บทที่744ราชวังหนานอี้ดินแดนไร้ผู้คน
ซูอู๋ซินยิ้ม :“ดูแล้วระหว่างพวกเจ้าคงจะยังไม่ถึงจุดสูงสุดของการเสียความบริสุทธิ์ เจ้าถึงยังได้เขินอายเช่นนี้ ช่างเหมือนกับเสด็จแม่ของเจ้าจริงๆ ”
อันหลิงหยุนอยากจะฟาดมือออกไปตบสักครั้ง มีเสด็จพ่อที่ไหนกันที่พูดเรื่องเช่นนี้
“อีกอย่างคือ ราชาหนอนพิษกู่จะร้ายกาจหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนิสัยของเจ้า หากเจ้าอ่อนแอ เขาก็จะอ่อนแอ หากเจ้ามีนิสัยที่โหดเหี้ยม เขาก็จะโหดเหี้ยม แต่ว่าข้าดูแล้วเจ้าเลี้ยงดูเขานั้นกำลังพอดี ไม่เยือกเย็นไม่รุ่มร้อน อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ แข็งแต่กระด้างกระเดื่อง ”
อันหลิงหยุนไม่ตอบกลับ เพราะนางคร้านที่จะตอบแล้ว
“ไปเถอะ พวกเราออกไปกันก่อน ข้าอยากจะพบกับเสด็จแม่ของเจ้าเต็มทีแล้ว ”ซูอู๋ซินยิ้มราวกับดอกท้อที่เบ่งบานอันหลิงหยุนที่เดินตามหลังก็พลันคิด ท่านพบก็คงจะโกรธตายเป็นแน่ เพราะอ๋าวชิงนั้นอายุน้อยกว่าท่านมาก ส่วนท่านตอนนี้ราวกับกระดูก ท่านไม่กลัวว่าจะต้องไปต่อสู้กับสามตำหนักลานทั้งหกแล้วสนมทั้งเจ็ดสิบสองคนอีกก็ให้รู้ไป
สองพ่อลูกเดินออกมาจากสุสานจักรพรรดิก็พบว่าด้านนอกมีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็มีคนที่สวมชุดคลุมสีดำแถบทอง อายุก็ไม่น้อยแล้ว บนหัวของเขาปักเข็มเงินเอาไว้สะท้อนส่องประกายอยู่ใต้จันทรา
โดยด้านหลังของเขามีคนอีกยี่สิบกว่าคนยืนอยู่ สายตาของคนเหล่านั้นต่างไร้ความรู้สึก แววตาหม่นหมอง แต่พวกเขากลับดุร้ายอย่างมาก
อันหลิงหยุนหันไปหาซูอู๋ซิน:“พวกเขาคือใคร?”
“พวกเขาเป็นสมุนของซูอู๋เหิ้ง ไปยืนด้านหลังเสีย”เมื่อซูอู๋ซินพูดเช่นนั้นอันหลิงหยุนจึงต้องเดินไปด้านหลัง จากนั้นซูอู๋ซินก็ขยับปากท่องอะไรบางอย่าง ก่อนที่บริเวณโดยรอบจะมีการสั่นสะเทือน เสียงซู่ซ่าเริ่มดังขึ้น อันหลิงหยุนจึงนำเอาราชาหนอนเก็บเข้าไปไว้ในถุงกระเป๋า ทั้งสองเจรจากันราชาหนอนก็ไม่ยินยอมที่จะเข้าไป เพราะรู้สึกว่ามันอันตราย แต่เพราะอันหลิงหยุนให้คำสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้น ดังนั้นจึงสามารถหลอกให้ราชาหนอนกลับเข้าไปจนได้
ในตอนนี้โดยรอบเกิดการต่อสู้ขึ้นมาอย่างกึกก้อง จนราชาหนอนถูกกระตุ้น
ราชาบินออกมาหวังจะช่วยเหลือ แต่บนพื้นกลับปรากฏงูจำนวนมากออกมา แล้วเหล่างูพิษก็พุ่งตรงเข้าไปโจมตีคนเหล่านั้น แล้วสงครามระหว่างงูกับมนุษย์จึงได้เริ่มขึ้น
อันหลิงหยุนที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ด้านหลังไม่ได้มีความกังวลใจใดๆ ทั้งที่คนเหล่านั้นจะร้ายกาจเช่นกัน ไม่เกรงกลัวงู โดยคนที่ยืนอยู่ตรงกลางนั้นกำลังขยับปากท่องอะไรบางอย่างอยู่ ราวกับกำลังควบคุมคนเหล่านั้น แต่แล้วคนเหล่านั้นก็ถูกจัดการโดยงูที่อยู่บนพื้น
อีกฝ่ายทรุดลงไปกับพื้นถึงกับไอเลือดออกมา
“องค์ชายรองยังคงร้ายกาจเช่นเดิมเลย คิดไม่ถึงเลยว่าหลายปีมานี้อยู่ในสถานที่ไร้วันเวลา ยังไม่สูญเสียทักษะไปเลย ”
ซูอู๋ซินไขว้มือทั้งสองไว้ด้านหลัง แล้วยิ้มยังนิ่งเฉย :“เจ้าแก่แล้ว แต่ข้าไม่ พวกเจ้าไม่ควรที่จะให้ข้ามีชีวิต เพราะข้ายังมีชีวิตอยู่นั่นก็จะถึงเป็นเวลาตายของพวกเจ้า ”
“ในตอนนั้นเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราด้วยซ้ำ เหตุใดกัน?”ชายคนนั้นยังไม่อาจตายใจ
“เพื่อลูกสาวของข้า เพื่อคนรักของข้า ในตอนนั้นซูซูได้ตั้งครรภ์แล้ว หากข้าสู้กับพวกเจ้า อาจทำให้นางแท้งได้ หากข้าตาย โดยที่พวกนางยังมีชีวิตอยู่ นั่นถือเป็นผลประโยชน์สูงสุดแล้ว ซูอู๋เหิ้งนั้นละโมบเกินไป เพียงแค่ฆ่าข้าเสียทุกอย่างก็สิ้นสุดแล้ว แต่เขากลับต้องการราชาหนอนพิษกู่ เวลานี้ถือว่าดีเพราะข้าออกมาแล้ว เวลาตายของเขาก็ได้มาถึงแล้ว ”
“เจ้าคิดจะสังหารฮ่องเต้?”
ชายผู้นั้นเดินเข้ามาหนึ่งก้าวอย่างยากลำบาก ซูอู๋ซินหน้านิ่งลงทันทีเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะมีบางอย่างออกมาจากปากของเขา ตัวมันเต็มไปด้วยเลือดคลานอยู่บนพื้น แต่เพียงครู่เดียวมันสลัดตัวเป็นสีขาวบินพุ่งตรงมาหาซูอู๋ซิน ซูอู๋ซินรีบท่องคาถาอย่างรวดเร็ว แล้วงูที่อยู่บนพื้นก็เคลื่อนตัวไปหาพวกเขาทันที แต่ทันใดนั้นสิ่งของสีขาวนั้นก็แบ่งออกเป็นสองตัว ตัวหนึ่งพุ่งไปโจมตีซูอู๋ซิน อีกตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาโจมตีอันหลิงหยุน สีหน้าของซูอู๋ซินหมองลงทันที ไม่ทันการที่จะจัดการการกับทั้งสองตัวได้ จึงหันหลังไปโอบอันหลิงหยุนเอาไว้ เพื่อที่จะปกป้องอันหลิงหยุน
แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าตัวสีดำในถุงกระเป๋าของอันหลิงหยุนจะบินออกมา เพียงชั่วครู่มันก็บินทะลุหนอนพิษกู่สีขาวสองตัว หนอนพิษกู่ร่วงลงไปบนพื้นพลันกระพือปีกสองครั้ง อันหลิงหยุนเบิกตากว้างมองดูหนอนพิษกู่สีดำบินลงมาเกาะตรงไหล่ซูอู๋ซิน แล้วคลานไปมา
ซูอู๋ซินผลักตัวออกจากอันหลิงหยุน หันหน้าไปดูหนอนพิษกู่ดำตัวน้อยบนไหล่ ขนาดของมันเทียบเท่ากับเล็บ เพียงแต่ลำตัวเป็นสีดำสนิท พร้อมกับเปล่งประกาย ซึ่งเป็นแสงประกายที่ส่องสว่างออกมาราวกับไข่มุกดำ
ชื่อจินจื่อกลัวราชาหนอนพิษกู่ จึงหลบเข้าไปในถุงกระเป๋าของอันหลิงหยุน ด้วยตัวที่สั่นเทา
อันหลิงหยุนก็รีบจับถุงกระเป๋าเอาไว้ ไม่ให้ราชาหนอนพิษกู่เข้าไป
ซูอู๋ซินเอื้อมมือไปลูบราชาหนอนพิษกู่ :“เจ้าออกมาแล้วหรือ?”
ราวกับว่าราชาหนอนพิษกู่จะเข้าใจคำพูดของซูอู๋ซิน จึงส่งเสียงร้องออกมาสองครั้ง ตอนนี้อันหลิงหยุนถึงได้เห็นชัดว่าราชาหนอนพิษกู่นั้นไม่ได้มีความแตกต่างจากชื่อจินจื่อเลยสักนิด แม้แต่ขนาดยังเหมือนกันอีกต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...