ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 839

บทที่ 839 ขุนนางมีความต่าง

หยุนโล๋ชวนเข้าไปจูบอ๋องชวน แยกออกไปมองไปที่หน้าของอ๋องตวนที่งุนงง “ท่านอ๋อง เจ้าอย่าคิดอย่างนั้น หลังจากวันนี้แค่คิดถึงแง่ดีของนาง เอาเรื่องดีเหล่านั้นว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนที่เหลือลืมมันทิ้งเสียให้หมด มีแค่สิ่งนี้ เจ้าถึงจะไม่เห็นเรื่องที่นางผลักข้าในฝัน ถึงจะไม่ถูกนางทำให้ตกใจตื่น

วันเวลาผ่านไปนานแล้ว ท่านอ๋องก็จะลืม

ในใจของข้าท่านอ๋องคือภูมิทัศน์ที่สวยงามที่สุด ช่วงเวลานี้มาถึง ความพยายามของท่านอ๋องข้าล้วนแต่มองเห็น ท่านอ๋องไม่ต้องไปเปรียบกับเว่ยหลิงชวน เขาก็ปัญญาชนคนหนึ่ง มองไปก็อ่อนแอ คนในตำหนักกั๋วกงดีกับเขา ก็เขาทั้งแขนเล็กขาเล็ก ไม่กลัวพังหรือไง?

ท่านอ๋องไม่เหมือนกัน ในเมื่อเป็นอ๋องชิน แต่กลับไม่อ่อนแอ

ตอนนี้คนของตำหนักกั๋วกงล้วนพูดลับหลังว่าท่านอ๋องเปลี่ยนไป แล้วยังพูดว่าข้าได้รับของมีค่าแล้ว ท่านอ๋องมีความสามารถทั้งบุ๋นทั้งบู๊ เป็นคนมีเมตตา ยังมั่นคง”

“ไม่จำเป็นต้องหลอกข้า มาจนถึงวันนี้ที่ตำหนักกั๋วกง สามารถได้นั่งข้างกั๋วกงข้าก็รู้สึกว่าข้าดูสูงส่งมากแล้ว”

อ๋องตวนนึกถึงสถานะในตำหนักกั๋วกง เขาก็เปลี่ยนเป็นซึมเศร้าทันที

“ท่านอ๋องรอก่อนเถอะ รอหลังจากนี้ ท่านอ๋องอยู่ในกั๋วกงจะยิ่งได้รับความสำคัญ”

“จริงหรือ?” อ๋องตวนสงสัย

หยุนโล๋ชวนพยักหน้า “จริงอย่างแน่นอน ข้ารับรอง!”

“อืม”

สองคนกลับไป อ๋องตวนเดินไปพลางสังเกตสี่ทิศ ใบหน้าราวกับกษัตริย์ แต่แววตากลับเหมือนโจร

คนใช้ทั้งหลายแกล้งทำเป็นว่ามองไม่เห็น หยุนโล๋ชวนถามกลับ “ท่านอ๋องอยากทำเรื่องอะไรที่ไม่สามารถแพร่งพรายได้ใช่หรือไม่ ทำมีแววตาเช่นนั้น?”

“ข้าแค่รู้สึกว่า อีกไม่กี่วันแล้ว ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังมากเกินไป”

หยุนโล๋ชวนไม่ค่อยเข้าใจ “ท่านอ๋องพูดอะไร?”

“เมื่อวานข้าลองถามหมอหลวงฮู๋ ร่างกายของชวนเอ๋อต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเข้าใกล้ได้ เขาว่าวันนี้ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาแล้ว

ถ้า......”

อ๋องตวนพูดได้ครึ่งเดียวก็ไม่พูดแล้ว หยุนโล๋ชวนได้ยินแล้ว

หน้าก็แดงขึ้นมา

“พูดซี้ซั้ว!”

กลับถึงห้อง อ๋องตวนปิดประตูลง ก็ปลดเสื้อผ้าบนตัวออก หยุนโล๋ชวนนั่งอยู่บนเตียงมองเขา

“ท่านอ๋อง ทำเรื่องแบบนี้กลางวันแสกๆ ไม่กลัวคนเอาไปพูดเล่นหรือ?” หยุนโล๋ชวนก้มหน้าลง ไม่กล้ามองอ๋องตวน

อ๋องตวนที่ไหนจะไปควบคุมเรื่องพรรนั้นได้ ไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงตรงหน้าของหยุนโล๋ชวน

“ข้ากลัวอะไร ข้าก็ไม่ได้ไปหาคนข้างกาย” อ๋องตวนอุ้มนางขึ้นไปวางในเตียง

“ข้าเบาหน่อย ถ้าไม่เหมาะสม ก็บอกข้า”

แต่ไหนแต่ไรมาหยุนโล๋ชวนไม่พูดอะไร หันหน้าหนีไป

จวนแม่ทัพก็เตรียมงานได้อย่างเหมาะสมว่องไว อันหลิงหยุนก็ได้ไปพบหยุยจิ่นที่ต้าจงเจิ้งย่วนอีกหนึ่งรอบ

อยู่จนกระทั่งเย็นอันหลิงหยุนถึงกลับ กังวลว่าจะเกิดเรื่อง ตกดึกมีกฎอัยการศึกในเมืองหลวง

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังรออยู่ในวัง นานแล้วทำไมแม่ทัพอันยังไม่เข้าวังมาอีก ยังเรียกคนไปดูที่ประตูวังครั้งแล้วครั้งเล่า

อันหลิงหยุนปกปิดข่าวทุกอย่างไม่ให้เข้าสู่วังหลวงไว้ก่อน รอเรื่องแต่งงานจบแล้วค่อยพูด

ฮ่องเต้ชิงหยู่รอไปรอมา รอจนกระทั่งวันที่สองตอนกลางวัน

แม่ทัพอันกับหยุนจิ่นไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยาแล้ว

ฮ่องเต่ชิงหยู่ทบทวนฎีกาแล้วหยุดไปชั่วขณะ วางฎีกาลงลุกขึ้นเดินไปรอบๆตำหนักจรุงจิตถาม “ข้างนอกมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม?”

“ทูลฝ่าบาท ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานขององค์หญิง”

“ได้ยินว่า องค์หญิงองค์ไหนละ?”ฮ่องเต้ชิงหยู่หน้าเต้มไปด้วยความไม่เข้าใจ

ขันทีน้อยรีบตอบว่า “เป็นองค์หญิงหยุนจิ่นที่แต่งตั้งใหม่”

“แต่งงานแล้ว?” ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ถามว่า “งั้นคนที่แต่งด้วยเป็นใคร?”

“คือแม่ทัพอัน”

“เหลวไหล ข้าอยากให้เขาแต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฮ่องเต้ชิงหยู่พิโรธ สีหน้าเลวร้ายมาก ขันทีน้อยตกใจคุกเข่าลงบนพื้น

ฮ่องเต้ชิงหยู่ไปกลับตำหนักจรุงจิตอยู่ไม่กี่ครั้ง หันกลับไปมองขันทีน้อย “ข้าอยากให้เขาแต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ขันทีน้อยรีบหมอบศีรษะลงกับพื้นอย่างไว “ฝ่าบาท เรื่องแต่งงานข้าน้อยไม่รู้ ข้าน้อยเพิ่งได้ยินวีงเฉาเฟิ่งที่นั่นพูดมา ยังได้ยินว่าไทเฮากำลังเตรียมสินสอดอยู่ ยังมีฮั๋วไท่เฟยก็ล้วนแต่มีของขวัญมามอบ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน