ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 917

บทที่ 917 ส่งเจ้าให้ไกลออกไปเป็นพันลี้

กงชิงหยุนเยนจำต้องกัดฟันไปหาเสี่ยวเฉียว นางขึ้นหลังมาแล้วไปพร้อมกับเสี่ยวเฉียว

เสี่ยวเฉียวพูดว่า : “ท่านแม่ปฏิบัติต่อเจ้าและข้าแบบเดียวกัน เพียงแต่เมื่อก่อนท่านแม่มักจะพาข้าและเจ้าหาไปไหนมาไหนด้วยตลอด ตอนที่เจ้าคลอดออกมาท่านแม่ก็ไม่อยู่เสียแล้ว ท่านแม่เองก็อยากจะใกล้ชิดกับเจ้าให้มากกว่านี้”

กงชิงหยุนเยนโกรธจนหน้าเขียว ไม่อาจจะรู้สึกมีความสุขขึ้นมาได้

เจ้าห้าเดินเข้าไปใกล้ๆนาง แล้วหยิกแก้มของกงชิงหยุนเยน : “เสียใจเหรอ ?”

“เปล่าสักหน่อย !”

“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมไม่ยิ้มล่ะ”

“ไม่ต้องมายุ่ง !”

“......” กงชิงหยุนเยนไม่ยอมไปหาเฟิ่งหลิงหยุน เอาแต่คอยเดินตามอยู่ตลอด

เฟิ่งหลิงหยุนซึ่งอยู่ในรถม้า หันออกมามองพวกเด็กๆ ที่อยู่ด้านนอก แล้วพูดว่า : “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะมีลูกมากมายขนาดนี้ ถ้าหากในวันข้างหน้าแต่งงานแล้วมีอีกล่ะก็......”

เฟิ่งหลิงหยุนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย : “ท่านอ๋อง วันข้างหน้าหม่อมฉันไม่อยากมีลูกอีกแล้ว”

“ข้าเองก็คิดว่าพอแล้ว รอให้พวกเขาคลอดลูกของตัวเอง แล้วค่อยช่วยพวกเขาเลี้ยงจะดีกว่า”

“เพคะ”

ระหว่างทางรถม้าเดินบ้างหยุดบ้าง แต่ก็ยังถือว่าเร็ว มีเพียงแค่เวลากินข้าวเท่านั้นที่พวกเขาจะลงมาจากรถ

ทุกครั้งกงชิงหยุนเยนอยากที่จะเข้าไปหาอันหลิงหยุน แต่เฟิ่งหลิงหยุนไม่ได้เรียกนางเข้าไปหา จึงจากที่นางจะเอ่ยปากก่อน

เดินทางกว่าสิบวันก็มาถึงชายแดน กงชิงหยุนเยนรู้สึกนึกเสียใจทีหลัง ยังไม่ได้เข้าไปในรถม้าแม้แต่วันเดียว ท่านพ่อมีท่านแม่แล้วก็ไม่สนใจนางอีกต่อไป

เจ้าห้าพูดกระตุ้น : “ยังไม่รีบไปอีก ถ้าช้ากว่านี้จะไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ”

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า !” กงชิงหยุนเยนปากแข็ง

เจ้าห้าไม่หยอกล้อนางอีกต่อไป แต่ออกคำสั่งแทน : “อยู่ข้างกายท่านแม้ต้องเชื่อฟัง”

“......หึ !” มาถึงชายแดนแล้ว จะให้อยู่ข้างกายท่านแม่อีกได้อย่างไร

พวกเจ้าห้าหันหลังขึ้นม้า : “ท่านแม่ มาถึงที่นี่แล้วพวกเราคงไม่ได้ไปต่ออีก ขอให้ท่านแม่เดินทางโดยสวัสดิภาพ !”

เฟิ่งหลิงหยุนลงมาจากรถม้า แล้วมองดูแต่ละคน จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเสี่ยวเฉียวแล้วมองนาง : “เจ้าเองก็ไม่เด็กแล้ว หากมีคนที่ชอบก็จงตกลงปลงใจซะ ไม่ว่าจะยังไง ขอเพียงแค่เจ้ามีความสุขก็พอแล้ว พ่อเจ้าเองก็บอกแล้วว่าเขาจะไม่ขัดขวาง”

เสี่ยวเฉียวผงะไป : “ท่านแม่ !”

“จริงๆ แล้ว เจ้าเป็นลูกสาวบุญธรรมของข้า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เจ้าเองก็ควรจะเปลี่ยนฐานะถึงจะดี พ่อของเจ้าช่วยเจ้าหาครอบครัวจนเจอแล้ว เดิมทีเจ้าเป็นคนของหวูโยกั๋ว ถึงแม้พ่อแม่ของเจ้าจะไม่อยู่แล้ว แต่ฐานะของเจ้าก็ยังอยู่

ต่อจากนี้พ่อของเจ้าจะช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้ เจ้าห้าเองก็จะช่วยเจ้าด้วย !”

เสี่ยวเฉียวหน้าแดง : “เสี่ยวเฉียวรู้ว่าไม่ควรทำเช่นนี้ แต่......”

“แต่กั๋วจิ้วเป็นคนมีความสามารถ เสี่ยวเฉียวเองก็ไม่ชอบพวกที่ถือดาบถือปืนถืออาวุธ กั๋วจิ้วเองก็เป็นคนที่มีความมุมานะ !”

เสี่ยวเฉียวก้มหน้าลง ใบหน้าแดงก่ำ

เฟิ่งหลิงหยุนหันมองกงชิงวี่ที่ผมขาวโพลนไปทั้งหัว : “ตอนนี้หม่อมฉันไม่อยู่ ทรงดูแลสุขภาพให้ดีนะเพคะ ดูแลพวกเขาให้ดี และดูแลตัวเองให้ดี”

“เจ้าเองก็เช่นกัน” สิบวันมานี้ กงชิงวี่เองก็รู้สึกได้รับการชดเชยบ้างเล็กน้อย ถึงแม้จะทำได้เพียงแต่แค่นั่งอยู่นิ่งๆ ด้วยกัน แต่ก็ถือว่าน้อยครั้งมากที่จะรู้สึกสบายใจเช่นนี้

เฟิ่งหลิงหยุนลังเลอยู่สักครู่ แล้วจึงเดินเข้าไปหากงชิงวี่ เงยหน้าขึ้นมองเขา : “หลังจากหม่อมฉันไปแล้ว อย่าเข่นฆ่าคนให้มากนัก แน่นอนว่าการสืบทอดรุ่นต่อๆ ไปให้คงอยู่เป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า หลังจากท่านอ๋องแล้ว จะมีรุ่นต่อๆ ไปอีกจริงๆ

ชีวิตคนนั้นสั้นเพียงไม่กี่สิบปี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมไปเสียทั้งหมด

อีกร้อยปีพันปีข้างหน้า ใช่ว่าจะมีใครจำใครได้ !

ท่านอ๋องทรงดูแลสุขภาพให้ดี หม่อมฉันจะรอวันที่ท่านอ๋องมารับหม่อมฉันโดยเร็ว !”

“ข้ารู้แล้ว” กงชิงวี่ลูบใบหน้าที่สะอาดสะอ้านของเฟิ่งหลิงหยุน จากนั้นจึงหันมองกงชิงหยุนเยน : “เจ้าไปกับท่านแม่ ยังมีบางสิ่งที่เจ้ายังขาดอยู่ หากในวันข้างหน้าเจ้าต้องออกเรือนไปจริงๆ นิสัยของเจ้าเช่นนี้ เกรงว่าคงจะต้องเสียเปรียบ ท่านแม่ไม่มีวันปล่อยให้เจ้าเสียเปรียบแน่นอน”

เฟิ่งหลิงหยุนปล่อยมือลง มองดูกงชิงหยุนเยนที่มีท่าทีตกใจเล็กน้อย นางไม่ได้อยากไป !

“ข้าจะอยู่กับท่านพ่อ !”

“เจ้าอยู่กับเขาสิบปีแล้ว ยังไม่พออีกหรือ ? เขาสอนความชั่วร้ายเลวทรามให้เจ้าหมดแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ใครจะกล้าสู่ขอเจ้า ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน