ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 104

เสนาบดีในราชสำนักต่างพากันทยอยเงยหน้าขึ้นมองหรงเยี่ย

เหล่าเสนาบดีขุนนางและอาณาประชาราษฎร์ที่พากันทยอยมา ต่างมีสีหน้าแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมา แม้แต่ฮูหยินเสิ่นใจยังห้อยแขวนอยู่บนคอเพราะคำพูดของหรงเยี่ยเลย

ตระกูลเสิ่นจะได้ไม่ถูกกล่าวร้ายหรือ?

คำพูดนี้ของอ๋องหรงหมายความว่าอย่างไรกัน?

ทุกคนกำลังคิดวิเคราะห์ปัญหาเดียวกัน ล้วนอยากรู้ว่าท่านอ๋องหรงจะจัดการเรื่องอะไร แต่ทว่าไทเฮาฮุ่ยกลับเป็นกังวลว่าสุขภาพของเขาจะทนไหวหรือไม่

ไทเฮาฮุ่ยเลยกล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า“เยี่ยเอ๋อร์ เจ้าลุกขึ้นพูดเถิด”

เมื่อพูดแล้ว ไทเฮาฮุ่ยเลยรับสั่งกับคนรับใช้ว่า “รีบเอาเก้าอี้มาให้ท่านอ๋องหรง เจาเสวี่ย เจ้าดูบาดแผลเขาที ดูว่าเขาไม่สบายตรงไหน มีเรื่องอะไรก็ค่อยๆพูดมา”

“เสด็จย่า !”หรงเยี่ยหลุบตาขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เรียบเฉยว่า “หลานยังทนไหว ทว่าเรื่องของคุณหนูเสิ่นนั้นช้ามิได้เลย!”

เขายังคงคุกเข่า แต่กลับคุกเข่าอย่างองอาจมุ่งมั่นอกผายไหล่ผึ่ง

จักรพรรดิเหยานึกถึงท่าทางที่ไป๋ชิงหลิงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพระองค์ พระองค์ตกใจและพบว่าคำพูดและการกระทำของทั้งสองคนนี้คล้ายกันมาก

เวลานี้ หรงเยี่ยหลุบดวงตาอันเย็นชาเพ่งมองไปทางฮองเฮาอู่ และกล่าวขึ้นว่า “เรียกหลวนอี๋มาพ่ะย่ะค่ะ”

“รีบเรียกหลวนอี๋มา”ไทเฮาฮุ่ยรู้ว่าเรื่องนี้หากไม่จัดการให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง หรงเยี่ยไม่มีทางลุกขึ้นหรอก

ด้วยเหตุนี้ เลยกล่าวกับฮ่องเฮาอู่ด้วยสีหน้าจริงจัง

ฮองเฮาอู่ไม่เข้าใจ รู้สึกกระวนกระวายใจเลยกล่าวว่า“เหตุใดถึงต้องเรียกหลวนอี๋ หลวนอี๋ทำสิ่งใดผิด?”

“ท่านเพียงเรียกหลวนอี๋มาก็พอ”หรงเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ไทเฮาฮุ่ยรีบทำสีหน้าดุดัน กล่าวตำหนิขึ้นว่า “คำพูดของข้า เจ้าล้วนไม่ฟังแล้ว”

“ไม่ใช่เพคะ เสด็จแม่…..”

“เรียกหลวนอี๋มา”จักรพรรดิเหยาตรัสขึ้น ขัดคำพูดของฮองเฮาอู่ด้วยความหงุดหงิด และพระองค์ได้สั่งอย่างชัดเจนเป็นระเบียบแบบแผน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น