ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 849

บทที่ 849 ขโมยหนังเสือ(2)

พวกเด็กๆได้อยู่ต่อสมประสงค์ อันหลิงหยุนมอบเด็กๆให้หยุนจิ่น จากนั้นจึงกลับไปก่อน

วันนี้หยุนจิ่นมีความสุขเป็นอย่างมาก พาเด็กๆออกจากห้องเดินดูรอบๆจวนแม่ทัพหนึ่งรอบ

แม่ทัพอันนึกเรื่องหนึ่งออกมาได้ อากาศเย็นแล้ว จะต้องตระเตรียมห้องให้หยุนจิ่น แต่ถ้าหากมีเตาอั้งโล่มากเกินไป ในห้องก็จะเต็มไปด้วยควันและความร้อน ก็จะไม่ดีต่อสุขภาพ

เมื่อนึกถึงว่าตนเองยังมีหนังเสืออยู่อีกสองผืน เดิมทีตั้งใจที่จะให้อันหลิงหยุนเป็นสินสอดตอนแต่งงาน ถ้าเป็นเช่นนั้นคงจะดูสมศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก

แต่ในตอนนั้นกงชิงวี่เป็นเช่นนั้น แม่ทัพอันเห็นแล้วไม่เข้าตา จึงไม่ได้นำออกมา

ตอนนี้เมื่อนึกขึ้นมาได้ จึงไปที่ห้องฝึกวิทยายุทธ เตรียมที่จะนำหนังเสือออกมา เมื่อเปิดช่องลับดูแม่ทัพอันก็ต้องผงะ หนังเสือล่ะ ?

หาอยู่ครู่ใหญ่ แม่ทัพอันก็ยังหาหนังเสือไม่เจอ จึงรู้สึกโมโหขึ้นมา

แม่ทัพอันเดินออกมาจากห้องฝึกวิทยายุทธแล้วตรงเข้าไปถามพ่อบ้าน : “ใครเข้าไปในห้องฝึกวิทยายุทธบ้าง ?”

พ่อบ้าเองก็ช่างซื่อนัก : “เมื่อครู่ท่านเพิ่งเข้าไปไม่ใช่หรือ ?”

“เหลวไหล หมายถึงคนอื่น !”

“ไม่เห็นขอรับท่านแม่ทัพ มีอะไรหายไปหรือขอรับ ?” พ่อบ้านบ่นพึมพำ หรือว่าหนังเสือหายไป ?

“......” แม่ทัพอันรู้สึกหดหู่ จึงเดินกลับไปหาหยุนจิ่น เมื่อเข้าไปด้านในก็ถามพวกเด็กๆว่าได้เข้าไปในห้องฝึกวิทยายุทธบ้างหรือไม่ แต่พวกเด็กๆล้วนส่ายหน้า

“มีอะไรหรือท่านแม่ทัพ ?” หยุนจิ่นสงสัย

“หนังเสือที่เมื่อก่อนเคยเตรียมไว้ให้เป็นสินสอดของหยุนหยุนหายไปแล้ว” แม่ทัพอันนั่งลง สีหน้าไม่สู้ดีนัก

หยุนจิ่นรู้สึกแปลกใจ : “แล้วทำไมจู่ๆถึงหายไปได้ล่ะคะ ?”

“ไม่รู้เหมือนกัน วางไว้สิบกว่าปีแล้ว ได้กลับมาตอนที่หยุนหยุนอายุสามขวบ ก่อนหน้านี้ตอนที่นางแต่งงานได้เคยนำออกมาดู หนังเสือก็ยังอยู่ เดิมทีตั้งใจจะมอบให้เป็นสินสอดไปพร้อมกันกับนาง แต่ตัวข้านั้นรู้สึกไม่พอใจกงชิงวี่ จึงไม่ได้ให้ไป คิดเอาไว้ว่าวันหลังค่อยว่ากัน ตอนนี้อากาศหนาวจึงนึกขึ้นมาได้ ตั้งใจที่จะนำออกมาให้จิ่นเอ๋อใช้เป็นผ้าห่มคลุมให้ร่างกายอบอุ่น แต่กลับไม่หาไม่พบเสียแล้ว ไม่รู้ว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

แม่ทัพอันรู้สึกจนใจ เสียดายหนังเสือทั้งสองผืนนั้นเป็นอย่างมาก ล้วนแล้วแต่เป็นราชาเสือทั้งสิ้น

หยุนจิ่นหันมองพวกเด็กๆที่ไม่ยอมหันมามองแม่ทัพอัน ก็พอจะเดาออก

“หายแล้วก็หายไปเถอะค่ะ ต่อไปก็ยังมีโอกาสอีก ที่นี่ก็ไม่ได้หนาวเย็นอะไรนัก ท่านแม่ทัพเองก็อบอุ่นขนาดนี้” หยุนจิ่นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แม่ทัพอันได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาสักหน่อย แต่หนังเสือหายไปแล้ว สำหรับแม่ทัพอันแล้ว ถือเป็นเรื่องไม่สำคัญอะไร

“อีกสักสองสามวันรอให้จวนสงบก่อน ค่อยหากันใหม่น่าจะหาเจอได้ไม่ยาก”

“ก็ดีค่ะ”

อันหลิงหยุนกลับไปหากงชิงวี่ แล้วจึงเล่าเรื่องหนังเสือให้ฟัง

“เหลือเอาไว้หนึ่งผืนให้ท่านพ่อตาเถอะ เผื่อท่านพ่อตาหาพวกเราเจอ อย่าลืมนึกถึงผลที่จะตามมาด้วย” กงชิงวี่รู้สึกว่าควรจะพบกันครึ่งทาง

อันหลิงหยุนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดว่า : “เดิมทีข้าตั้งใจจะให้เสี่ยวเฉียวหนึ่งผืน แล้วให้เด็กที่อยู่ในท้องคนนี้อีกหนึ่งผืน ถ้าหากให้ท่านพ่อ ก็ไม่เหลือแล้ว”

กงชิงวี่จนใจ : “เจ้าเอาของคนอื่นมา เจ้ายังกล้าพูดตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผยเช่นนี้อีก เจ้าไม่สามารถแยกหนังเสือสองผืนนั้นได้หรืออย่างไรกัน ?”

“ได้ยังไงล่ะเพคะ ? ต่อไปจะได้ใช้เป็นสินสอดในวันแต่งงาน มีหนังเสือสักผืนจะดูสมศักดิ์ศรีขนาดไหนกัน ?”

“ถ้าเช่นนั้นก็จงส่งเจ้าเสือน้อยไป ไม่ยิ่งสมศักดิ์ศรีหรอกหรือ มิหนำซ้ำยังช่วยปกป้องดูแลบ้านเรือนได้อีกด้วย ถ้าหากเจ้าเสือน้อยไม่เชื่อฟังแล้วล่ะก็ จับกินเสียก็สิ้นเรื่อง”

“......” อันหลิงหยุนหมดคำจะพูด จึงกลับไปนั่งลง

“ข้าจะไปบอกท่านพ่อตาเองว่า หนังเสือข้าเป็นคนเอาไป”

กงชิงวี่วางเจ้าห้าลง แล้วไปหาแม่ทัพอัน

เมื่อแม่ทัพอันรู้เรื่องนี้เข้าก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก : “เจ้าเอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”

“ตอนแต่งงาน ข้ามาที่จวนแม่ทัพ เห็นท่านพ่อตาเอาของบางอย่างซ่อนเอาไว้ในช่องลับในห้องฝึกวิทยายุทธ จึงแอบไปดู เมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกว่าดูสวยงามเป็นอย่างมากจึงได้เอาไป

เมื่อครู่หยุนหยุนบอกข้า หยุนหยุนตั้งใจจะเก็บเอาไว้หนึ่งผืน” กงชิงวี่รีบพูดทันที

แม่ทัพอันทำท่าทีเย็นชา : “หยุนหยุนพูดหรือว่าท่านพูด ?”

“หยุนหยุน”

กงชิงวี่พูดด้วยท่าทีเฉียบขาด แม่ทัพอันลองคิดๆดู ลูกชายก็เป็นลูกแท้ๆของตนเอง ส่วนลูกสาวเองก็เป็นแก้วตาดวงใจ ไม่สู้แบ่งให้คนละหนึ่งผืน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน