บทที่ 933 ล่อเสือออกจากถ้ำ
เฟิ่งหลิงหยุนได้ยินว่าเริ่มทำเริ่มทำสงครามกันแล้ว มองดูอ๋าวชิงครู่หนึ่ง อ๋าวชิงกล่าวว่า: “ในที่สุดก็เริ่มเปิดศึกกันแล้ว”
“ซูมู่ไห่มาแล้วใช่หรือไม่?”
“มาแล้ว”
อ๋าวชิงรู้สึกแปลกใจ: “เพราะอะไรเจ้าถึงมั่นใจว่าซูมู่ไห่จะมา หรือเจ้าคิดว่าซูมู่ไห่ก็มีความคิดอะไรกับเจ้าด้วย?”
“ในเมื่อเขาสามารถมาได้ ก็อาจจะมีความเป็นไปได้นี้อยู่ แต่จะพูดถึงความคิด ก็สู้หนานอี้ทั้งประเทศไม่ได้ ซูมู่ไห่เราเคยพบกันเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อย หยิ่งผยองอย่างมาก
พบกันครั้งนี้ เขาเปลี่ยนไปมาก ฉลาดและมองการณ์ไกลแล้ว
แต่เขาสามารถมาที่นี่ได้ ไม่ใช่เจตนาส่วนตัวของเขาอย่างแน่นอน ถึงแม้จะผสมผสานปนเปกันไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับหนานอี้ ยังห่างชั้นกันมาก”
“เช่นนั้นเหตุใดเขาถึงมาเวลานี้ได้?” อ๋าวชิงไม่เข้าใจ
“ข้อแรกรวมตัวกับประเทศเฟิ่งก็จะมีโอกาสที่จะชนะ ข้อสองเป็นเพราะข้า แต่งงานกับข้าเขาก็ยินดีจริงๆ ข้อสามฮ่องเต้หนานอี้มีใจที่ต้องการจะให้ลูกชายมีชีวิตรอด”
“ฮ่องเต้หนานอี้?”
“ลูกชายของฮ่องเต้หนานอี้มีไม่เยอะ คนมีความสามารถมีเพียงซูมู่ไห่กับซูมู่หรงในตอนนั้นเท่านั้น ซูมู่หรงมีความสามารถโดยกำเนิด น่าเสียดายที่เสียชีวิตเร็วเกินไป และซูมฟู่ไห่เป็นคนที่ฮ่องเต้หนานอี้เลี้ยงดูจนเติบโตมาด้วยตนเอง ตอนนี้เขาเป็นเช่นนี้ได้ฮ่องเต้หนานอี้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจไปไม่น้อย ดูจากมุมมองของฮ่องเต้หนานอี้ ซูมู่ไห่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
สองประเทศเริ่มทำสงคราม ไท่จื่อจะต้องสู้จนถึงที่สุดอยู่แล้ว และดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ หากกงชิงวี่โจมตีหนานอี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บซูมู่ไห่ที่ยอมตายแต่ไม่ยอมศิโรราบเอาไว้เด็ดขาด สุดท้ายซูมู่ไห่ก็จะเหลือแค่ทางตายเป็นเลือกทางเดียวเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฮ่องเต้หนานอี้จะไม่เอ็นดูสงสารลูกชายได้อย่างไร ตอนนี้เขาแก่แล้ว ไม่ได้มากรักแบบนั้นแล้ว หากจะพูดว่าตอนนั้นเขาจมปลักอยู่กับความรัก เช่นนั้นตอนนี้ก็ต้องการจะปกป้องสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของเขาเอาไว้
ซูมู่ไห่มาคุยเรื่องแต่งงาน เขาคิดว่านี่เป็นโอกาสอย่างหนึ่ง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตรอด”
“แต่ว่ามาประเทศเฟิ่งแล้วเขาก็จะกลับไป นอกจากนี้การสู้รบไม่ใช่แค่เรื่องเพียงไม่กี่วัน หรือว่าไม่กี่วันก็สามารถจบศึกหรือ?”
“คนอื่นอาจจะต้องต่อสู้กันสักพักหนึ่ง แต่กงชิงวี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาต้องการจะสู้หรือไม่เท่านั้นแล้ว หากเขาต้องการจะโจมตีจริงๆ ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถตีไปถึงเมืองหลวงของหนานอี้แล้ว นี่เป็นความกังวลอีกข้อหนึ่งของฮ่องเต้หนานอี้ เขาก็ยังคงรู้จักกงชิงวี่ สิบปีมานี้ ฮ่องเต้หนานอี้แก่แล้ว ความกังวลก็มีมากขึ้น จะต้องส่งคนไปสอดแนมกงชิงวี่แน่นอนอยู่แล้ว
สิบปีก่อนหากพวกเจ้ามีความตระหนักถึง ไปปิดล้อมจับกงชิงวี่ ฆ่าเขาเสียตั้งแต่ตอนนั้น ก็จะไม่มีวันนี้แล้ว
สิบปีก่อน ตอนที่ข้าจากที่แห่งนี้ไป คือตอนที่กำลังจะให้กำเนิดเสี่ยวหยุน ก่อนที่เสี่ยวหยุนจะเกิด ข้าก็ได้จัดเตรียมเฟยยิงและคนอื่นๆเอาไว้แล้ว คอยปกป้องกงชิงวี่ตลอดเวลา ก็เพราะว่าข้ารู้ ว่าในบรรดาพวกเจ้าต้องมีคนที่ต้องการจะฆ่ากงชิงวี่อยู่อย่างแน่นอน
สิบปีก่อนเขาเคยพิชิตหวูโยกั๋วในบันดล ถึงแม้นั่นจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเป็นผู้นำในการออกรบ แต่ตอนที่เขาอายุสิบสาม ได้ยินว่าเคยกวาดล้างประเทศเล็กๆที่อยู่รอบข้างประเทศต้าเหลียงมาแล้ว ทำให้ประเทศเหล่านั้นไม่กล้ารุกรานประเทศต้าเหลียงอีก นอกจากนี้ยังส่งบรรณาการให้ประเทศต้าเหลียงทุกปี
ตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุสิบสามเท่านั้น อายุสิบสามเพิ่งจะเริ่มเติบโต เขาก็สามารถกวาดล้างผู้รุกรานชายแดนได้แล้ว ความจริงนั่นเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงมาก เพียงแต่ไม่รู้ว่าฮ่องเต้ของประเทศต่างๆประเมินศัตรูต่ำเกินไป หรือว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึง จึงได้ปล่อยให้กงชิงวี่เติบโตขึ้นมาได้
หวูโยกั๋วเกือบจะถูกทำลายล้างประเทศเป็นสัญญาณครั้งที่สอง ถ้าหากข้าเป็นฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่ง ในตอนนั้นข้าจะไม่ปล่อยกงชิงวี่ไปง่ายๆแน่ เพราะข้ารู้ว่า เก็บเขาไว้จะเป็นหายนะ
บางทีอาจจะเป็นการคุ้มครองดูแลจากสวรรค์ ประเทศทั้งหลายต่างก็ไม่มีการเคลื่อนไหว ครั้งที่สาม ก็คือก่อนที่ข้าจะให้กำเนิดเสี่ยวหยุนเมื่อสิบปีก่อน กงชิงวี่เปิดเผยความทะเยอทะยานของเขาออกมาเป็นครั้งแรก
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะประเทศเฟิ่งพวกเจ้าร่วมมือกับหนานอี้ ต้องการจะทำลายล้างประเทศต้าเหลียง แต่กงชิงวี่กลับเผยหางสุนัขจิ้งจอกออกมา หากไม่ใช่ว่าเขามีใจรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ก็จะไม่โจมตีคูเมืองสองแห่งของประเทศเฟิ่ง คูเมืองสี่แห่งของหนานอี้ติดต่อกันแล้ว จุดประสงค์ของเขาก็เพื่อขยายพื้นที่ดินแดนของประเทศเหลียงให้กว้างใหญ่ ทำให้กำลังทหารของประเทศต้าเหลียงแข็งแกร่ง
ถ้าหากเป็นเพียงการขับไล่ผู้รุกรานออกไป คูเมืองประเทศเฟิ่งกับหนานอี้แห่งเดียวเท่านั้นก็พอ
ข้าเป็นห่วงว่าจะมีคนปิดล้อมสังหารเขา จัดเตรียมเฟยยิงพวกเขาเอาไว้
แต่ว่า การมาถึงประเทศเฟิ่งของข้า ทุกอย่างกลับเงียบสงบมาก เชื่อว่าเป็นเพราะเสด็จแม่กับเสด็จพ่อ พวกเขาต่างก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...