ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 943

บทที่ 943 กลับมาแล้ว

ในช่วงปี 212 ของประเทศต้าเหลียง อ๋องเซ่เจิ้ง(อ่องที่ทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการ)กงชิงวี่ได้ยึดประเทศเฟิ่ง และสังหารผู้คนในวังเฟิ่งประมาณหนึ่งพันคน ว่ากันว่าวังเฟิ่งเลือดไหลเหมือนสายน้ำ ฝนตกหนักมาเป็นเวลาสามวัน สามวันหลังจากฝนหยุดตก ระยะทางภายในร้อยเมตรยังได้กลิ่นคาวเลือดของวังเฟิ่ง

ประเทศเฟิ่งถึงคราวพินาศแล้ว!

หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปประเทศต้าเหลียงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเหลียง รวบรวมปฐพีให้เป็นหนึ่งเดียว

แน่นอนว่า หลังจากนั้นหนึ่งเดือนผ่านไปเขาคิดถึงภรรยาจนล้มป่วย อาการหนักอยู่ครึ่งเดือนลุกไม่ไหว ร่างกายไม่สบาย อาเจียนเป็นเลือด ไม่เข้าราชสำนักอีกเลย

ฮ่องเต้ชิงหยินได้หาหมอที่มีชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อตรวจรักษาเขา แต่เขาก็ไม่ดีขึ้น ชาวบ้านสวดภาวนา ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องลึกซึ้ง

ครึ่งปีต่อมา งานแต่งงานขององค์หญิงใหญ่กับลูกบุญธรรมอ๋องเซ่เจิ้งอ๋องมู่จุ้น ได้เล่าเรื่องราวประทับใจ

อ๋องเซ่เจิ้งผู้มีบุตรชาย5บุตรสาว1 ทรงแต่งตั้งเป็นอ๋อง5 องค์หญิง1

หนึ่งปีต่อมาก๊กกู๋หวางหวยอันได้แต่งงานกับผู้หญิงจากประเทศอื่น (ได้ยินข่าวว่าลูกสาวบุญธรรมของอ๋องเซ่เจิ้งชื่อเสี่ยวเฉียวจวิ้นจู่เพื่อช่วยเหลือกั๋วจิ้วน้อยจึงเสียชีวิต) กั๋วจิ้วน้อยได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนกับเสี่ยวเฉียว และแต่งงานกับนาง

ในปีต่อมา บุตรชายคนโตอ๋องเซ่เจิ้งกงชิงจื่อยี่ได้แต่งงานกับลูกสาวของจงลิ่งชื่อเหว่ยหลิงเอ๋อร์แห่งต้าจงเจิ้งย่วน(ศาลในวัง) ในฐานะภรรยา หลังจากแต่งงานได้ออกจากเมืองหลวงเพื่อไปเฟิงตี้(อาณาบริเวณปกครองที่กษัตริย์พระราชทานให้)รับตำแหน่งอ๋องชิน ปกครองเขตหนานอี้

ในปีเดียวกัน จื่อเซิ่นบุตรชายคนที่สองของอ๋องเซ่เจิ้งออกจากเมืองหลวง และรีบไปที่ซีหวู(แต่เดิมคือประเทศหวูกั๋ว)รับตำแหน่งอ๋องชิน

ต่อมา บุตรชายคนที่ทั้งสามและบุตรชายสี่ของอ๋องเซ่เจิ้งต่างออกจากเมืองหลวง ไปตงหลิง(เดิมประเทศหลิงหยุน) เฟิ่งหนาน(เดิมประเทศเฟิ่ง) ต่างไปรับตำแหน่งอ๋องชิน

ตั้งแต่นั้นมา ทั่วอาณาจักรคงจะไม่มีสงครามเป็นเวลาหลายร้อยปี

พอจากกันเป็นเวลาสามปี

ฮ่องเต้ชิงหยินอุ้มลูกชายตัวน้อยแกว่งไปมา เขาเหลือบมองฮองเฮาหยุนโล๋ชวนที่ดูอ่อนล้า และพูดอย่างเป็นห่วง “เมื่อไม่กี่วันก่อน อ๋องเสียนเข้ามาในวัง และบอกข้าว่า เขาต้องการให้จื่ออี้กลับมา และบอกว่าเขาต้องการลูกชายคนนี้ไปหนานอี้ สองสามวันนี้ข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับ คลอดลูกผู้ชายอีก จะทำอย่างไรดี?”

หยุนโล๋ชวนขณะนี้ยังคงเหนื่อยล้าเล็กน้อย เพราะเพิ่งให้กำเนิดองค์ชาย

เหลือบมองไปที่ฮ่องเต้ชิงหยิน “เขาคงต้องการอยากให้ลูกชายอยู่ข้างกาย แต่ก่อนฮ่องเต้เคยสัญญาว่า ถ้ามีลูกชายเมื่อไหร่ ก็จะเอาตำแหน่งคืนมา และให้ลูกชายของตัวเองไป”

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร ภายในเวลาสามปีจะกำเนิดลูกชายสี่คน นี่ก็คลอดเก่งเกินไป ต้องเข้าใจ ข้าไม่อยากพูดแล้ว ประการแรกถ้าพวกเขากลับมาข้าไม่รู้จะตั้งถิ่นฐานให้ยังไง ประการที่สองข้าไม่อยากให้ลูกๆไปจากข้า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ข้าออกจากวังเพื่อไปเยี่ยมพวกเขา

อ๋องชินของอ๋องเซ่เจิ้ง ทุกปีสามารถกลับเมืองหลวงเพื่อเยี่ยมญาติ แต่ถ้าลูกชายของข้าออกไป และคงไม่มีกำหนดกลับมา ถ้าไม่มีราชโองการจากข้า พวกเขาจะกลับมาได้อย่างไร?”

ฮ่องเต้ชิงหยินอยู่ในวัยสามสิบกว่า ถือว่าอายุยังน้อย แต่เขากังวลเกี่ยวกับลูกชายของเขาจะถูกส่งไป รู้สึกไม่สบายใจขึ้นเรื่อยๆ

หยุนโล๋ชวนมองดูสักพัก เหนื่อยล้าจนไม่อยากพูด ก็เลยหลับตา ถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “แต่ว่าเขาโดดเดี่ยวเหลือเกิน แม้ว่าเสี่ยวเฉียวและเสี่ยวหยุนจะอยู่เมืองหลวง เจ้าห้ายังไม่ไป แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มีพี่สาวอยู่เป็นเพื่อน หลายปีมานี้เขาหาพี่สาวไม่เจอ ถ้าฮ่องเต้ยังคิดเช่นนี้กับเขา จะรู้สึกผิดต่อเขาจริงๆ

เขามอบปฐพีนี้ให้ฮ่องเต้ เพื่อแย่งชิงอำนาจในปฐพี จึงหาพี่หลิงหยุนไม่เจอ ฮ่องเต้จะใจดำขนาดนี้เลยเหรอ?”

เขาทำเพื่อปฐพีนี้ ลูกชายลูกสาวและภรรยาทุ่มเทสุดความสามารถ และขณะนี้ฮ่องเต้มีลูกชายแล้ว แต่ต้องการอยากให้ลูกชายอยู่ใกล้ตัวเอง”

“ข้ารู้ รอให้โตกว่านี้หน่อยค่อยไป เช่นนี้คงได้ใช่ไหม?” แม้ว่าฮ่องเต้ชิงหยินจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ถูกต้อง รีบตอบตกลงทันที

หยุนโล๋ชวนถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าพี่หลิงหยุนไปอยู่ไหน ถ้าสามารถหาเจอแต่เนิ่นๆคงจะดี ถ้าหาไม่เจอควรจะทำอย่างไร?”

“เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พบ ตอนนี้เสี่ยวหยุนและเจ้าห้ากำลังตามหา พวกจื่ออี้ก็กำลังตามหา ปฐพีนี้กว้างใหญ่แค่นี้เอง หรือจะมุดเข้าไปในดิน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน