ตอน บทที่ 109 ท่านอ๋องหรงกล่าวว่า :จะต้องแต่งสู่ขอเอาเจ้ามาครอบครองให้ได้ จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 109 ท่านอ๋องหรงกล่าวว่า :จะต้องแต่งสู่ขอเอาเจ้ามาครอบครองให้ได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลังจากที่เหยี่ยวสองตัวไปแล้ว หรงเยี่ยเลยปล่อยไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงจ้องเขม็งใส่เขาด้วยความเดือดดาล แต่ทว่าไม่กล้าพูดอะไรมาก
หรงเยี่ยยิ้มบางๆ นิ้วมือจัดการกับผมของนาง กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวลว่า“ตอนแส้ที่อยู่บนมือของอิงอู๋ฟาดมาบนร่างกายของข้า ข้าคิดว่าหากไม่แต่งสู่ขอเจ้ามาครอบครอง แส้ยี่สิบเส้นนี้ของข้า ไม่ใช่ว่าถูกตีเปล่าประโยชน์แล้วหรือ”
“ท่าน…..”
ที่แท้เขามีความคิดเฉกเช่นนี้
แผนการทรมานร่างกายของเขาไม่ได้ทำให้คนของตระกูลเสิ่นดู แต่ทำให้นางดู
“ข้าไม่สนใจท่านแล้ว”ไป๋ชิงหลิงผละเขาออก ทว่าเขากลับกอดรัดแน่น ไม่ยอมให้นางห่างกาย
ริมฝีปากของเขาประกบริมฝีปากของนางอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง ทำให้ไป๋ชิงหลิงทำอะไรกับเขาไม่ได้เลยสักนิดหนึ่ง
สักพักหนึ่ง อิงซาได้กล่าวถามอยู่ด้านนอกว่า“แม่นางไป๋ น้ำร้อน เสื้อผ้าสะอาดที่ข้าน้อยนำมา วางอยู่ด้านนอกนะขอรับ “
ไป๋ชิงหลิงตัวแข็งทื่อ ออกแรงผลักเขาโดยทันที
ตอนที่นางผลัก เล็บมือจิกอยู่ที่บริเวณบาดแผลของเขาพอดี เสียง“ซี้ด”ของหรงเยี่ยเลยดังขึ้นมา
ไป๋หลี่ชิงมองมือของตนเอง ด้านบนแปดเปื้อนไปด้วยเลือด :“ท่านมาทำซี้ซั้วไม่ได้แล้วนะ ข้าต้องทำแผลให้ท่านก่อน”
“อืม !”หรงเยี่ยเลยปล่อยนาง
ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นจากเตียง และรีบสาวเท้าออกจากห้องนอน
นางหายใจเข้าลึกๆอยู่ด้านนอก ถึงได้ยกน้ำร้อนกลับเข้ามาด้านในห้อง
นางเอาที่วัดอุณหภูมิออกมาจากตัวหรงเยี่ย
อุณหภูมิ 39.8 !
ไข้สูงมาก
นางจ่ายยาลดไข้ให้เขาก่อน จากนั้นให้เขาดื่ม ตามด้วยเพิ่มยานอนหลับลงไปด้วย เพราะเขาจำเป็นต้องพักผ่อน
เมื่อหรงเยี่ยดื่มกินยาของนางแล้ว ครึ่งชั่วยามถึงได้หลับไป
เมื่อจัดการกับบาดแผลของเขาเรียบร้อย ก็เป็นหลังหนึ่งชั่วยามแล้ว
ไป๋ชิงหลิงตรวจวัดอุณหภูมิเขาอยู่หลายครา โชคดีที่หรงเยี่ยสุขภาพแข็งแรง หลังจากใช้ยาลดไข้แล้ว ไม่นานไข้ก็ลด
แต่นางไม่กล้าวางใจ เพราะนางนั้นรู้ผลข้างเคียงของยา
ถึงช่วงพลบค่ำ เขาก็มีไข้กลับมา แต่เขาได้ตื่นมาแล้ว
แม่นมซั่งเอาโจ๊กหมูสับเข้ามา หรงเยี่ยมองนางแล้วส่งสายตาให้บอกนางวางลง
อะไรนะ ——
ไป๋ชิงหลิงจ้องด้วยความมึนงง กล่าวว่า “ท่านอ๋องอย่ามาล้อเล่น ท่านรีบดื่มกินโจ๊ก เดี๋ยวข้าจะกลับไปกินกับพวกลูกๆ”
“ก็ได้”
ครั้งนี้…..
นางตักป้อนทีละคำ เขาก็กินทีละคำ ให้ความร่วมมือกันและกันเป็นอย่างดี
เมื่อแม่นมซั่งเห็นฉากนี้ จึงรู้สึกอบอุ่นใจอย่างมาก
นี่คือคุณสมบัติที่พระชายาควรมี ท่านอ๋องมีคนที่อบอุ่นรู้ใจ นางก็วางใจแล้ว
หากอนาคตฝึกฝนดีๆ แม่นางไป๋ก็มีบุคลิกของพระชายาได้
แม่นมซั่งตัดสินใจแล้ว นางต้องการสอนมารยาทกฏเกณฑ์ให้กับไป๋ซูหลิงด้วยตนเอง และยังจะช่วยนางดูแลอบรมลูกของนาง อนาคตไม่ทำให้ท่านอ๋องขายหน้าอย่างแน่นอน
ไม่นานก็กินเสร็จเรียบร้อย หรงเยี่ยกล่าวรับสั่งว่า :“พาพวกเขาสองคนมากินข้าวที่นี่ด้วย!”
ไป๋ชิงหลิงถึงกับมือสั่น…………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...