ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 522

บทที่ 522 ความโง่ที่หายาก

อันหลินหยุนหยิบมีดออกมาจากตัว กรีดมือตัวเองให้มู่มิงดื่มเลือด จากนั้นมู่มิงถึงได้ค่อยกลับไปนอนต่อ นางเงก็ไม่แน่ใจว่าเลือดของนางสามารถรักษาบรรเทาอาการป่วยได้หรือเปล่า แต่ก็หวังเพียงว่ามู่มิงจะอาการดีขึ้นเท่านั้น

มู่มิงเอาแต่พูดจาเหลวไหลไปมา พูดจนเกือบครึ่งชั่วยาม อาการถึงดีขึ้นมาเล็กน้อย

แม้ตัวคนจะนอนลงไปแล้ว แต่มู่มิงกลับกอดมืออันหลินหยุนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย อันหลินหยุนที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่างจึงอยู่อย่างนั้นมองดูมู่มิงจนนางหลับไป

อาการไข้ของมู่มิงลดลง อันหลินหยุนถึงได้เดินออกมา

ในเวลานี้ท้องฟ้าพรบค่ำแล้ว จะไปหาคนก็ไม่สะดวก อันหลินหยุนจึงไปหาไห่กงกงที่วังเฉาเฟิ่ง ไห่กงกงที่เห็นอันหลินหยุนก็รู้สึกประหลาดใจ พร้อมกับรีบเดินไปด้านหน้าเพื่อทำความเคารพกับอันหลินหยุน

“พระชายาเสียน เหตุใดถึงมาในเวลาเช่นนี้ ไทเฮาสองวันมานี้ไม่ทรงพบผู้ใด”ไห่กงกงยืนกล่าวอยู่หน้าประตู ก็เพื่อห้ามคนที่เข้าไปในตำหนัก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงอันหลินหยุนด้วย

อันหลินหยุในเวลานี้ก็เข้าใจชัดเจนถึงความคิดของหวางฮองไทเฮาอย่างดี และนางเองก็ไม่ได้มาเข้าเฝ้าหวางฮองไทเฮาเพื่อกล่าวธระอันใด

“กงกง มู่มิงอยู่ในตำหนักเย็นมีอาการไข้ โปรดเยกคนให้ตามข้าไป พร้อมด้วยอาหารเล็กน้อย ข้าเกรงว่านางจะต้านไม่ไหวแล้ว”อันหลินหยุนจงใจพูดให้เรื่องราวดูรุนแรงขึ้นเล็กน้อย ไห่กงกงที่ตกใจจึงรีบไปเรียกขันทีน้อยสองคน และนางกำนัลมาหนึ่งคน ให้พวกเขาตามอันหลินหยุนไปยังตำหนักเย็น พร้อมทั้งยังส่งคนส่งอาหารและของใช้ไปให้อีกเสียด้วย

อันหลินหยุนกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเดินออกจากวังเฉาเฟิ่ง

มู่มิงนอนหลับสนิท อันหลินหยุนจึงอยู่ข้างเตียงคอยเฝ้าดู พอง่วงนอนก็หลับพักผ่อนครู่หนึ่ง ขันทีน้อยผลัดเปลี่ยนเวรยามราตรี จนผ่านไปหนึ่งคืน

พอในรุ่งเช้ามู่มิงก็ตื่น ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการสับสนอยู่เล็กน้อย พอนึกถึงเรื่องที่โดนจับมาขังไว้ที่ตำหนักเย็น มู่มิงก็ลุกขึ้นมากเตียงทันที พอมองเห็นอันหลินหยุนที่นั่งอยู่ข้างเตียง มู่มึงก็ถึงกับตะลึง พลางมองดูไปรอบๆก่อนจะกลับมามองอันหลินหยุนด้วยสายตาที่เย็นชาและดุร้าย :“เจ้ามาทำอะไร ?ที่นี่ดูคึกคักนักหรืออย่างไร?”

ขันทีน้อยจึงรีบกล่าว :“คือพระชายาเสียนเรียกข้าน้อยมาพ่ะย่ะค่ะ เพื่อลดอาการไข้ของหวงกุ้ยเฟย”

“……”มู่มิงกรอกตาใส่อันหลินหยุนอย่างไม่พอใจ โดยที่ไม่ได้สนใจในตัวนาง :“ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า ไสหัวออกไปเสีย!”

อันหลินหยุนยิ้ม :“จะบอกให้ข้าไปนั้นคงจะไม่ได้ แต่ถ้าจะบอกให้ข้าฉีดยาให้เจ้านั้นข้าสามารถทำได้ อีกประเดี๋ยวข้าจะไปนำกล่องยามา หากเจ้าไม่อยากให้ข้าฉีดยาให้เจ้ามากหลายเข็ม เจ้าก็อย่ามายุ่งกับข้า ”

“โอหังนัก ข้าเป็นถึงหวงกุ้ยเฟย เจ้ากล้าขู่ข้างั้นรึ ?”สายตาของมู่มิงเย็นชามากยิ่งขึ้น

อันหลินหยุนมองนางอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่านางกระฉับกระเฉงขึ้นมาไม่น้อย จึงลุกขึ้นไปทานอาหาร

“ลงมาเถอะ ไม่ได้มีวื่งใดให้ทานมากนัก จึงเตรียมข้าวเหลืออาหารเหลือไว้ให้เจ้า”อันหลินหยุนนั่งลงทานอาหาร แล้วทันใดนั้นมู่มิงก็ท้องร้อง ไม่อยากลุกไปก็คงจะไม่ได้แล้ว

ผ้าห่มถูกเปิดออก มู่มิงเดินลงมาจากเตียง สวมรองเท้าแล้วเดินตรงไปยังข้างกายของอันหลินหยุน จากนั้นก็นั่งลงแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาทานอาหาร

อันหลินหยุนสั่งให้ขันทีและนางกำนัลออกไป แล้วหันไปมองนาง:“เจ้าเคยคิดหรือไม่ ว่าการก้าวเข้ามาในวังหลวงก็ราวกับความลึกของทะเล แม้ว่าเจ้าจะมีความสามารถมากเพียงใด ก็ไร้ปัญญาที่จะออกไปจากที่ได้ ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือจะสิ้นเสียก็ตามเจ้าก็ยังคงเป็นคนของที่นี่ แม้นับว่าเจ้าจะสิ้นชีพแล้ว ผู้ใดจะมาเห็นใจเจ้า?”

มู่มิงราวกับไม่ได้ยิน และยังคงก้มหน้าทานอาหารต่อไป

อันหลินหยุนยิ้ม :“หากเจ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่นานก็ต้องมีวันที่เจ้าจะโรยราเป็นดังไข่มุกเก่าไร้ความวาวแววไปตามวัย พอถึงเวลานั้นข้าจะดูสิว่าเจ้าจะทำอย่างไร?เกียรติของหวงกุ้ยเฟยสามารถเอามาเปรียบเทียบกับผู้อื่นได้เยี่ยงนั้นรึ?”

“ที่ข้ามีทุกวันนี้ได้ไม่ใช่ต้องขอบใจเจ้างั้นหรือ?”มู่มิงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

“เจ้าเป็นอย่างวันนี้ได้ไม่ใช่ความผิดของข้า ข้าไม่ได้ทำผิดอันใด ในวันนั้นที่ข้าเข้าวังมา ฮ่องเต้และท่านอ๋องทั้งสองก็ล้วนอยู่ พวกเขาทั้งสามล้วนทำการฉลาก แล้วสุดท้ายก็จับได้เจ้า เรื่องนี้ข้าไม่ได้สร้างขึ้นมา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน