ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 103

แม่นมอวี่อันกล่าวหลังจากโค้งคำนับ "ฮองเฮาเพคะ ไทเฮารับสั่งให้ท่านไปยังตำหนักเฉียนชิงเพคะ ไทเฮายังรับสั่งอีกว่าให้ฮองเฮาส่งคนไปตามคนของตระกูลเสิ่นเข้ามาในวังหลวง เพื่อจัดการเรื่องราวระหว่างคุณหนูเสิ่นและท่านอ๋องหรงเพคะ"

ฮองเฮาอู๋และฮูหยินเสิ่นมองหน้ากันราวกับมองตาก็รู้ใจ

ฮูหยินเสิ่นลุกขึ้นและจัดระเบียบชุดของตัวเอง "ไม่จำเป็นต้องไปเชิญหรอก ท่านผู้เฒ่าเสิ่นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ข้าสามารถเป็นตัวแทนตระกูลเสิ่นได้ ข้าจะติดตามฮองเฮาไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักเฉียนชิงเดี๋ยวนี้"

เมื่อพูดจบ ฮูหยินเสิ่นหันหน้าไปกระซิบกับฮองเฮา "เสด็จพี่ลองไตร่ตรองเรื่องที่หม่อมฉันพูดไปเมื่อสักครู่ ท่านอ๋องหรงคุกเข่ามาหลายวันแล้ว อย่าได้สร้างความลำบากใจต่อเขาอีกเลย หม่อมฉันจะกราบทูลฝ่าบาทเอง"

ฮองเฮาอู๋พยักหน้า

หากฮูหยินเสิ่นไม่เข้าวังมา ฮองเฮาอู๋ก็ได้เตรียมสั่งให้คนไปตามคนของตระกูลเสิ่นมา

อย่างไรเสียหรงเยี่ยก็เป็นลูกชายของพี่สาวของนาง ไม่มีใครต้องการให้เขาเป็นเช่นนี้

และถึงอย่างไรเสีย อนาคตของฮองเฮาอู๋ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาหรงเยี่ย

ฮูหยินเสิ่นติดตามฮองเฮาอู๋ไปยังตำหนักเฉียนชิง

ไป๋ชิงหลิงและไทเฮาฮุ่ยก็ได้ลงจากเก้าอี๋เก๋ง

เมื่อไทเฮาฮุ่ยเห็นฮองเฮาอู๋เข้าก็ได้แสดงสีหน้าเคร่งขรึม

ฮองเฮาอู๋และฮูหยินเสิ่นเดินเข้ามา ไป๋ชิงหลิงโค้งคำนับ

ฮองเฮาอู๋แทบไม่ชำเลืองมองนางแม้แต่นิดเดียว จากนั้นจึงเดินเข้าไปคารวะไทเฮา แต่ใครจะไปรู้......

ไทเฮาฮุ่ยเหลือบมองนางอย่างเย็นชา จากนั้นจึงเดินผ่านฮองเฮาอู๋และฮูหยินเสิ่นไป และเดินตรงไปหาหรงเยี่ย

แสงแดดสาดส่องไปที่เขา บาดแผลของเขาปกคลุมไปทั่วบริเวณและมีเลือดไหลออกมาจากปากแผลที่เปิดออกของเขา เห็นแล้วช่างสยดสยองยิ่งนัก

เมื่อไทเฮาฮุ่ยเห็นเช่นนั้นก็แทบเป็นลมล้มลง ไป๋ชิงหลิงรีบเข้าไปประคอง "ไทเฮาเพคะ......"

"ข้าไม่เป็นอะไร" พระนางส่ายหน้าและทรงตัวอีกครั้ง จากนั้นชี้ไปยังหรงเยี่ย "เจาเสวี่ย เจ้ารีบไปตรวจดูอาการของเขาเร็วเข้า"

"เสด็จแม่!" จักรพรรดิเหยาเดินออกมาจากตำหนักเฉียนชิงและรีบเสด็จไปหาไทเฮาฮุ่ย

เมื่อไทเฮาฮุ่ยเห็นพระองค์จึงได้กล่าวตำหนิ "เจ้าคิดจะให้เยี่ยเอ๋อร์คุกเข่าเช่นนี้ไปถึงเมื่อไร เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ หรือต้องการให้เขาคุกเข่าจนตายลงที่นี่"

"เสด็จแม่ เรื่องนี้......"

"หม่อมฉันคารวะฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงมีพระชนมายุหมื่นปี หมื่นๆ ปีเพคะ" ฮูหยินเสิ่นเดินเข้ามาคุกเข่าคารวะ

เมื่อจักรพรรดิเหยาเห็นฮูหยินเสิ่นเข้าก็เกิดความหงุดหงิดขึ้นมาในพระทัย

พระองค์ทนมองหรงเยี่ยคุกเข่าอยู่เช่นนี้หลายวัน หรงเยี่ยเป็นลูกชายที่โปรดปรานของอดีตฮองเฮาและพระองค์ ปกติแล้วพระองค์ไม่เข้มงวดกับหรงเยี่ย แต่เมื่อเห็นเขาบาดเจ็บสาหัสและคุกเข่าอยู่หน้าตำหนักของพระองค์ ทำให้พระองค์รู้สึกผิดต่ออดีตฮองเฮา

ดังนั้นเมื่อเห็นฮูหยินเสิ่นเข้า จึงทำให้พระองค์รู้สึกไม่ถูกชะตาอย่างมาก

พระองค์แสดงสีหน้าเคร่งขรึมและสั่งให้ฉูหยินเสิ่นลุกขึ้น จากนั้นได้ตรัสกับไทเฮา "เสด็จแม่ เยี่ยเอ๋อร์ทำร้ายคุณหนูเสิ่น เขาอารมณ์ร้ายเกินไป หากไม่ลงโทษเขาเสียบ้าง ข้ากลัวว่าเขาจะทำเรื่องผิดขึ้นอีกในอนาคต หากคนของตระกูลเสิ่นไม่ยอมยกโทษให้กับเขา เช่นนั้นเขาต้องคุกเข่าเช่นนี้ต่อไป แม้ต้องคุกเข่าจนตายอยู่หน้าตำหนักก็ไม่อาจลุกขึ้นมาได้ ข้าไม่อาจทำให้เหล่าขุนนางวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ได้"

บรรดาใต้เท้าที่มาส่งหนังสือกล่าวโทษได้คุกเข่าลงกับพื้น

แม้แต่ฮูหยินเสิ่นก็ได้คุกเข่าลงด้วยความไม่สบายใจเพราะคำพูดของจักรพรรดิเหยา "ฝ่าบาทจะทำเช่นนั้นไม่ได้เพคะ ตระกูลเสิ่นไม่เคยมีเรื่องบาดหมางต่อท่านอ๋องหรงเลยแม้แต่นิดเดียว สามีของหม่อมฉันล้มป่วยลงและวันนี้เพิ่งจะอาการดีขึ้น อีกทั้งยังได้ยินมาว่าฝ่าบาทลงโทษท่านอ๋องหรงเพราะเรื่องของโหรวเม่ย ทำให้สามีของหม่อมฉันป่วยหนักและไม่สามารถเข้าวังมาได้ จึงได้สั่งให้หม่อมฉันเข้าวังมาอธิบายกับฝ่าบาทว่าอย่าได้กล่าวโทษท่านอ๋องหรงเลยเพคะ"

บรรดาใต้เท้าต่างพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดคนของตระกูลเสิ่นก็ยอมพูดออกมาเสียที

จากนั้น......

พระพักตร์ของไทเฮาเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม พระนางเคาะไม้เท้าในมือและตรัสออกไป "ส่งคนมาที่นี่ รีบไปช่วยเจาเสวี่ยประคองท่านอ๋องหรงกลับตำหนักฮุ่ยหนิงเดี๋ยวนี้"

ขณะนี้ ไป๋ชิงหลิงได้เดินไปตรงหน้าของหรงเยี่ย

นางนั่งลงและจ้องมองไปยังหรงเยี่ย

สีหน้าของเขาซีดเผือด ริมฝีปากแห้งแตกและหน้าผากก็มีเหงื่อไหลหยดย้อย เขาดูอ่อนล้าอย่างมาก แต่แววตาของเขายังคงแหลมคม

แววตาคู่นั้นราวกับนกอินทรีที่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ย่อท้อ

ขณะที่ไป๋ชิงหลิงกำลังจะพูดออกมา หรงเยี่ยก็ได้เงยหน้าขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "เสด็จย่า ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง......จำเป็นต้องพูดกับฮูหยินเสิ่นให้ชัดเจนวันนี้ เพื่อตระกูลเสิ่นจะได้ไม่ถูกกล่าวร้าย!"

สีหน้าของฮูหยินเสิ่นเปลี่ยนไป......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น