สรุปเนื้อหา บทที่ 592 ในวังมีกระต่ายขาว – ยอดหมอยาของอ๋องเสียน โดย หยูนเยว่
บท บทที่ 592 ในวังมีกระต่ายขาว ของ ยอดหมอยาของอ๋องเสียน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หยูนเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 592 ในวังมีกระต่ายขาว
เมื่อกลุ่มคนล่าสัตว์ออกไปแล้ว อันหลิงหยุนก็ตามไห่กงกงออกไปเช่นกัน อันหลิงหยุนรู้สึกใจคอปั่นป่วน สับสนวุ่นวายจนเหมือนด้ายพันกัน นางก็ไม่รู้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น
"กงกง ช่วงนี้ฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้าง ?" อันหลิงหยุนไม่รู้ว่าตัวเองคิดจะพูดอะไร แต่นางคิดถึงเรื่องของฮองเฮาขึ้นมา นางรู้ว่า ระบบต้องตรวจสอบแล้วตระหนักรู้ถึงบางสิ่งบางอย่าง จึงอยากส่งสัญญาณเตือนนางเป็นแน่ แต่สัญญาณเตือนลักษณะนี้ ไม่อาจแสดงชัดให้นางเข้าใจได้ นางจึงต้องอาศัยความพยายามของตัวเอง เพื่อค้นหาคำตอบออกมาทีละเล็กทีละน้อย
ไห่กงกงเอ่ยตอบว่า: "ยังไม่ได้ยินอะไรมาเลยพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาไม่ทรงสนพระทัยเรื่องของวังหลังมานานแล้ว ตอนนี้คนที่ดูแลวังหลังอยู่คือซ่งเต๋อเฟย แม้ว่านางจะอายุยังน้อย แต่นางกลับสามารถจัดการเรื่องราวของวังหลัง ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งนัก ช่างทำให้ผู้คนประทับใจจริงๆพ่ะย่ะค่ะ"
“เดิมที มู่มิงก็เป็นผู้หญิงที่เก่งกาจอยู่แล้ว แต่ก่อนนี้นางยังเป็นคนมีอำนาจในระดับที่ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็ล้วนถือเป็นแขกผู้มีเกียรติในเมืองหลวง แต่เป็นเพราะตลอดมา ใจนางคิดอยากจะแต่งให้กับอ๋องเสียนเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงทำให้เวลาของนางต้องล่าช้าออกไปแบบนี้
ถึงแม้ว่าเสินหยุนชูจะเป็น หญิงสาวผู้มีพรสวรรค์เป็นอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง แต่ใครๆก็รู้ดีว่า มู่มิงนั้นดูถูกชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านั้นขนาดไหน
ถ้าเป็นมู่มิง .... "
อันหลิงหยุนหันมองไห่กงกง: "กงกง ... บางครั้งเวลาข้าพูดก็จะไม่ค่อยใส่ใจกาลเทศะหรือสิ่งรอบตัว คุยอยู่กับท่านแท้ๆ กลับลืมฐานะตัวเองเสียได้ ข้าไม่ควรเรียกว่ามู่มิงใช่หรือไม่เจ้าคะ?"
ไห่กงกงหัวเราะ: "อะไรคือใครเรียกได้ ใครเรียกไม่ได้ ซ่งเต๋อเฟยในยามปกติ ฝ่าบาทจะทรงเรียกว่ามิ่งเอ๋อ ไทเฮาก็ทรงเรียกนางอย่างนั้นเช่นกัน การที่ท่านเรียกได้ก็หมายความว่า ท่านไม่ถือว่าซ่งเต๋อเฟยเป็นคนนอก
ในตอนแรก หากไม่ใช่เพราะพระชายาเสียน ซ่งเต๋อเฟยในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นโฉมสะคราญผู้โชคร้าย ที่ถึงคราวต้องล้มหายตายจากไปแล้วหรือไม่
ภายใต้สายพระเนตรของหวางฮองไทเฮา บางครั้งก็ยังไม่อาจควบคุมดูแลความยุ่งเหยิงวุ่นวายทั้งหลายที่พวกเขาสร้างขึ้นได้
ท้ายที่สุดแล้ว การจะมีชีวิตอยู่รอดได้ในวังไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการมีชีวิตรอด นั่นก็เป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่า ใครจะมัวมาสนใจว่าจะมีชาติกำเนิดเป็นอย่างไร! "
อันหลิงหยุนพยักหน้า ในใจกลับรู้สึกสงบลงอย่างมาก
อันหลิงหยุนไปที่ประทับของฮองเฮาก่อน ฮองเฮายังคงสวดมนต์อยู่เช่นเคย อันหลิงหยุนตามเข้าไป เสียงไห่กงกงเอ่ยขึ้นว่าไทเฮาทรงให้มาตรวจดูอาการเสียหน่อย เสินหยุนชูเอ่ยตอบออกมาสองสามประโยค ก็ออกมาจากด้านใน
อันหลิงหยุนตามออกไป จากนั้นจึงไปหาจุนเซียวเซียวอีกครั้ง ทางนี้เองก็เป็นปกติดีทุกอย่างเช่นกัน
อันหลิงหยุนมองไม่ออกว่ามีอะไรผิดปกติ จึงกลับไปที่วังเฉาเฟิ่ง หวางฮองไทเฮากำลังอยู่ในภวังค์เหม่อลอย เมื่ออันหลิงหยุนเข้าไป พระนางก็ทรงเรียกให้เข้ามานั่ง อันหลิงหยุนนั่งไปนั่งมา ก็เผลองีบหลับไป
ในความฝัน ได้ฝันเห็นกงชิงวี่กับฮ่องเต้ชิงหยู่ กำลังออกล่าสัตว์ด้วยกัน พวกเขาเห็นกระต่ายตัวหนึ่ง ทั้งสองต่างยิงศรใส่กระต่ายพร้อมกัน กระต่ายยกยิ้มแล้วพลันล้มลงบนพื้น แต่ในชั่วพริบตาที่อันหลิงหยุนเห็นดวงตากลมโตของกระต่าย จ้องค้างเบิกโพลงมองตรงมา นางก็พลันสะดุ้งตื่นขึ้นมา
"เป็นอะไรไปล่ะนี่? ยามปกติเห็นช่วยจัดการปรุงยา ปรุงอาหารให้ข้าเสียดิบดี ทำไมตัวเองกลับถูกฝันร้ายเล่นงานจนสะดุ้งตื่นเสียได้ล่ะนั่น?"
หวางฮองไทเฮาตรัสขึ้นมาอย่างหยอกเย้า อันหลิงหยุนกลับยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
"เสด็จแม่เพคะ ในพวกเรามีใครที่เป็นนักษัตรกระต่ายบ้าง?" อันหลิงหยุนก็ไม่รู้ว่าทำไม ตัวเองถึงเปิดประเด็นถามแบบนี้ นางรู้สึกว่าประโยคนี้ไม่ใช่เป็นตัวเองที่ถาม แต่เป็นระบบที่แฝงเร้นอยู่ในร่างของนางต่างหากที่เป็นฝ่ายถาม
อันหลิงหยุนถูกฝันร้ายทำให้สะดุ้งตื่น จนเหงื่อเย็นๆ ไหลเต็มตัว กระทั่งแผ่นหลังก็เปียกชุ่มไปหมด
หรือจะเกี่ยวอะไรกับคนเกิดปีกระต่าย?
หวางฮองไทเฮาทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: "ฝ่าบาทนะ นอกเหนือจากฝ่าบาทก็ไม่มีใครอื่นแล้ว"
หวางฮองไทเฮาตรัสไปพลางพระสรวลไปพลาง: "ฝ่าบาทเป็นกระต่ายน้อยตัวหนึ่งล่ะสินะ?"
อันหลิงหยุนยืนขึ้นในทันใด: "ไม่ดีแล้วเพคะ!"
หวางฮองไทเฮาทอดพระเนตรมองไป: "ตกอกตกใจหมด เจ้าจะทำให้ข้าตกใจตายหรืออย่างไร?"
อันหลิงหยุนรีบกล่าวว่า:"เสด็จแม่เพคะ ตั้งแต่ฝ่าบาทเสด็จออกวังไป หม่อมฉันก็รู้สึกใจคอกระสับกระส่ายไม่สงบนิ่งมาตลอด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่นี้เพิ่งฝันเห็นอ๋องเสียนกับฝ่าบาทออกล่าสัตว์ด้วยกัน ทั้งสองคนเห็นกระต่ายสีขาวตัวหนึ่ง สุดท้ายฝ่าบาทยิงลูกศรดอกหนึ่งฆ่ากระต่ายตัวนั้นตาย
สิ่งที่น่าแปลกคือ ท่าทางที่กระต่ายตัวนั้นจ้องมองข้า ดูเหมือนกับว่าไม่เต็มใจจะตาย ไม่เพียงเท่านั้น ...... "
"พูดมา!"
พระพักตร์หวางฮองไทเฮาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา อันหลิงหยุนจึงพูดต่อไปว่า “ที่ท้องของกระต่ายขาวมีจุดขนสีแดงเล็กๆอยู่ ดูเหมือนดวงดาวที่กระพริบพราว สะดุดตาอย่างยิ่งเพคะ”
"นี่เป็นสิ่งที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทรงเตรียมเอาไว้ให้ข้า ข้าไม่ได้ใช้งานมาหลายปีมากแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ใช้แสดงถึงสถานะของข้า เจ้าไปเถอะ ข้าจะรอพวกเจ้ากลับมา"
อันหลิงหยุนรับป้ายคาดเอวแล้วรีบออกจากวังทันที ตรงไปที่ยังเขตพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์ ระหว่างทาง มีกลุ่มคนชุดดำติดตามอันหลิงหยุนออกไปอย่างรวดเร็ว อันหลิงหยุนหันกลับมามอง หนึ่งในคนชุดดำนั้นพูดขึ้นว่า: “ ข้าได้รับคำสั่งให้คอยตามคุ้มครองพระชายาเสียน พระชายาเสียนโปรดอย่าได้ตกใจ"
อันหลิงหยุนพยักหน้า รีบเดินทางต่อไปอย่างรวดเร็ว
เขตล่าสัตว์ของราชวงศ์ เป็นพื้นที่พิเศษที่สงวนไว้สำหรับให้เหล่าราชวงศ์ใช้ ในทุกฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวปีละครั้ง นับเป็นการกำหนดช่วงเวลาล่าสัตว์ จะงดเว้นในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเนื่องจากสภาพอากาศ และหลีกเลี่ยงการล่าสัตว์ในช่วงฤดูผสมพันธุ์
หากอยากจะล่าสัตว์ให้ได้ อาจไปเพิ่มจำนวนครั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว
อันหลิงหยุนก็เพิ่งรู้เรื่องเหล่านี้ระหว่างทางเช่นกัน อีกทั้งในปีก่อนหน้านี้ ก็มีการล่าในฤดูหนาวเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ในปีนี้ไม่รู้ว่าเหตุใด ฝ่าบาทจึงทรงฉุกคิดมาได้อย่างฉับพลัน จึงมีพระประสงค์ว่าจะออกล่าสัตว์ในฤดูหนาว
อันหลิงหยุนไม่สามารถใส่ใจอะไรได้มากนัก แต่เมื่อมาถึงเขตล่าสัตว์ ตูไห่ก็มาถึงเขตพื้นที่ล่าแล้ว ทั้งยังกระจายกำลัง โอบล้อมรอบพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้
เสี่ยวสวีจื่อกำลังรออยู่ที่ด้านนอก ในเวลานี้ก็กำลังวิตกกังวลแทบตายแล้ว
ฝ่าบาทเสด็จเข้าไปจนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่เสด็จออกมา
เมื่อเห็นอันหลิงหยุน เสี่ยวสวีจื่อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย : "ท่านคือ?"
อันหลิงหยุนไม่กล้าฉีกแผ่นหนังบนหน้าตัวเองออก เพราะกังวลว่าอาจจะมีคนมาทำร้ายนางเช่นกัน เพียงพูดว่า: "ข้าเป็นคนของไทเฮา ฝ่าบาทล่ะ?"
เสี่ยวสวีจื่อรู้สึกว่า เสียงของอันหลิงหยุนนั้นฟังค่อนข้างคุ้นหู แต่อย่างอื่นเขาจำไม่ได้แล้ว
จึงเอ่ยตอบด้วยท่าทางตื่นตระหนกเสียขวัญว่า ฝ่าบาทเสด็จเข้าไปกว่าสองชั่วยามแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เสด็จออกมา
"ข้าจะเข้าไปเอง พวกเจ้าตามข้ามา"
อันหลิงหยุนนึกเสียใจที่ไม่ได้พาจิ้งจอกหางสั้นมาด้วย หากจิ้งจอกหางสั้นมา จะต้องตามหาฮ่องเต้กับมู่มิงพบอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...