ผู้นั้นคือแม่นมชุยที่อยู่ข้างกายฮูหยินอาวุโส สีหน้าของติ้งเป่ยโหวทะมึนลงเมื่อเห็นนาง
ยังไม่ทันรอให้แม่นมชุยได้อ้าปากพูด ติ้งเป่ยโหวบอกปัดออกไปเสียแล้ว “ไปบอกฮูหยินอาวุโส เจาเสวี่ยไม่ได้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของจวนโหว จวนตั้งกว้างขวาง เจาเสวี่ยก็จะไม่ไปรบกวนความสงบของนางเช่นกัน ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตนไปก็พอแล้ว อย่าได้มีปัญหาต่อกันเลย”
แม่นมชุยเหลือบมองไปที่ไป๋ชิงหลิงอย่างลำบากใจ “ท่านโหว ท่านเข้าใจฮูหยินอาวุโสผิดแล้ว เมื่อฮูหยินอาวุโสทราบว่าแม่นางเจาเสวี่ยกำลังจะกลับมา จึงได้เจาะจงสั่งให้ข้าน้อยรออยู่ที่ประตูใหญ่ เพื่อเชิญท่านโหวและแม่นางเจาเสวี่ยไปยังเรือนฉืออวี้เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันเจ้าค่ะ ฮูหยินอาวุโสบอกว่า ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกัน ความเข้าใจผิดเมื่อครั้งเก่าก่อนก็ควรหันหน้ามาปรับความเข้าใจกัน จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยปราศจากความคับข้อง และไม่มีหินก้อนใหญ่มาคอยอัดอั้นอยู่ในใจของทุกคน”
ติ้งเป่ยโหวตกตะลึง ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจ “ฮูหยินอาวุโสกล่าวเช่นนั้นจริงหรือ?”
“เจ้าค่ะ ข้าน้อยเพียงแค่คนนำสารเท่านั้น ฮูหยินอาวุโสบอกให้ข้าอย่าได้บังคับแม่นางเจาเสวี่ย หากนางรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ให้กลับไปพักผ่อนที่เรือนชิงซินก่อน เมื่อใดที่แม่นางได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว ค่อยไปรวมตัวกันที่เรือนฉืออวี้ก็ได้ คนครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเคร่งเครียดไปเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของแม่นมชุยอบอุ่นมาก ความโอหังในอดีตของนางไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
เมื่อติ้งเป่ยโหวได้ยินดังนี้ ความตึงเครียดบนใบหน้าของเขาก็คลายลง
เขาอดไม่ได้ที่จะใจอ่อนกับท่าทีของฮูหยินอาวุโส
แต่ในความคิดของไป๋ชิงหลิง ฮูหยินอาวุโสผู้นี้จะยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนั้นหรอกหรือ?
แม้ว่าติ้งเป่ยโหวจะมีอคติกับฮูหยินอาวุโสอยู่บ้าง แต่เขายังกตัญญูต่อนาง
“ท่านพ่อ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวังบ่อยครั้ง เกรงว่าจะไม่ดีเป็นแน่เจ้าค่ะ” นางเองก็อยากจะเห็นว่าจะเป็นงานเลี้ยงที่หงเหมินแบบไหนกัน (**งานเลี้ยงที่หงเหมิน : งานเลี้ยงที่มีเจตนาไม่ดีซ่อนเร้นอยู่)
ติ้งเป่ยโหวดีใจอย่างยิ่งยวด เขารีบเอ่ยปากตอบรับ “ใช่ เจ้าพูดได้ถูกต้อง พ่อจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากใจ”
ไป๋ชิงหลิงรับรู้อยู่เต็มอก...
ติ้งเป่ยโหวเป็นคนที่มีความกตัญญูรู้คุณ เมื่อไป๋ชิงหลิงร่างเดิมยังมีชีวิตอยู่ นางรักและสงสารบิดาผู้นี้มาก
และรู้ว่ามีหลายสิ่งที่เขาไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง
และด้วยเหตุนี้ นางจึงต้องกลับมายังจวนติ้งเป่ยโหว
เมื่อมาถึงเรือนฉืออวี้
เจ้านายของเรือนแต่ละหลัง รวมทั้งฮูหยินอาวุโสต่างก็ออกมาต้อนรับ หากเทียบกับครั้งแรกแล้ว ครั้งนี้ค่อนข้างปรองดองกันมาก ทุกคนต่างทักทายพวกนางด้วยรอยยิ้ม
นางหลิ่ว มารดาของเจ้าของร่างเดิม
เมื่อนางก้าวเข้ามาที่เรือน นางหลิ่วใบหน้ายิ้มแย้มปรี่เข้ามากุมมือนางไว้ “เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านแม่นะ”
ติ้งเป่ยโหวรู้สึกอบอุ่นใจและมองไปทางนางหลิ่วอย่างขอบคุณ เขารีบร้อนพยักหน้าและเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ควรจะเรียกท่านแม่”
ไป๋ชิงหลิงย่อตัวทำความเคารพด้วยรอยยิ้มจางๆ แต่ก็ไม่ได้เรียกนาง
นางหลิ่วรู้สึกเก้อเขิน ติ้งเป่ยโหวจึงกล่าวว่า “เจาเสวี่ยค่อนข้างขี้อาย คงต้องใช้เวลาสักระยะ นางถึงจะชิน ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับญาติผู้ใหญ่”
ติ้งเป่ยโหวแนะนำผู้คนในบ้านด้วยตัวเอง เริ่มต้นจากนางหลิ่วภรรยาของเขา ฮูหยินอาวุโส และตามด้วยลูกชายคนโตของฮูหยินอาวุโส
เขาเป็นคนพิการ เพราะเคยถูกรถม้าทับเมื่อครั้งยังหนุ่ม
เขารักษาตัวอยู่ที่บ้านมานานหลายปี หน้าตาของเขาหมดจด แม้แต่ผิวพรรณก็ขาวลออราวกับหญิงสาว แม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่ยังคงดูอ่อนเยาว์กว่าคนในวัยเดียวกันถึงห้าหกปี
เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้ไป๋ชิงหลิง
ถัดมาเป็นลูกชายคนที่สองของฮูหยินอาวุโส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาลักษณ์ในสำนักบัณฑิตฮั่นหลิน แต่เป็นเวลาสิบปีแล้วที่ยังคงจับเจ่าอยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจนี้
ประกอบกับติ้งเป่ยโหวทำกิจการมีรายได้ให้ตระกูลไม่น้อย จวนติ้งเป่ยโหวจึงถือว่ามีฐานะที่ร่ำรวย นายท่านรองจึงไม่สนใจที่จะกระตือรือร้น
ฮูหยินรองมีลูกสาวสามคนและลูกชายหนึ่งคน ในส่วนของอนุทั้งสองนั้นไม่ได้ให้กำเนิดทายาท
ลูกสาวคนที่สามของฮูหยินอาวุโสและสามีต่างก็อาศัยอยู่ในจวนโหว แม้แต่ลูกก็เลี้ยงดูให้เติบใหญ่กันในจวน
ลูกสาวคนที่สี่ ได้ออกเรือนไปอยู่ในตระกูลที่ดี และไม่ค่อยได้ติดต่อกัน
ลูกชายคนเล็กของฮูหยินอาวุโสกลับเข้ากันได้ดีกับเจ้าของร่างเดิมของไป๋ชิงหลิง
นามของเขาคือไป๋อู้อี้ ซึ่งเดิมมีนามว่าไป๋เต้าอี้ แต่เพราะถูกเพื่อนฝูงล้อเลียน จึงเปลี่ยนชื่อเป็นอู๋อี้!
แต่ฮูหยินอาวุโสไม่เห็นด้วย สุดท้ายจึงหาคำที่ออกเสียงใกล้เคียงมาแทนที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...