ตอน บทที่ 106 ไป๋ชงเซิงเกลี้ยกล่อมให้หรงเยี่ยพักรักษาตัว จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 106 ไป๋ชงเซิงเกลี้ยกล่อมให้หรงเยี่ยพักรักษาตัว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“เด็กๆ ส่งฮูหยินเสิ่นกลับจวน จัดส่งโสมไปให้คุณหนูใหญ่เสิ่นบำรุงสุขภาพด้วย” ไทเฮาฮุ่ยไม่สนใจจะมองฮูหยินเสิ่นอีก
มู่ซินและจิ้งซินเดินเข้าไปประคองฮูหยินเสิ่นให้ลุกขึ้น
จักรพรรดิเหยาที่ตลอดมาไม่เคยคิดอยากเข้าแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างสตรี มาบัดนี้มีไทเฮาออกหน้าให้ พระองค์รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง
พระองค์ทรงเป็นพระจักรพรรดิ หากต้องมาจัดการกับเรื่องของเสิ่นโหรวเม่ย นั่นเท่ากับเป็นการตบหน้าผู้เฒ่าเสิ่นอย่างรุนแรง
แต่ไทเฮานั้นต่างออกไป
พระนางเป็นสตรีในวังหลัง จึงสามารถใช้สถานะอาวุโสควบคุมฮองเฮา หรือแม้กระทั่งเสิ่นโหรวเม่ยได้
พระองค์หันกลับมาและชี้ไปทางหรงเยี่ยพลางตรัสว่า “รีบพยุงอ๋องหรงให้ลุกขึ้น พาเข้าไปในตำหนัก ให้เยี่ยเอ๋อร์พักรักษาตัวอยู่ที่ตำหนักของข้า”
“ให้เขาไปอยู่กับข้า” ไทเฮาฮุ่ยขึ้นเสียงกับจักรพรรดิเหยาเป็นครั้งแรก
จักรพรรดิเหยาเหลือบมองไทเฮาฮุ่ย และพยักหน้าโดยไม่ได้โต้เถียง “ให้กองเกียรติยศของข้าส่งอ๋องหรงกลับตำหนักฮุ่ยหนิง”
“ไม่จำเป็น!” หรงเยี่ยหันศีรษะไปมองอิงอู๋
อิงอู๋รีบคลุมเสื้อคลุมที่เตรียมเอาไว้ให้หรงเยี่ยทันที และยื่นมือออกมาเพื่อช่วยพยุงหรงเยี่ยให้ลุกขึ้น แต่หรงเยี่ยกลับลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง
ไป๋ชิงหลิงรีบลุกขึ้นตามทันที สองมือของนางรีบเข้าไปประคองจับข้างกายของเขาไว้ ด้วยเกรงว่าเขาจะเป็นลมล้มลงไปเมื่อลุกขึ้นยืน
อย่างไรก็ดี หลังจากที่เขาลุกขึ้น ร่างกายของเขาไม่มีวี่แววจะสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
นี่มันไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์...
ทั้งๆ ที่เขาบาดเจ็บสาหัสและคุกเข่าถึงหกเจ็ดวัน มาบัดนี้ยังมีไข้สูงอีกด้วย เพราะเหตุใดจึงไม่เป็นลมล้มพับไป
ไทเฮาฮุ่ยเดินเข้ามาใกล้ ทั้งรู้สึกสงสารและโกรธกริ้ว “เยี่ยเอ๋อร์ อย่าได้ก่อกวนอีกเลย ตามข้ากลับไปพักรักษาตัวที่ตำหนักฮุ่ยหนิง ที่นั่น...ไม่มีใครกล้ารบกวนเจ้าอีก”
“เสด็จย่า หลานต้องการจะกลับจวน ให้หมอหญิงไป๋อยู่ที่นี่คอยปรนนิบัติท่าน” ในใจของเขายังคงนึกเป็นห่วงไทเฮาฮุ่ย
ในสายตาของเขาแล้ว บาดแผลนี้เล็กน้อยนัก
ไป๋ชงเซิงหันไปมองไทเฮาโดยไม่รู้ตัว
เสด็จพ่อ...
เสียงเรียกนี้คุ้นเคยมาก
หรงจิ่งหลินจูงมือไป๋ชงเซิงเดินเข้าไปหาหรงเยี่ย
เมื่อเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของหรงเยี่ย หรงจิ่งหลินก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ไหนเลยจะพูดอะไรออกมาได้
ไป๋ชงเซิงรำคาญเล็กน้อยที่เห็นเขาเอาแต่ร้องสะอึกสะอื้น
ครั้นแล้ว...
เสียงที่นุ่มนวลของนางดังขึ้นขัดจังหวะหรงจิ่งหลิน “ท่านอ๋องหรงเจ้าคะ ตอนนี้สุขภาพของไทเฮาดีขึ้นแล้ว ข้ามักจะเห็นไทเฮาเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ด้านหลังคนเดียวโดยไม่ต้องให้คนช่วยพยุงแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่บอกกับข้าเสมอว่า หากจะดูแลคนอื่น ก็ต้องดูแลตัวเองก่อนนะเจ้าคะ หากร่างกายของท่านไม่แข็งแรงในเร็ววัน ไทเฮาก็จะเป็นห่วงท่าน แม้จะมีท่านแม่ของข้าจะคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกาย แต่หากไทเฮายังมีเรื่องในใจ ก็จะไม่มีความสุข จะไม่สบายได้ง่ายๆ นะเจ้าคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...