ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 109

หลังจากที่เหยี่ยวสองตัวไปแล้ว หรงเยี่ยเลยปล่อยไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงจ้องเขม็งใส่เขาด้วยความเดือดดาล แต่ทว่าไม่กล้าพูดอะไรมาก

หรงเยี่ยยิ้มบางๆ นิ้วมือจัดการกับผมของนาง กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวลว่า“ตอนแส้ที่อยู่บนมือของอิงอู๋ฟาดมาบนร่างกายของข้า ข้าคิดว่าหากไม่แต่งสู่ขอเจ้ามาครอบครอง แส้ยี่สิบเส้นนี้ของข้า ไม่ใช่ว่าถูกตีเปล่าประโยชน์แล้วหรือ”

“ท่าน…..”

ที่แท้เขามีความคิดเฉกเช่นนี้

แผนการทรมานร่างกายของเขาไม่ได้ทำให้คนของตระกูลเสิ่นดู แต่ทำให้นางดู

“ข้าไม่สนใจท่านแล้ว”ไป๋ชิงหลิงผละเขาออก ทว่าเขากลับกอดรัดแน่น ไม่ยอมให้นางห่างกาย

ริมฝีปากของเขาประกบริมฝีปากของนางอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง ทำให้ไป๋ชิงหลิงทำอะไรกับเขาไม่ได้เลยสักนิดหนึ่ง

สักพักหนึ่ง อิงซาได้กล่าวถามอยู่ด้านนอกว่า“แม่นางไป๋ น้ำร้อน เสื้อผ้าสะอาดที่ข้าน้อยนำมา วางอยู่ด้านนอกนะขอรับ “

ไป๋ชิงหลิงตัวแข็งทื่อ ออกแรงผลักเขาโดยทันที

ตอนที่นางผลัก เล็บมือจิกอยู่ที่บริเวณบาดแผลของเขาพอดี เสียง“ซี้ด”ของหรงเยี่ยเลยดังขึ้นมา

ไป๋หลี่ชิงมองมือของตนเอง ด้านบนแปดเปื้อนไปด้วยเลือด :“ท่านมาทำซี้ซั้วไม่ได้แล้วนะ ข้าต้องทำแผลให้ท่านก่อน”

“อืม !”หรงเยี่ยเลยปล่อยนาง

ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นจากเตียง และรีบสาวเท้าออกจากห้องนอน

นางหายใจเข้าลึกๆอยู่ด้านนอก ถึงได้ยกน้ำร้อนกลับเข้ามาด้านในห้อง

นางเอาที่วัดอุณหภูมิออกมาจากตัวหรงเยี่ย

อุณหภูมิ 39.8 !

ไข้สูงมาก

นางจ่ายยาลดไข้ให้เขาก่อน จากนั้นให้เขาดื่ม ตามด้วยเพิ่มยานอนหลับลงไปด้วย เพราะเขาจำเป็นต้องพักผ่อน

เมื่อหรงเยี่ยดื่มกินยาของนางแล้ว ครึ่งชั่วยามถึงได้หลับไป

เมื่อจัดการกับบาดแผลของเขาเรียบร้อย ก็เป็นหลังหนึ่งชั่วยามแล้ว

ไป๋ชิงหลิงตรวจวัดอุณหภูมิเขาอยู่หลายครา โชคดีที่หรงเยี่ยสุขภาพแข็งแรง หลังจากใช้ยาลดไข้แล้ว ไม่นานไข้ก็ลด

แต่นางไม่กล้าวางใจ เพราะนางนั้นรู้ผลข้างเคียงของยา

ถึงช่วงพลบค่ำ เขาก็มีไข้กลับมา แต่เขาได้ตื่นมาแล้ว

แม่นมซั่งเอาโจ๊กหมูสับเข้ามา หรงเยี่ยมองนางแล้วส่งสายตาให้บอกนางวางลง

ทว่าแม่นมซั่งได้เอาโจ๊กยื่นให้ไป๋ชิงหลิง “แม่นางไป๋ ท่านอ๋องจะต้องกินสักหน่อยเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงหลิงชะงักงัน มองโจ๊กที่แม่นมซั่งส่งมา นึกถึงหรงเยี่ยที่มีบาดแผล ก็เลยอดทนไว้

นางรับโจ๊กหมูสับมา ตักมาหนึ่งคำแล้วป้อนไปที่ปากเขา

หรงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม กล่าวว่า “ร้อน !”

“ท่านเป่าเอง”ไป๋ชิงหลิงกล่าวด้วยความหงุดหงิด

ทว่าหรงเยี่ยกลับเบนหน้าหนี ไม่กิน

แม่นมซั่งกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “แม่นางไป๋ ท่านอ๋องกินอาหารไม่ควรที่จะร้อนจนเกินไปเจ้าค่ะ”

นี่เกี่ยวกับการเคลื่อนพลจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งของเขาด้วย เขากินอาหารที่อยู่ด้านนอกล้วนเย็น

มันร้อนเกินไปก็ยากที่จะกิน…..

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าหรงเยี่ยผู้นี้เรื่องเยอะเสียจริง

นางหยิบช้อนขึ้นมา คนโจ๊ก แล้วเป่าอายความร้อน จากนั้นตักขึ้นวางที่ริมฝีปากทดลองอุณหภูมิความร้อน

หรงเยี่ยเห็นอย่างนี้ เลยขมวดคิ้วถามว่า:“อร่อยไหม?”

“รสชาติไม่เลว !”

“ยกให้เจ้าเลย”

อะไรนะ ——

ไป๋ชิงหลิงจ้องด้วยความมึนงง กล่าวว่า “ท่านอ๋องอย่ามาล้อเล่น ท่านรีบดื่มกินโจ๊ก เดี๋ยวข้าจะกลับไปกินกับพวกลูกๆ”

“ก็ได้”

ครั้งนี้…..

นางตักป้อนทีละคำ เขาก็กินทีละคำ ให้ความร่วมมือกันและกันเป็นอย่างดี

เมื่อแม่นมซั่งเห็นฉากนี้ จึงรู้สึกอบอุ่นใจอย่างมาก

นี่คือคุณสมบัติที่พระชายาควรมี ท่านอ๋องมีคนที่อบอุ่นรู้ใจ นางก็วางใจแล้ว

หากอนาคตฝึกฝนดีๆ แม่นางไป๋ก็มีบุคลิกของพระชายาได้

แม่นมซั่งตัดสินใจแล้ว นางต้องการสอนมารยาทกฏเกณฑ์ให้กับไป๋ซูหลิงด้วยตนเอง และยังจะช่วยนางดูแลอบรมลูกของนาง อนาคตไม่ทำให้ท่านอ๋องขายหน้าอย่างแน่นอน

ไม่นานก็กินเสร็จเรียบร้อย หรงเยี่ยกล่าวรับสั่งว่า :“พาพวกเขาสองคนมากินข้าวที่นี่ด้วย!”

ไป๋ชิงหลิงถึงกับมือสั่น…………

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น