จวนอ๋องหรง
ในวังได้ส่งหมอหลวงผู้มากประสบการณ์มารักษาซื่อจื่อจิ่ง
เพียงแต่ว่า อาการบาดเจ็บของหรงจิ่งหลิงก็ยังแย่มาก เขาแทบจะไม่หายใจแล้ว เขาถูกบังคับให้ดื่มซุปโสมโดยหมอซูง้างปากแล้วกรอกซุปผ่านฟันเขาลงไป
วิกฤตขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกศรที่หักอยู่บนร่างกายของเขา
พวกหมอหลวงช่วยอะไรไม่ได้ พวกเขาคุกเข่าอยู่ที่ห้องโถงรอให้ท่านอ๋องหรงพูด
ดวงตาของหรงเยี่ยเฉียบคม เขามองไปยังเหล่าหมอหลวงที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้า
ในเวลานี้ แม่นมวิ่งออกมาจากห้อง:“ท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋องเพคะ ซื่อจื่อจิ่งแย่แล้วเพคะ”
หรงเยี่ยลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว และก้าวเท้าเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างเตียง จับศีรษะเด็กไว้ครึ่งหนึ่งแล้วเช็ดเลือดที่ออกจากปากของเขา
หรงเยี่ยเดินเข้าไป เขาเอื้อมมือไปจับสาวใช้แล้วผลักลงกับพื้น ดวงตาของเขาเย็นชา: “ลากออกไป ฆ่าทิ้งซะ
“ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วยเพเคะ ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย……” สาวใช้ร้องไห้ออกมาทั้งน้ำตา
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสองคนเดินเข้ามา พวกเขาเอามือปิดปากสาวใช้แล้วลากนางออกไป
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นฉากนี้ขาของพวกเขาอ่อนแรงด้วยความตกใจ และทุกคนก็ค่อยๆคุกเข่าลงกับพื้น
ท่านอ๋องหรงจะฆ่าคนอีกแล้ว
ในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่ต้องตายเพราะซื่อจื่อจิ่ง
พวกหมอหลวงที่คุกเข่าอยู่ห้องโถง เดินเข้ามา
ในเวลาเดียวกัน ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกลุ่มหนึ่งก็เข้าไปในห้องนอน จากนั้นก็ล้อมรอบหมอหลวงไว้
พวกหมอหลวงต่างตื่นตระหนก และถามอย่างไม่เข้าใจว่า:“ ท่านอ๋องหรง นี่คือ.......”
“ช่วยลูกข้าด้วย” หรงเยี่ยนั่งอยู่หัวเตียงถือผ้าเช็ดเลือดบนใบหน้าขององค์ชาย:“ ถ้ารักษาไม่ได้ พวกเจ้าก็ไม่ต้องกลับ”
สีหน้าของเหล่าหมอหลวงพลันเปลี่ยนสี หลังจากนั้นก็คุกเข่าลงอีกครั้ง
หมอหลวงจางกล่าวว่า:“ท่านอ๋อง หมอซูคือผู้ที่ไม่อนุญาตให้ดึงลูกศรออก ถึงแม้ว่ากระหม่อมจะใช้ยาดีขนาดไหน แต่ถ้าลูกศรที่หักยังอยู่ที่ซื่อจื่อจิ่ง ยังไงก็รักษาไม่หายพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น