บทที่ 622 พบกับอาจารย์
อันหลิงหยุนขึ้นเตียงไปได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนโหวกเหวกมาจากด้านนอก ร้องเรียกเพื่อให้รีบไปช่วยคน
อันหลิงหยุนลุกขึ้นแล้วตามออกไป ด้านนอกมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งวุ่นอย่างโกลาหล เพื่อตามหาหมอทหารไปทั่ว
อันหลิงหยุนคว้าตัวมาได้หนึ่งคนแล้วถามว่า: “เกิดอะไรขึ้น?”
“รบกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกเราต้องหาคนไปเพื่อช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ทหาร” ทหารตามหาหมอทหารไปทั่ว แต่ค่ายทหารขนาดใหญ่เช่นนี้ กลับมีกำลังหมอทหารไม่พอ อีกทั้งเมื่อทหารได้รับบาดเจ็บ ก็ต้องส่งมาให้คนของกรมกองทัพหมอทหารเป็นผู้ดูแล กรมกองทัพหมอทหารมีเพียงแค่ร้อยคน ต้องคอยดูแลทหารในค่ายทหารกว่าห้าแสนนาย กำลังคนจึงไม่พออย่างแน่นอน
อันหลิงหยุนสั่งการสองสามคำแล้วตามออกไป คนที่แต่งกายด้วยชุดทหารสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ตามอันหลิงหยุนไปด้วย
เมื่อไปถึงกรมกองทัพหมอทหาร อันหลิงหยุนเข้าไปถึงด้านในก็รีบเข้าไปช่วย มีคนจำนวนมากวุ่นวายไปหมด คนส่วนมากที่บาดเจ็บถ้าไม่ใช่เพราะถูกฟันก็คือถูกยิง บางคนก็แขนขาหัก
อันหลิงหยุนเห็นคนหนึ่งกำลังโอดครวญร้องเรียก ก็รับอันไปจับอีกฝ่ายหนึ่งไว้ เมื่อมองดูแล้วจึงได้รู้ว่าขาหัก
ขณะอันหลิงหยุนเตรียมที่จะผ่าตัด มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างมีพลัง เมื่อเข้ามาก็มุ่งตรงไปที่คนที่อยู่ตรงหน้านาง มองดูสักครู่ แล้วจึงหยิบมีดชำแหละหมูขึ้นมา แล้วตัดเปิดขาของคนคนนั้น คนที่อยู่รอบข้างก็ดูเหมือนจะเคยชินแล้ว อันหลิงหยุนยืนอยู่ข้างๆ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกตกใจกับการช่วยคนอย่างมาก
ไม่นานผู้เฒ่าก็จัดการจนแล้วเสร็จ ที่น่าแปลกก็คือคนที่ถูกผ่าขาไม่ได้ร้องด้วยความเจ็บปวด แต่กลับนอนหลับไประหว่างการผ่าตัด
อันหลิงหยุนกำลังยืนนิ่ง ผู้เฒ่าก็พูดขึ้นด้วยความโกรธว่า: “เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน มัวแต่ยิ่นนิ่งอยู่ทำไม ยังไม่มารีบเย็บแผลอีก”
“มาแล้ว มาเดี๋ยวนี้” อันหลิงหยุนรีบเข้าไปช่วย
ขณะที่ผู้เฒ่ากำลังจะเดินจากไปก็เห็นรอยฝีเย็บของอันหลิงหยุนดูไม่เลว จึงสั่งว่า: “แผลเย็บทั้งหมด ให้น้องชายผู้นี้เป็นผู้จัดการก็แล้วกัน”
อันหลิงหยุนยังคงมีสมาธิอยู่ คนอื่นตอบว่าครับ นางเองก็ตอบด้วย
เมื่อเย็บแผลเสร็จ อันหลิงหยุนก็เช็ดเหงื่อที่อยู่บนใบหน้า เตรียมตัวที่จะพักผ่อน ก็มีคนคนหนึ่งเข้ามาคว้าที่ข้อมือของอันหลิงหยุน แล้วลากนางไปจนอันหลิงหยุนเกือบจะล้ม แต่เมื่อเห็นคนคนหนึ่งที่มีแผลขนาดใหญ่ที่ท้องอยู่ตรงหน้า อันหลิงหยุนก็ยังไม่ทันได้มีเวลาคิด ก็รีบเข้าไปเย็บแผลให้ในทันที
ผู้เฒ่าผ่าตัดอยู่อีกด้านหนึ่ง และคอยหันมองอันหลิงหยุนอยู่เป็นครั้งคราว
อันหลิงหยุนยุ่งจนลืมเวลา ตั้งแต่เริ่มการรบ กรมกองทัพหมอทหารรองรับผู้บาดเจ็บกว่าสามร้อยคนแล้ว คนที่เจ็บหนักยังไม่ทันจะรักษาให้ดีขึ้นก็ตายเสียก่อน ส่วนคนที่เจ็บไม่มากก็เย็บแผลเล็กน้อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว
ส่วนมากจะเป็นการเย็บแผล
แต่โดยปกติแล้วกรมกองทัพหมอทหารเย็บแผลซับซ้อนมาก ตอนที่อันหลิงหยุนเตรียมลงมือทำงาน นอกจากขจักพาแล้ว นอกนั้นก็ไม่ต้องทำอะไร ใช้แค่เพียงเข็มเย็บผ้าหนึ่งเล่ม กับด้ายหนึ่งกระสวย ก็สามารถเย็บแผลบนเนื้อให้ปิดสนิทได้แล้ว
การรบครั้งนี้กินเวลาไปจนกระทั่งถึงค่ำ ด้านหน้ามีคนวิ่งเข้ามาบอกข่าวดีว่า รบชนะแล้ว แม่ทัพซ่านเต๋อแห่งหวูโยกั๋วถูกเอาชนะแล้ว ข้าศึกต่างทิ้งเมืองหนีกันไปหมดแล้ว
อันหลิงหยุนได้ยินว่ารบชนะก็เย็บแผลต่อด้วยท่าทีที่สงบ
หมอทหารคนอื่นๆวิ่งออกไปด้านนอกกันหมด แล้วตะโกนกู่ร้องกันด้วยความยินดี
คนในกรมกองทัพหมอทหารเหลืออยู่ไม่มาก อันหลิงหยุนเย็บแผลคนสุดท้ายเสร็จ ขอยกมือขึ้นจับแขนเสื้อมาเช็ดเหงื่อหายใจเข้าหนึ่งครั้ง ถอยหลังไปสองก้าวแล้วหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ แล้วพิงจนรู้สึกว่าลุกไม่ขึ้นแล้ว
ผู้เฒ่าวางงานที่อยู่ในมือลงแล้วล้างมือ ใช้ผ้าซับเหงื่อสีขาวเช็ดที่มือ ถอดผ้ากันเปื้อนสีเทาขึ้นสะบัด แล้วแขวนขึ้นบนชั้นอย่างดี
ตอนนี้เองอันหลิงหยุนถึงได้สังเกตเห็นว่า ฝั่งตรงข้ามมีผู้เฒ่าที่ผมคิ้วและหนวดเคราเป็นสีขาวยืนอยู่
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้าม อันหลิงหยุนก็ลุกจากเก้าอี้ขึ้นมานั่งอย่างดีด้วยความเคารพ แล้วหันไปพยักหน้าให้แก่ผู้เฒ่าตามมารยาท
“เหนื่อยแล้วล่ะสิ?” ผู้เฒ่านั่งลง แล้วหันไปยิ้มให้อันหลิงหยุน แล้วถามด้วยสีหน้าอ่อนโยน
อันหลิงหยุนพยักหน้า: “เหนื่อย”
“อืม แต่ว่าเจ้าก็เก่งมากนะ! ข้ามีผู้ช่วยเจ็ดแปดคน ไม่มีใครเลยสักคนที่เป็นเหมือนกับเจ้า มีสมาธิขนาดนี้ เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องใหญ่สักหน่อยก็หนีหายกันไปหมด เจ้าทำงานมากที่สุด และรอบคอบที่สุด”
“ยังดีที่อาจารย์ของข้าสอนมาดี” อันหลิงหยุนยิ้มอย่างซุกซน
ผู้เฒ่าพยักหน้า: “เป็นศิษย์ที่จบออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะยกย่องอาจารย์ตัวเองต่อหน้าผู้อื่น เด็กคนนี้โตแล้ว พอที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ได้”
อันหลิงหยุนรู้สึกเก้อเขิน นางเพียงแค่พูดไปอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นจบมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ทำไมนางยังไม่เคยกลับไปเยี่ยมอาจารย์เลยสักครั้ง?
อาจารย์ของนางเดิมทีนั้นชอบนางมาก ทุ่มเทปลูกฝังนางอย่างดี แต่ท้ายที่สุดแล้วเป็นอย่างไรล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...