ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 661

บทที่ 661 ประหารอันเสี่ยวฮวน

ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ถูกเรื่องนี้ทำให้ทรงรู้สึกหดหู่พระทัยมากเช่นกัน กองทัพได้รับชัยชนะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่เกริกก้อง เดิมทีเป็นเรื่องที่จะต้องสร้างความยินดีปรีดา เกษมสันต์สำราญอย่างยิ่ง แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่า โดนอันเสี่ยวฮวนนั่น ทำจนเรื่องออกมาเป็นอย่างนี้ไปเสียได้

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรแม่ทัพอัน: " แม่ทัพอัน เรื่องนี้เจ้าจะอธิบายอย่างไร?"

"หม่อมฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย หม่อมฉันไม่มีลูกชายบุญธรรม ตัวหม่อมฉันอยู่ในเมืองหลวงมาโดยตลอด เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหม่อมฉัน ฝ่าบาท มันเป็นไม่ได้ที่แค่มีใครสักคนพูดว่าหม่อมฉันมีลูกชาย หม่อมฉันก็จะมีลูกชาย หากหม่อมฉันมีลูกชายจริงๆ หม่อมฉันจะไม่มีผู้สืบทอดต่ออยู่อย่างนี้หรอกหรือ?"

สีหน้าของแม่ทัพอันน่าเกลียดจนดูไม่ได้ ปรายสายตามองไปที่แม่ทัพฮั่วด้วยความโกรธเคือง: "แม่ทัพฮั่ว เจ้าเป็นคนที่มีลูกชายนี่ ลูกชายของเจ้าแต่ละคนก็ล้วนกล้าหาญเชี่ยวชาญการศึก แต่ข้าไม่มีแบบนั้น

จนมาวันนี้ ลูกสาวของแม่ทัพฮั่วก็ยังร้ายกาจถึงเพียงนี้ คิดจะรังแกข้าอย่างนั้นใช่หรือไม่? "

ทันทีที่แม่ทัพอันพูดเช่นนี้ แม่ทัพฮั่วก็รู้สึกอับอายขึ้นมาบ้างแล้ว

แม่ทัพฮั่วแอบบ่นพร่ำรำพันในใจ อันจือซานไม่ใช่คนใจคอคับแคบ ไม่เปิดกว้างแบบนี้นี่นา

"อ๋องเสียน อ๋องจุ้นหย่ง กลับกันลองให้พวกเจ้าเป็นฝ่ายพูดยืนยันดีกว่า ว่ามีคนที่ชื่ออันเสี่ยวฮวนผู้นี้อยู่จริงหรือไม่ ? เขาพูดว่า เขาเป็นลูกชายบุญธรรมของแม่ทัพอันอย่างนั้นหรือ? ในตอนนั้นอ๋องเสียนก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาก็ยอมรับออกมาแล้ว”

ฮ่องเต้ชิงหยู่และคนอื่น ๆ พากันมองไปที่กงชิงวี่กับอ๋องจุ้นหย่ง

กงชิงวี่พูดขึ้นว่า: "มีบุคคลนี้อยู่จริง แต่ข้าไม่ได้บอกว่า เขาเป็นลูกบุญธรรมของท่านพ่อตา"

แม่ทัพฮั่วตะลึงงันงวยงง เป็นความจริงที่ว่า กงชิงวี่ไม่ได้พูดอย่างนั้นจริงๆ

แต่แม่ทัพฮั่วก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะถูกปั่นหัวได้ง่ายๆ

"อ๋องเสียนไม่ได้พูด แต่อันเสี่ยวฮวนผู้นั้นเป็นคนพูดเอง อีกทั้งหลังจากนั้นเจ้าก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ อ๋องจุ้นหย่งสามารถเป็นพยานได้" แม่ทัพฮั่วหันไปมองอ๋องจุ้นหย่ง แววตาคมกริบราวพยัคฆ์ของเขาจ้องมองอ๋องจุ้นหย่งเขม็ง ราวกับว่าถ้าอ๋องจุ้นหย่งกล้าพูดโกหกออกมาสักประโยค เขาจะไม่ปล่อยให้อ๋องจุ้นหย่งรอดไปได้อย่างไรอย่างนั้น

อ๋องจุ้นหย่งตอบไปตามความจริง: "ทูลฝ่าบาท อันเสี่ยวฮวนได้รายงานตัวในตอนขานชื่อตระกูลว่า เขาเป็นลูกชายของแม่ทัพอันจริงๆพ่ะย่ะค่ะ"

“ หืม?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ ยังต้องทรงทอดพระเนตรแม่ทัพอันอย่างอดไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้แล้ว เรื่องนี้ไม่มีทางสิ้นสุดอย่างแน่นอน

" แม่ทัพอัน เจ้าจะอธิบายอย่างไร?"

