสถานที่หนึ่งมี”

“ไม่ได้” กงชิงวี่ตบลงไปบนโต๊ะ โกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่

อันหลิงหยุนรู้อยู่แล้วว่ากงชิงวี่จะไม่เห็นด้วย หันกลับไปถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “สำหรับข้าแล้วที่นั่นก็เหมือนบ้าน(แม่)ที่สามารถกลับไปได้ และที่นั่นก็มียาเยอะ สามารถรักษาช่วยชีวิตคนได้ ขอเพียงข้ากลับไป นำยาส่วนหนึ่งกลับมา อย่างน้อยก็ทำให้ท่านป้าดีขึ้นมาบ้าง บรรเทาอาการเจ็บป่วยลงบ้าง ควบคุมไว้ได้ดีท่านป้าก็จะหายดี

ตอนนี้โรคของท่านป้าเป็นเพียงระยะแรก รักษาตอนนี้ยังมีโอกาส หากว่าอีกหน่อยทวีความรุนแรงขึ้น นางก็จะบ้าๆบอๆ ถึงเวลานั้น กลัวว่าถึงข้าจะเอายามาแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร

แต่เรื่องนี้ข้าก็ไม่กล้าทำบุ่มบ่าม ยังต้องขออนุญาตจากท่านอ๋อง ได้รับความเห็นชอบจากท่านอ๋องแล้ว ข้าถึงจะกลับไปได้”

อันหลิงหยุนปรึกษา และก็กลัวว่ากงชิงวี่จะเป็นกังวล

ความหึงหวงคือจะต้องหึงหวงแน่ๆ ถึงอย่างไรแม้แต่ผู้หญิงเขายังไม่สามารถรองรับไว้ได้ ยังจะสามารถรับซู่มู่หรงเอาไว้ได้

แต่ชีวิตคนสำคัญที่สุด เห็นบุคคลเช่นท่านป้าต้องกลายมาเป็นผู้ป่วยทางจิต ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเหมือนซุปเปอร์สตาร์อย่างจางกั๋วหรงที่ตกลงมาจากที่สูงนับจากนั้นก็หายไป

และนางก็จะเศร้าเสียใจจริงๆ

ในขณะที่ยังพอมีโอกาส อันหลิงหยุนไม่สามารถยอมแพ้อย่างแน่นอน

เรื่องหึงหวงเป็นเรื่องเล็ก นางก็รู้ว่าในใจกงชิงวี่เป็นห่วง นางกลับไปแล้ว กลับมาไม่ได้อีก!

สีหน้าของกงชิงวี่เป็นสีเขียว ลุกขึ้นกำลังจะไป อันหลิงหยุนเรียกเขาไว้ “ท่านอ๋อง ท่านอยากฟังเรื่องเกี่ยวกับคนคนหนึ่งที่ข้าเคยชอบหรือไม่?”

ร่างกายของกงชิงวี่ตกตะลึงไป หันกลับไปมองทางอันหลิงหยุน ในแววตาของเขาคือตกตะลึง คือความโกรธ คือความหุ่นหันที่อยากบีบคนให้ตาย

“ผู้หญิงอย่างเจ้า ก็ไม่ได้น่ารัก เจ้าจะมีคนที่ชอบจากไหน เจ้าบอกว่าเจ้าชอบข้า ตอนนี้เจ้าคิดจะทำอะไรของเจ้า? หรือเจ้าคิดจะกบฏ?” กงชิงวี่คำรามด้วยความโมโห

อันหลิงหยุนกังวลจริงๆว่าเรือนจะถูกสั่นสะเทือนจนแตกกระจาย

อาหยู่ก็วิ่งเข้ามา นึกว่าเกิดเรื่องอะไรน่ากลัวขึ้น

หงเถาลุ่ยหลิวตกใจจนตัวสั่น พระชายาก็ช่างใจกล้าเกินไปแล้ว ทำไมถึงพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้

อะไรคือคนที่ชอบ คนที่พระชายาต้องชอบไม่ใช่ท่านอ๋องหรอกหรือ?

ดอกซิ่งแดงออกกำแพง(หญิงที่แต่งงานแล้วไม่สำรวม คบชู้ชาย)นั้นจะถูกจังยัดเข้ากรงหมูแล้วถ่วงน้ำ!

“พวกเจ้าออกไปก่อน อาหยู่เจ้าปิดประตูแล้วเฝ้าเอาไว้”

อันหลิงหยุนเห็นพวกเขาตกใจจนหวาดกลัว คุมสติเอาไว้แล้วสั่ง

หงเถาลุ่ยหลิ่วตกใจจนรีบร้อนคำนับแล้วก็วิ่งออกไป อาหยู่ก็ปิดประตูลง อีกาดำน้อยก็กระพือปีกบินไป จิ้งจอกหางสั้นมีหรือจะยอมอยู่ต่อ วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อประตูปิดลง ในลานยังมีลมพัดมาหอบหนึ่ง

อันหลิงหยุนมองไป นึกสงสัยในใจ หรือว่าลมฟ้าอากาศทำอะไรแปลกๆตามคน

หันหลังเดินไปถึงหน้ากงชิงวี่ที่มีอำนาจเหนือคน อันหลิงหยุนยกมือลูบไล้ไปบนตัวของเขา แล้วกอดกงชิงวี่เอาไว้ กงชิงวี่ก้มหน้า หายใจเข้าออก แต่เขาไม่ได้กอดอันหลิงหยุน เขา ถูกอันหลิงหยุนทำให้โกรธจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

ผู้หญิงคนนี้บังอาจไปชอบคนอื่น ใคร?

อันหลิงหยุนถาม “ท่านอ๋อง ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีคนที่ชอบหรือชื่นชมเลยหรือ?”

กงชิงวี่อึ้งไป นานครึ่งวันถึงกล่าวว่า “เสร็จพ่อ”

“นั่นก็ถูกแล้วไง!”

อันหลิงหยุนเดินผละออกมาสองสามก้าวโดยไม่ลังเล หันหน้ามองกงชิงวี่

“ไม่ต้องใช้ท่านป้ามาบีบข้า ข้าขี้เกียจจะฟังเจ้าพูด” กงชิงวี่ก็ยังอยากจะไป อันหลิงหยุนไม่รอให้เขาจากไปก็หาที่นั่งลงแล้ว

“ข้ายังจำได้ครั้งแรกที่เห็นเขา คือในซีดีแผ่นหนึ่ง ความวัยเยาว์และมีเสน่ห์ของเขา ความสง่างามของเขา ล้วนแต่ชื่นชอบทั้งหมด

ซีดีท่านอ๋องรู้ใช่ไหม เคยบอกท่านอ๋องไปแล้ว”

กงชิงวี่รู้จริงๆแหละ แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน