ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 46

สรุปบท บทที่46เข้าวังพร้อมกัน: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

สรุปเนื้อหา บทที่46เข้าวังพร้อมกัน – ยอดหมอยาของอ๋องเสียน โดย หยูนเยว่

บท บทที่46เข้าวังพร้อมกัน ของ ยอดหมอยาของอ๋องเสียน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หยูนเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่46เข้าวังพร้อมกัน

ชั่วครู่เดียวภาพเบื้องหน้าอันหลิงหยุนก็หมุนวนดำมืดนางคิดจะบอกให้กงชิงวี่ปล่อยมือแต่กลับไม่ทันหายใจหนึ่งเฮือกคนก็แน่นิ่งไปไม่ตอบสนอง

กงชิงวี่คลายมือออกร่างของนางล้มลงกับพื้นในทันที

เขายื่นมือออกไปอุ้มคนที่ตัวงออยู่กับพื้นขึ้นมาก้าวเท้ายาวมายังขอบเตียงวางนางลงบาเตียงพลางนั่งลงเอ่ย“อย่ามาแกล้งตายต่อหน้าข้าข้าไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น”

มีเพียงอากาศเย็นเยียบตอบเขาเท่านั้น

หัวใจของกงชิงวี่เต้นผิดจังหวะขึ้น

อดไม่ได้ยื่นมือเข้าตรวจสอบไม่มีลมหายใจแล้ว!

ลองวัดชีพจรชีพจรก็ไม่มีแล้ว!

“ถางเหอ!”

กงชิงวี่ตะโกนเสียงดังถางเหอที่เฝ้าประตูอยู่รีบตอบรับทันที“ท่านอ๋อง”

“หมอจวน”

ถางเหอไม่เข้าใจจวนท่านอ๋องบัดนี้เป็นอะไรไปช่างถูกใจกับหมอจริงหมอต่างไม่ได้หยุดพักต้องคอยรับใช้ทุกเวลาไม่เช่นนั้นมักจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หมอเข้าไปในห้องพลางมองไปที่กงชิงวี่แล้วรีบเดินเข้าไป“ท่านอ๋อง”

“ดูนี่”

กงชิงวี่ลุกขึ้นพลางเดินไปอีกด้านในเวลานี้กลับสงบลงได้แล้วบางส่วนใบหน้ากลับยิ่งเย็นชา

ความโกรธหุนหันผันแล่นของเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะลงมือไปแล้ว...เพียงแต่หญิงนางนี้ทำไมถึงสามารถทำให้เขาโกรธได้ทุกครั้ง?

“ท่านอ๋องพระชายาลมหายใจขาดไปแล้ว”

หมอจวนทูลรายงานก่อนเมื่อเห็นอันที่คอหลิงหยุนมีรอยนิ้วมือทั้งรู้ว่าตลอดมาท่านอ๋องไม่ชอบใจพระชายาในวันพิธีเสกสมรสก็ต้องการให้นางตายไปเสียวันนี้นับว่ามีชีวิตมาได้หลายวันแล้วท่านอ๋องแทบไม่อยากแลสายตามองพระชายาทุกวันเกรงว่าจะเป็นเพราะอดรนทนไม่ได้ทนลงมือไม่ไหวกระมัง

กับความตายของอันหลิงหยุนหมอกลับไม่ใส่ใจนักอ๋องเสียนจะโหดร้ายไปกว่านี้คงไม่ได้จะอย่างไรก็เป็นเชื้อสายกษัตริย์หรือกับฮ่องเต้ก็สามารถประหัตรประหารได้?

ท่านอ๋องคงมาดหมายชีวิตของพระชายาสิ้นก็สินไปแล้วอย่างไรท่านอ๋องจะได้แต่งตั้งคุณหญิงเสินเป็นพระชายาอย่างนั้นยิ่งเป็นประโยชน์ต่อจวนอ๋อง

“ข้าไม่เชื่อ”

กงชิงวี่มองไปสายตาราวกองเพลิงปะทุ“นางจะตายง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้ที่นางติดค้างข้ายังใช้คืนไม่หมดเลย”

พ่อบ้านและหมอจวนตกใจตัวสั่นนี่ช่างนับเป็นความแค้นลึกขนาดไหนคนตายไปแล้วยังไม่หยุดพระศพก็แน่นิ่งอย่างนั้น

พูดจบกงชิงวี่โบกมือ“ทั้งหมดออกไปก่อน”

พ่อบ้านและคนอื่นๆมองกงชิงวี่ต่างไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ทำได้เพียงคำนับลาและเดินออกไป

เมื่อประตูปิดลงกงชิงวี่เดินไปด้านหนึ่งพลางนั่งลงจ้องอันหลิงหยุนแน่วนิ่ง

หญิงคนนี้สมควรตายเขายังไม่อนุญาตให้ตายนางกลับกล้าสิ้นลมไป

“อันหลิงหยุนทางที่ดีเจ้าควรลุกขึ้นไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”กงชิงวี่กำหมัดแน่นช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยในใจเขาร้อนกระวนกระวายเจ้าหญิงสมควรตายนี้สิ้นลมแล้วยังไม่ให้เขาสุขสงบ

ผ่านไปชั่วครู่กงชิงวี่ลุกขึ้นยืนเดินไปไม่กี่ก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าอันหลิงหยุนเมื่อพิจารณานางโดยละเอียดยิ่งมองยิ่งให้จิตใจไม่สงบพลางกัดฟันเอ่ยขึ้น“ข้ารู้เจ้าเล่นละครอยู่ลุกขึ้นมา!”

รออย่างไรก็ไม่มีเสียงตอบรับจากอันหลิงหยุนกงชิงวี่จิตใจหนักอึ้งเมื่อมองดูใบหน้าที่ราวกับสิ้นชีวิตไปแล้วของอันหลิงหยุนไม่ทราบว่าทำไมมีบางส่วนในใจเจ็บปวดขึ้นมา

ไม่ควรเลย!

กงชิงวี่จับไปที่หัวใจและยังมีเสียงหัวเราะซีดเซียวออกมา

วันนั้นนางบังคับแต่งงานเขาเคยเจ็บปวดแต่ไม่ได้เพื่อนางเขาร้องไห้เพื่ออีกคน!

กงชิงวี่ค่อยๆนั่งลงบนเตียงหาที่ข้างๆร่างอันหลิงหยุนเตียงช่างกว้างเหลือเกินแต่นางนอนลงแถวขอบเตียงเขาจึงนั่งลงได้เพียงหมิ่นเหม่

เหลือบมองดูอันหลิงหยุนที่นอนอยู่บนเตียงกงชิงวี่พยุงบริเวณอกความเจ็บปวดยังมีอยู่แต่ราวกับใบหน้าเบื้องหน้าสายตานี้ค่อยๆจางหายไป

เขาหัวเราะพร้อมน้ำเสียงประชดประชัน“ที่แท้เจ้าเป็นคนทำร้ายข้าข้ายังต้องเจ็บปวดเพราะเจ้าอีกหรือ?”

กงชิงวี่ค่อยๆคลายมือออกปาดตามองไปยังหน้าต่างราวกับมองเห็นจุนฉูฉูหันมาส่งยิ้มให้ความเจ็บปวดทุกข์ระทมนี้ขอบตาล่างพลันมีน้ำตาหยาดลงหยดหนึ่ง

จากวันนั้นใจของเขาก็ไม่เคยเจ็บอีก

แต่ทำไมกลับเจ็บปวดอีกครั้ง?

เมื่อพินิจพิเคราะห์หญิงบนเตียงอย่างละเอียดแล้วกงชิงวี่ราวกับขาดสติไปทั้งๆที่อัปลักษณ์เหลือเกินกลับชื่นชมความงามของตัวเองทั้งวันบัดนี้แม้จะไม่พูดพร่ำแล้วปากก็ยังแข็งอยู่อย่างนั้นหากไม่รู้เป็นหรือตายจะนอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ร่างกายของเขาเพิ่งจะดีราวกับมีพละกำลังมหาศาลในตอนแรกเพียงคิดจะสั่งสอนให้เกรงกลัวใครจะเคยคิดเพียงออกแรงนิดหน่อยนางก็เป็นเช่นนี้แล้ว

ช่างไร้ประโยชน์เสียจริงปรกติออกจะเก่งกาจวันนี้เป็นอะไรไป?

กงชิงวี่นำมุมผ้ามาคลุมตัวอันหลิงหยุนไว้“ตายซะก็ดีตายแล้วข้าจะได้ไม่ต้อง...”

เจ็บปวดสองคำนี้ไม่ได้เอ่ยออกมากงชิงวี่มองไปยังใบหน้านิ่งตายของอันหลิงหยุนพลางกัดฟันเอ่ย“ทำไมข้าจึงเจ็บปวดเพียงนี้?”

เมื่อพูดจบมือที่กำก็คลายออกกงชิงวี่กำมือแน่นพลางนั่งข้างอันหลิงหยุนเพียงนั่งก็กินเวลาไปสองชั่วยาม

สองชั่วยามผ่านไปอันหลิงหยุนพลันขยับกายเล็กน้อยค่อยๆลืมตาและลุกขึ้นนั่งพลางถอนหายใจยาวนางมองไปที่มือพลิกสิ่งที่คลิมอยู่ดู

“ข้าไม่เป็นไรหรือ?”แต่นางจำได้ว่าตัวเองลมหายใจขาดห้วงแล้วหรือร่างกายเป็นอมตะไปแล้ว?

ในขณะที่สับสนอยู่นั่นเองก็รู้สึกมีคนยืนอยู่เบื้องหน้าบังสายตาอันหลิงหยุนนางเงยหน้ามองไปก็เห็นกงชิงวี่มองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ

“เจ้าหลอกข้าจริงๆด้วย”

อันหลิงหยุนไม่มีเอ่ยคำใดแต่ก็ไม่อยากจะพูดเรื่อยเปื่อยชายคนนี้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วเกินกว่าที่คาดไว้เพียงยาผสมเลือดนางไม่กี่เม็ดกลับดีได้ถึงเพียงนี้เมื่อเขาลงมือก่อนหน้านี้นางกลับคิดไม่ทันหากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางได้ตายในมือเขาอย่างง่ายดายไม่พูดอะไรเลยเสียดีกว่า

เมื่อกงชิงวี่ฟังจบจึงเอ่ยขึ้น“วันรุ่งขึ้นข้าจะเข้าวังอย่าเอ่ยเรื่องแต่งตั้งพระชายารองขึ้นอีก”

“เพคะ”

อันหลิงหยุนตอบตกลงอย่างสบายๆกงชิงวี่มองนางครู่หนึ่ง“ข้าจะแต่งตั้งพระชายารองพระชายาดูดีใจมากเลยหรือ?”

“ในที่นี้บุรษจะแต่งภรรยาสามคนสี่คนเป็นเรื่องปกติตำแหน่งข้าคือพระชายาก็ควรคิดเพื่อท่านอ๋องมิใช่หรือ?ท่านอ๋องไม่ได้ชอบพอหม่อมฉันหากเป็นอย่างนี้ต่อไปจะไม่ดีต่อร่างกายของท่านอ๋องเองฮ่องเต้มีความตั้งใจดีข้าก็จึงตอบตกลงไป”

“เหอะเจ้ามีจิตใจดีขนาดนี้เลยรึ?”

อันหลิงหยุนพยายามส่งสายตาแห่งความบริสุทธิ์ใจ“มิกล้าปิดบังข้าตั้งใจคิดเพื่อท่านอ๋องจริงๆ!”

“ออกไป!”

กงชิงวี่รู้สึกถึงกองไฟที่สุมอยู่ในตัวเริ่มจะระเบิดอีกครั้งจึงรีบตวาดออกไป

อันหลิงหยุนก็ไม่ชักช้ารีบลุกขึ้นออกจากห้องไปเดินไปโดยไม่หันศีรษะกลับไปมองเลย

วันต่อมา

อันหลิงหยุนเปลี่ยนชุดติดตามกงชิงวี่ในรถม้าคันเดียวกันเข้าวังอันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจเมื่อก่อนเข้าไม่ได้ในตอนนี้แม้นรายงานยังไม่สอบถามมิแปลกหรอกหรือ

หรือว่าเขายังมีป้ายห้อยเอว?

เป็นจริงดังนั้นเมื่อถึงประตูวังกงชิงวี่นำป้ายห้อยเอวของหวางกั๋วจิ้วออกมาทหารเฝ้าประตูวังเมื่อเห็นเข้าก็รีบเปิดทางทันที

อันหลิงหยุนหยุดคิดไม่ได้เขากลับกล้านำของของคนอื่นมาใช้เสมือนของตัวเองจะมีเรื่องอะไรที่เขาทำไม่ได้อีก?

ในภายภาคหน้าหากสามารถไปไกลเท่าใดก็จะไปอย่างน้อยก็ขออย่าให้ได้เจอะเจอกันอีกเลย

เมื่อลงจากรถเมื่ออันหลิงหยุนตามกงชิงวี่ไปรอด้านนอกของพระตำหนักจรุงจิตขันทีเฝ้าอยู่ตรงประตูกุลีกุจอมาต้อนรับ“อ๋องเสียนจงเจริญพระชายาเสียนจงเจริญ”

“วันนี้ข้ารู้สึกไม่สบายรออยู่ด้านนอกรับลมไม่ได้จะเข้าไปพักภายในวิหารบรรทมรองรอฮ่องเต้เสร็จจากการว่าการช่วงเช้าค่อยรีบมารายงานข้า”

“กระหม่อมจดจำไว้แล้วอ๋องเสียนพระชายาเสียนเรียนเชิญ”

ขันทีน้อยรีบมาต้อนรับอันหลิงหยุนกลับรู้สึกประหลาดทำไมรู้สึกการมาครั้งนี้ช่างต่างจากครั้งที่แล้วเหลือเกิน

เมื่อเข้าไปภายในวิหารบรรทมรองกงชิงวี่เข้าไปรอแล้วพลางหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดดูอย่างสบายใจอันหลิงหยุนจึงหามาอ่านหนึ่งเล่มภายในนั้นกลับมีตำราแพทย์อยู่นางหยิบขึ้นพลางพลิกเปิดข้างในบันทึกแต่สิ่งที่นางยังไม่เคยรู้นางสนใจเป็นอย่างมากนั่งพลิกหนังสือไปหลายชั่วยามโดยมิได้พักเลย

กงชิงวี่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้าสงบของอันหลิงหยุนดูราวกับเป็นคนแปลกหน้าทั้งๆที่ยังเป็นใบหน้าอัปลักษณ์ดังเดิมสิบปีไม่เปลี่ยนแต่ไม่รู้เป็นอย่างไรในระยะนี้ยิ่งมองยิ่งไม่เหมือน

“ทูลอ๋องเซียนฮ่องเต้เสด็จจากการว่าการช่วงเช้าแล้วเรียนเชิญอ๋องเสียนเสด็จ”

กงชิงวี่จึงวางหนังสือในมือลงลุกกายขึ้นมุ่งตรงไปยังประตูอันหลิงหยุนตั้งใจไม่ลุกขึ้นเพราะนางไม่อยากตามไปด้วยกงชิงวี่ก็ไม่ได้เรียกนางเดินย่างไปเร็วยิ่งนัก

รอเพียงนางฟังเสียงประตูปิดลงหันมองกลับไปเขาได้ออกไปแล้วจึงลอบถอนหายใจเฮือก

อย่างอื่นขอไม่พูดก็แล้วกันพบฮ่องเต้ก็ต้องเหนื่อยหัวเขานางนางไม่อยากไปจริงๆยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่เข้าเฝ้าฮ่องเต้ช่างราวกับจะเอาชีวิตนางทุกครั้งไปนางไม่ไปเสียยังจะดีกว่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน