ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นสบตากับนางกำนัลด้วยความสงสัย เพราะนางมีความรู้สึกว่า ชื่อเรียกนี้...มันฟังดูคุ้นหูนางยังไงชอบกล
แล้วจู่ ๆ นางก็นึกขึ้นมาได้ว่า ไป๋หมิงอวี้เพิ่งจะไปขอเทียบเชิญงานวันเกิดของยายเสิ่นจากคุณหนูสามผู้นี้มาให้นาง
“ที่ข้าออกมานอกวังหลวงในวันนี้ หาได้ออกมาเที่ยวเล่นแต่อย่างใด ฉะนั้นเจ้าจงเร่งไปแจ้งแก่คุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นเสียว่า ข้าจักนัดพบนางอีกครั้งในภายหลัง” องค์หญิงหลวนอี๋กล่าวสั่งการแก่นางกำนัล
“เพคะองค์หญิง” สี่ซ่านโค้งคำนับ ก่อนจะถอยกลับออกไปนอกสวนหย่อมทันทีอย่างรู้งาน
แล้วองค์หญิงหลวนอี๋ก็หันกลับมาบ่นใส่ไป๋ชิงหลิงว่า “คุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นผู้นี้ กล่าวว่าจักพาข้าไปเล่นน้ำในทะเลสาบ โดยแลกกับการที่ข้าต้องพานางไปเจอกับจวิ้นอ๋องน้อยให้ได้”
ไป๋ชิงหลิงได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกงุนงงเข้าไปใหญ่
องค์หญิงหลวนอี๋จึงกล่าวต่อไปแบบยิ้ม ๆ ว่า “เช่นนั้นข้าจักเล่าอะไรตลก ๆ ให้ท่านฟัง”
พูดจบนางก็โผเข้ากอดต้นแขนของไป๋ชิงหลิง และกระซิบข้างหูไป๋ชิงหลิงด้วยความตื่นเต้นว่า “เรื่องที่จวิ้นอ๋องน้อยไปตกหลุมรักแม่หญิงนางหนึ่งในจวนติ้งเป่ยโหวนั้น… พี่ไป๋เคยได้ยินมาบ้างแล้วหรือยัง?”
“ผู้ใดกัน?” ไป๋ชิงหลิงเบิกตากว้าง
ก่อนจะหันมองไปทางหรงเยี่ยแบบไม่รู้ตัว
แต่หรงเยี่ยกลับคว้าแขนเสื้อของหลวนอี๋ และดึงตัวหลวนอี๋ให้ออกห่างจากไป๋ชิงหลิงทันทีด้วยความไม่พอใจ
หลวนอี๋เห็นดังนั้นจึงรีบตะคอกกลับมาทันทีด้วยความโมโหว่า “พี่ชายเจ็ด เลิกฉุดกระชากข้าแบบนี้เสียที ข้ามิใช่เด็ก ๆ แล้วหนา”
“ข้าหิวแล้ว” หรงเยี่ยพูดพลางขยับเข้าไปยืนข้างกายไป๋ชิงหลิง ก่อนจะกล่าวต่อไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งว่า “และอีกเดี๋ยวข้าก็ต้องกินยาด้วย”
หลวนอี๋จ้องมองหรงเยี่ยด้วยความเดือดดาล ก่อนจะต้องข่มความเดือดดาลนั้นไว้ภายใน เพื่อไม่ให้เกิดการขัดจังหวะภาพหวานที่กำลังฉายอยู่เบื้องหน้า
“หากมิใช่เพราะอาการบาดเจ็บของท่านพี่ล่ะก็ ท่านพี่ได้โดนดีแน่! เราเข้าไปคุยกันต่อข้างในเถิดพี่ไป๋” หลวนอี๋กล่าว ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดแขนอีกข้างหนึ่งของไป๋ชิงหลิงเหมือนเด็กน้อย
ซึ่งมันทำให้ไป๋ชิงหลิงต้องหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เพราะความน่ารักน่าชังขององค์หญิงหลวนอี๋นั้น น่าเอ็นดูยิ่งกว่าเซิงเอ๋อร์ผู้เป็นบุตรสาวของนางเสียอีก
หลังจากที่พวกเขาก้าวเข้ามาในห้องอาหาร หลวนอี๋ก็เริ่มบรรเลงเรื่องราวของคุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นและแม่หญิงนางหนึ่งในจวนติ้งเป่ยโหวต่อทันที
“หญิงที่เสด็จป้ากำลังหมายตา ก็คือคุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นผู้นั้น แต่หญิงที่สามารถครองใจจวิ้นอ๋องน้อยได้ กลับเป็นบุตรสาวของนายท่านรองแห่งจวนติ้งเป่ยโหว ผู้ซึ่งมีนามว่าไป๋…”
“ไป๋หมิงอวี้!” ไป๋ชิงหลิงโพล่งออกมาโดยอัตโนมัติ
หลวนอี๋จึงรีบพยักหน้าตอบรับ และกล่าวต่อไปอย่างใจเย็นว่า “ใช่แล้วล่ะ นางมีนามว่า ไป๋หมิงอวี้ และถึงแม้ว่าเสด็จป้าจักมิค่อยชอบใจนางสักเท่าไร แต่เสด็จป้าก็ปฏิเสธมิได้จริง ๆ ว่า จวิ้นอ๋องน้อยมีใจให้นางมากแค่ไหน ยิ่งคุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นมาหลงใหลจวิ้นอ๋องน้อยเสียจนหัวปักหัวปำ มันจึงเป็นเหตุให้คุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นและไป๋หมิงอวี้มิค่อยชอบหน้ากันตั้งแต่แรกเห็น”
อ้ะ…
ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงกับเรื่องราวทั้งหมดที่องค์หญิงหลวนอี๋ทรงกล่าวมา
ก่อนจะหวนนึกถึงเทียบเชิญที่นางเพิ่งจะได้มาจากไป๋หมิงอวี้
ทั้ง ๆ ที่ไป๋หมิงอวี้กับคุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นนั้น มิค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไร…
“พวกนางมิค่อยจักลงรอยกันหรือเพคะ?” ความพิลึกพิลั่นที่ไป๋ชิงหลิงสัมผัสได้ ทำให้นางเริ่มอยากรู้ยิ่งนัก ว่าไป๋หมิงอวี้กำลังคิดจะทำสิ่งใดอยู่?
“ก็ใช่น่ะสิพี่ไป๋ 2 คนนั้นจักไปญาติดีกันได้อย่างไร?” หลวนอี๋ตอบกลับ ก่อนจะกล่าวต่อไปอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “เพียงแค่เจอหน้ากัน ก็เป็นต้องเขม่นใส่กันทุกครา ราวกับว่ามิอาจจักอยู่ร่วมโลกกันได้”
“แปลกจริง ๆ!” ไป๋ชิงหลิงวางตะเกียบลงกับโต๊ะ ในขณะที่หรงเยี่ยกำลังตักโจ๊กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
ในขณะที่หลวนอี๋นั้นเอาแต่กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสงสัย “มีสิ่งใดน่าแปลกงั้นหรือพี่ไป๋? พวกนางก็เป็นแค่เพียงศัตรูคู่แค้น ที่คนหนึ่งอยู่ได้ด้วยความรักของจวิ้นอ๋องน้อย ในขณะที่อีกคนหนึ่งนั้นอยู่ได้ด้วยความเอ็นดูของเสด็จป้า แต่ข้าว่าสุดท้ายแล้ว... จวิ้นอ๋องน้อยก็คงได้ร่วมหอลงโรงกับนางทั้งสองนั่นแหละ”
“ก็ถูกขององค์หญิงนะเพคะ ที่ทั้ง 2 คนนั้นจักเป็นศัตรูคู่แค้นต่อกัน แต่ว่า…” ไป๋ชิงหลิงเว้นช่วง ก่อนจะหยิบเทียบเชิญที่นางได้จากไป๋หมิงอวี้ขึ้นมา “เมื่อวานนี้ น้องหมิงอวี้เพิ่งจักไปนั่งดื่มชายามบ่ายกับคุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่น เพื่อขอเทียบเชิญงานเลี้ยงฉลองของยายเสิ่นมาให้หม่อมฉันเพคะ”
“ปั่ก!” ถั่วลิสงที่หลวนอี๋เพิ่งจะคีบขึ้นมาเมื่อครู่ต้องกระเด็นกระดอนลงกับพื้นไปทันที…
“เป็นไปมิได้ 2 คนนั้นจักไปนั่งดื่มชาด้วยกันได้อย่างไร... หนำซ้ำคุณหนูสามยังยอมมอบเทียบเชิญให้กับไป๋หมิงอวี้ด้วยเนี่ยนะ เป็นไปมิได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...