"หม่อมฉันไม่มีอะไรจะพูด ถึงแม้จะเคยเห็นคนผู้นี้จริงๆ อีกทั้งคนผู้นี้ยังมีวีรกรรมในการสู้รบสร้างความดีความชอบไว้ไม่น้อย เช่นนั้นในตอนนี้ ตัวเขาไปอยู่เสียที่ไหนแล้วหรือ?"

แม่ทัพอันสีหน้าไม่พอใจ เขาเองก็ไม่ใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่าย ๆ เช่นกัน

ท้องพระโรงบังเกิดความโกลาหลอลหม่านอย่างหนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรแม่ทัพฮั่ว: "แม่ทัพฮั่ว แม่ทัพอันไม่เคยได้ยินเรื่องของลูกบุญธรรมมาก่อน เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?"

"ฝ่าบาท หม่อมฉันขอบังอาจค้นจวนแม่ทัพ รวมถึงจวนอ๋องเสียน หากว่าไม่มี จะขอปิดล้อมทั่วทั้งเมืองหลวง เพื่อดำเนินการสืบสวน ค้นหาอย่างละเอียดต่อไปพ่ะย่ะค่ะ"

แม่ทัพฮั่วไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าจะหาคนผู้นี้ไม่พบ

"ฝ่าบาท หรืออาจเป็นเพราะมีลูกสาวบ้านอื่น ที่เกิดชอบพอเจ้าหนุ่มผู้นี้เข้า จึงช่วยซ่อนตัวเขาเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ?" แม่ทัพฮั่วเองยามนี้ ก็ไม่มัวมาสนใจหน้าตาอะไรแล้วเช่นกัน

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงนิ่งงัน แต่แม่ทัพอันกลับมีท่าทีไม่พอใจ: "แม่ทัพฮั่ว นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าซ่อนหรือไม่ซ่อน เจ้าเอาแต่บอกว่าข้ามีลูกชาย แต่ที่จริงแล้ว ข้าไม่มีลูกชายอย่างแน่นอน หากเรื่องนี้เล่าลือกันออกไป มันจะไม่กลายเป็นเรื่องตลก ให้ผู้คนหัวเราะเยาะกันหรอกหรือ ?”

แม่ทัพอันก็ไม่ยอมเลิกไม่ยอมรา ฮ่องเต้ชิงหยู่ปรายพระเนตรมองดูเขาครู่หนึ่ง แล้วปล่อยให้ทั้งสองคนถกเถียงกันต่อไป ฮั่วฉิงยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงกลับเป็นฝ่ายที่สงบสติอารมณ์ลงมา

ไม่ว่าอันเสี่ยวฮวนผู้นี้จะเป็นลูกชายของแม่ทัพอันหรือไม่ ก็ยืนยันได้ว่ามีคนผู้นี้อยู่จริงๆ คนอื่นอาจไม่เชื่อได้ แต่นางไม่มีทางทำเป็นว่าตัวเองตาบอด มองไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร แสร้งทำเสมือนว่าหลับฝันยามปลายวสันต์ ต้นสารทฤดูเช่นนั้นเป็นแน่

"ฝ่าบาท อันเสี่ยวฮวนผู้นี้เป็นใครไม่สำคัญ หม่อมฉันจำเป็นต้องตามหาเขาให้พบให้ได้ เขาเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับหม่อมฉัน แล้วหม่อมฉันเองก็ตกปากรับคำไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ ต่อให้หม่อมฉันต้องตาย ก็จะไม่ยอมมีการแต่งงานครั้งที่สองเด็ดขาด ชื่อเสียงผู้หญิงนับเป็นสิ่งสำคัญ

ยิ่งชีพ ขอฝ่าบาททรงเมตตาพระราชทานสมรสครั้งนี้ด้วยเถิดเพคะ! "

"หา?" ฮ่องเต้ชิงหยู่ตกพระทัยจนผงะไปเช่นกัน เรื่องนี้มันคือการประหารก่อนค่อยกราบทูลชัดๆ หาไม่เจอแต่ต้องหามาให้จงได้ เรื่องแบบนี้มันไม่กลายเป็นเรื่อง ไล่เป็ดให้ขึ้นไปยืนบนคอนหรอกหรือ? ( ใช้เปรียบกับการบีบให้ทำเรื่องที่ความสามารถไม่ถึง )

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรสองแม่ทัพ ที่ตอนนี้แข่งกันยืนหน้าแดงหูแดงอยู่ ทั้งสองต่างก็รอให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงตรัสอะไรออกมาบ้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน