“นางจะทำอะไร”
“ท่านหมอจางก็ได้บอกไปแล้วว่านางไม่มีทางรอด โรงหมอหมิงเซิ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานเชียวนะ แถมยังเคยรับรองไทฮองไทเฮาที่ล่วงลับไปแล้วด้วย”
“ใบหน้าของคุณหนูสามตระกูลไป๋ซีดเหมือนคนตายไปแล้ว คงจะไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก”
“ได้ยินมาว่าบุตรสาวบุญธรรมของติ้งเป่ยโหวได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นหมอหญิงประจำราชสำนัก และเป็นคนโปรดข้างกายไทเฮา นางใช้วิธีประหลาดรักษาโรคฝีไส้ติ่งของไทเฮาให้หายขาดด้วย”
ฮูหยินรองเบิกตาโพลงและพยายามดิ้นขัดขืน
ติ้งเป่ยโหวกระจายฝูงชนที่ยืนมุงอยู่รอบตัวหมิงอวี้ออกอย่างรวดเร็ว
ฝูงชนที่ยืนห่างออกไปราวสิบเมตร จับจ้องมองไป๋ชิงหลิงตาไม่กะพริบ
เวลานี้ ทุกคนเห็นไป๋ชิงหลิงหยิบหลอดอันหนึ่งออกมาจากกล่องยาและสอดเข้าไปในหลอดลมของไป๋หมิงอวี้
จากนั้นเป่าลมเข้าปาก และกดที่หน้าอกของนาง
ดวงตาของผู้คนค้างแข็ง ต่างรู้สึกว่าไป๋ชิงหลิงไม่ให้เกียรติผู้ตาย
“นางถอดเสื้อผ้าของศพ แล้วยังจูบปากอีกด้วย เป็นการดูหมิ่นชัดๆ”
“ติ้งเป่ยโหว ท่านก็ไม่สนใจจะจัดการเสียหน่อยหรือ”
ติ้งเป่ยโหวใบหน้าบูดบึ้งนิ่งเฉยไร้วาจา ทุกครั้ง ไป๋ชิงหลิงล้วนมีวิธีการของนางในการช่วยชีวิตผู้คน”
เขาเชื่อมั่นว่านางทำได้
เขาเพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาและคำประณามของผู้คนรอบข้าง ทั้งยังสั่งให้ไป๋กัวจ้าวคอยดูแลความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุด้วย
ฮูหยินรองยังคงพยายามดิ้นรนไม่หยุด ดวงตาคู่นั้นบ่งบอกถึงความปรารถนาที่จะเอามีดกรีดแทงไป๋ชิงหลิง
เวลาค่อยๆ ล่วงเลยผ่านไป
เวลาฉุกเฉินทางการแพทย์ใกล้จะหมดแล้ว หากผู้จมน้ำไม่ได้รับการช่วยเหลือภายในเวลานี้ โอกาสรอดของไป๋หมิงอวี้จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ
เมื่อเห็นนางมีเหงื่อออกเต็มไปหมด ติ้งเป่ยโหวจึงพูดอย่างปวดใจ “เจาเสวี่ย เจ้าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ท่านหมอจางก็บอกแล้วว่าไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เจ้าวางมือเสียเถอะ”
“นางกำลังช่วยคนเสียที่ไหนกันเล่า นางกำลังลบหลู่คุณหนูสามไป๋ต่างหาก”
“ใช่แล้ว ติ้งเป่ยโหวเลอะเลือนไปเสียแล้ว”
“นางเหมือนหมอที่ไหนกัน แม้แต่คนตาย นางยังไม่ยอมปล่อย”
คนที่ยืนมุงดูอยู่ด้านหลังต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา
สีหน้าของติ้งเป่ยโหวดูย่ำแย่
เวลานี้เอง เสียงไออย่างรุนแรงก็ดังขึ้น
“แค่กๆ...”
“หมิงอวี้!” ไป๋หมิงอวี้ลุกขึ้นนั่งพลางพ่นน้ำและสิ่งแปลกปลอมออกมา ติ้งเป่ยโหวตะโกนด้วยความปีติยินดีในทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขายังอยู่ท่ามกลางความดีใจที่ไป๋หมิงอวี้ฟื้นขึ้นมา
ไป๋หมิงอวี้กลับกอดไป๋ชิงหลิงและตะคอกอย่างโกรธเคือง “ไป๋เจาเสวี่ย นางแพศยา เจ้าทำร้ายข้า ข้าขอตายไปพร้อมกับเจ้า!”
“ปัง!”
“เอ๋!”
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเพียงบาดแผลที่ไหล่ซ้ายถูกแรงฉีกจากภายนอก จากนั้น คนทั้งคนก็กลิ้งตกลงไปในทะเลสาบหมิงหู
ความเย็นยะเยือกของน้ำในทะเลสาบปกคลุมทั่วทั้งร่างทันที
ไป๋หมิงอวี้ที่นอนอยู่บนน้ำแข็งมองไป๋ชิงหลิงที่ถูกผลักตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง นางก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “ไป๋เจาเสวี่ย จงไปตายเสีย เพราะเหตุใดคนแพศยาเช่นเจ้าที่ให้กำเนิดบุตรีโดยมิได้สมรส จึงยังคงอยู่ในจวนติ้งเป่ยโหวได้ แต่เป็นข้าที่ต้องถูกขับไล่และถูกรุมประณาม นังแพศยา”
นางคว้าก้อนน้ำแข็งข้างกาย ออกแรงทุบลงไปในน้ำ
ชั่วเวลาอันสั้น น้ำใสๆ ก็เต็มไปด้วยเลือด
ซังจวี๋สั่นไปทั้งร่างและร้องเสียงหลงออกมา “แม่นาง!”
“เจาเสวี่ย เจาเสวี่ย...” ติ้งเป่ยโหวกลิ้งออกจากฝั่งไปอย่างทุลักทุเล เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าไป๋หมิงอวี้ เขาเตะนางออกให้พ้นทาง และเตรียมตัวกระโดดลงไปในหลุมน้ำแข็งเพื่อช่วยคน ในเวลานั้นเอง เงาร่างสีดำพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ค้นหาต่อไป!” หรงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม พลางสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกลุ่มใหม่กระโดดลงไปในน้ำ
ซังจวี๋งมคว้าไป๋หมิงอวี้ขึ้นมาได้ แต่คราวนี้ ไป๋หมิงอวี้ได้ตายจากไปแล้ว
ตาของนางเบิกโพลง แก้มเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน เถาวัลย์พันรอบคอของนางเอาไว้ สภาพน่าอเนจอนาถเป็นที่สุด
เมื่อเด็กๆได้เห็นภาพนี้ ต่างตกใจและพากันร้องไห้จ้า
การตายของไป๋หมิงอวี้ทำให้ฮูหยินรองตกใจจนใบหน้าซีดขาว “เจ้า...”
นางชี้ไปที่ซังจวี๋ แผดเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าฆ่าหมิงอวี้ เป็นเจ้าที่ฆ่าหมิงอวี้”
ติ้งเป่ยโหวได้สติกลับมา จึงรีบพุ่งเข้าไปตบหน้าฮูหยินรองทันที และตะคอกใส่ “หมิงอวี้ของเจ้านั่นแหละที่ทำร้ายเจาเสวี่ย หากเจาเสวี่ยตาย ข้าจะไปปล่อยบ้านรองของพวกเจ้าไปแน่ พวกเจ้าอย่าได้คิดว่าจะได้อะไรจากข้าอีก เจ้าควรจะภาวนาขอให้นางรอดกลับมาจะดีกว่า”
แรงตบทำให้ฮูหยินรองกระเด็นออกไป
นายท่านรองมาถึงพอดี
เขาเพิ่งจะเสร็จเรื่องที่สำนักฮั่นหลิน จึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับฮูหยินรองและหมิงอวี้
ทันทีที่มาถึง เขากลับเห็นติ้งเป่ยโหวกำลังทำร้ายภรรยาของเขา ดังนั้น นายท่านรองที่ไม่เคยเห็นติ้งเป่ยโหวอยู่ในสายตาก็ต่อว่าเขาอย่างโกรธเคือง “ไป๋เต้าเหริน อย่ารังแกกันเกินไป เจ้าดูแคลนพวกเราบ้านรอง ลำพังขับไล่พวกเราออกมาก็น่าจะพอใจแล้วนี่ เจ้ายังทำร้ายฮูหยินของข้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นติ้งเป่ยโหว แล้วข้าจะไม่กล้าเอาเรื่องเจ้าหรือ!”
“ท่านพี่ หมิงอวี้ถูกพวกมันฆ่าตายแล้ว” ฮูหยินรองลุกขึ้นจากพื้น นางชี้ไปที่ซังจวี๋ “รีบแจ้งทางการเร็ว แจ้งให้ทางการมาจับตัวนางไป นางฆ่าหมิงอวี้”
ซังจวี๋กำกระบี่แน่น ดวงตาโกรธขึ้ง “ไป๋หมิงอวี้จิตใจโหดเหี้ยมเยี่ยงสุนัขป่า แม่นางของข้าอุตส่าห์มาถึงที่นี่เพื่อช่วยนาง นางกลับผลักแม่นางของข้าตกลงไปในน้ำ ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้เลย”
นายท่านรองสั่นสะท้าน รีบหันกลับมามองฮูหยินรอง “ที่นางพูดเป็นความจริงหรือ!”
“เหลวไหล!” ฮูหยินรองโต้กลับ
และในเวลานี้เอง แส้เส้นหนึ่งฟาดลงมากระทบบนตัวของฮูหยินรอง
เมื่อแส้ถูกดึงกลับ ฮูหยินรองก็กลิ้งตกลงไปในทะเลสาบทันที...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...