ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 127

“นางจะทำอะไร”

“ท่านหมอจางก็ได้บอกไปแล้วว่านางไม่มีทางรอด โรงหมอหมิงเซิ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานเชียวนะ แถมยังเคยรับรองไทฮองไทเฮาที่ล่วงลับไปแล้วด้วย”

“ใบหน้าของคุณหนูสามตระกูลไป๋ซีดเหมือนคนตายไปแล้ว คงจะไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก”

“ได้ยินมาว่าบุตรสาวบุญธรรมของติ้งเป่ยโหวได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นหมอหญิงประจำราชสำนัก และเป็นคนโปรดข้างกายไทเฮา นางใช้วิธีประหลาดรักษาโรคฝีไส้ติ่งของไทเฮาให้หายขาดด้วย”

ฮูหยินรองเบิกตาโพลงและพยายามดิ้นขัดขืน

ติ้งเป่ยโหวกระจายฝูงชนที่ยืนมุงอยู่รอบตัวหมิงอวี้ออกอย่างรวดเร็ว

ฝูงชนที่ยืนห่างออกไปราวสิบเมตร จับจ้องมองไป๋ชิงหลิงตาไม่กะพริบ

เวลานี้ ทุกคนเห็นไป๋ชิงหลิงหยิบหลอดอันหนึ่งออกมาจากกล่องยาและสอดเข้าไปในหลอดลมของไป๋หมิงอวี้

จากนั้นเป่าลมเข้าปาก และกดที่หน้าอกของนาง

ดวงตาของผู้คนค้างแข็ง ต่างรู้สึกว่าไป๋ชิงหลิงไม่ให้เกียรติผู้ตาย

“นางถอดเสื้อผ้าของศพ แล้วยังจูบปากอีกด้วย เป็นการดูหมิ่นชัดๆ”

“ติ้งเป่ยโหว ท่านก็ไม่สนใจจะจัดการเสียหน่อยหรือ”

ติ้งเป่ยโหวใบหน้าบูดบึ้งนิ่งเฉยไร้วาจา ทุกครั้ง ไป๋ชิงหลิงล้วนมีวิธีการของนางในการช่วยชีวิตผู้คน”

เขาเชื่อมั่นว่านางทำได้

เขาเพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาและคำประณามของผู้คนรอบข้าง ทั้งยังสั่งให้ไป๋กัวจ้าวคอยดูแลความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุด้วย

ฮูหยินรองยังคงพยายามดิ้นรนไม่หยุด ดวงตาคู่นั้นบ่งบอกถึงความปรารถนาที่จะเอามีดกรีดแทงไป๋ชิงหลิง

เวลาค่อยๆ ล่วงเลยผ่านไป

เวลาฉุกเฉินทางการแพทย์ใกล้จะหมดแล้ว หากผู้จมน้ำไม่ได้รับการช่วยเหลือภายในเวลานี้ โอกาสรอดของไป๋หมิงอวี้จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

เมื่อเห็นนางมีเหงื่อออกเต็มไปหมด ติ้งเป่ยโหวจึงพูดอย่างปวดใจ “เจาเสวี่ย เจ้าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ท่านหมอจางก็บอกแล้วว่าไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เจ้าวางมือเสียเถอะ”

“นางกำลังช่วยคนเสียที่ไหนกันเล่า นางกำลังลบหลู่คุณหนูสามไป๋ต่างหาก”

“ใช่แล้ว ติ้งเป่ยโหวเลอะเลือนไปเสียแล้ว”

“นางเหมือนหมอที่ไหนกัน แม้แต่คนตาย นางยังไม่ยอมปล่อย”

คนที่ยืนมุงดูอยู่ด้านหลังต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา

สีหน้าของติ้งเป่ยโหวดูย่ำแย่

เวลานี้เอง เสียงไออย่างรุนแรงก็ดังขึ้น

“แค่กๆ...”

“หมิงอวี้!” ไป๋หมิงอวี้ลุกขึ้นนั่งพลางพ่นน้ำและสิ่งแปลกปลอมออกมา ติ้งเป่ยโหวตะโกนด้วยความปีติยินดีในทันที

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขายังอยู่ท่ามกลางความดีใจที่ไป๋หมิงอวี้ฟื้นขึ้นมา

ไป๋หมิงอวี้กลับกอดไป๋ชิงหลิงและตะคอกอย่างโกรธเคือง “ไป๋เจาเสวี่ย นางแพศยา เจ้าทำร้ายข้า ข้าขอตายไปพร้อมกับเจ้า!”

“ปัง!”

“เอ๋!”

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเพียงบาดแผลที่ไหล่ซ้ายถูกแรงฉีกจากภายนอก จากนั้น คนทั้งคนก็กลิ้งตกลงไปในทะเลสาบหมิงหู

ความเย็นยะเยือกของน้ำในทะเลสาบปกคลุมทั่วทั้งร่างทันที

ไป๋หมิงอวี้ที่นอนอยู่บนน้ำแข็งมองไป๋ชิงหลิงที่ถูกผลักตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง นางก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “ไป๋เจาเสวี่ย จงไปตายเสีย เพราะเหตุใดคนแพศยาเช่นเจ้าที่ให้กำเนิดบุตรีโดยมิได้สมรส จึงยังคงอยู่ในจวนติ้งเป่ยโหวได้ แต่เป็นข้าที่ต้องถูกขับไล่และถูกรุมประณาม นังแพศยา”

นางคว้าก้อนน้ำแข็งข้างกาย ออกแรงทุบลงไปในน้ำ

ชั่วเวลาอันสั้น น้ำใสๆ ก็เต็มไปด้วยเลือด

ซังจวี๋สั่นไปทั้งร่างและร้องเสียงหลงออกมา “แม่นาง!”

“เจาเสวี่ย เจาเสวี่ย...” ติ้งเป่ยโหวกลิ้งออกจากฝั่งไปอย่างทุลักทุเล เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าไป๋หมิงอวี้ เขาเตะนางออกให้พ้นทาง และเตรียมตัวกระโดดลงไปในหลุมน้ำแข็งเพื่อช่วยคน ในเวลานั้นเอง เงาร่างสีดำพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ได้ยินเพียงเสียง “ตูม”

ติ้งเป่ยโหวตกตะลึง

เวลานี้ ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกลุ่มหนึ่งกระโดดลงไปในทะเลสาบหมิงหู พวกเขาใช้ฝ่ามือเปลือยเปล่ากดลงไปบนแผ่นน้ำแข็ง และน้ำแข็งก็แตกออก...

ผู้คนที่ยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งตกลงไปในน้ำทีละคน รวมถึงติ้งเป่ยโหวด้วยเช่นกัน เวลานี้ ติ้งเป่ยโหวจึงจะตระหนักได้ว่า คนที่เพิ่งกระโดดลงไปในน้ำคือ...

“เป็นท่านอ๋องหรง”

“หมิงอวี้ หมิงอวี้ รีบช่วยหมิงอวี้เร็วเข้า นางตกลงไปในน้ำ” ซังจวี๋ได้พุ่งลงน้ำไปช่วยคนก่อนแล้ว ทำให้เชือกที่มัดฮูหยินรองเอาไว้ถูกคลายออก

นางกระโดดไปที่ริมฝั่งและร้องตะโกน

แต่ไม่มีใครในน้ำสนใจนางสักคน

ในทางกลับกัน ชาวบ้านที่เมื่อสักครู่นี้ด่าว่าไป๋ชิงหลิง หันกลับมาดูแคลนไป๋หมิงอวี้

“นังคนจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่า คนเขาอุตส่าห์ช่วยชีวิตนาง กลับถูกนางผลักตกลงไปในทะเลสาบ”

“ทะเลสาบลึกมาก เกรงว่าจะเป็นข่าวร้ายเสียมากกว่าดี”

“ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำทำลายแผ่นน้ำแข็งทั้งหมด หมายมั่นจะช่วยชีวิตคนให้ได้ นอกจากนี้ ท่านอ๋องหรงก็ทรงกระโดดลงไปด้วยตัวเองเลย”

เวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป ติ้งเป่ยโหวโผล่พ้นน้ำขึ้นมาดูสถานการณ์อยู่หลายครั้ง เหล่าทหารองครักษ์เหยี่ยวดำต่างยังไม่ได้ขึ้นฝั่ง อ๋องหรงเองก็เช่นกัน นั่นหมายความว่า ไป๋ชิงหลิงยังอยู่ในน้ำ (**เวลาหนึ่งก้านธูป เทียบเท่ากับเวลาหนึ่งชั่วโมงในปัจจุบัน)

ติ้งเป่ยโหวร้อนรน เขาดำลงไปหาในน้ำอีกครั้ง

แต่ทว่า น้ำในทะเลสาบหมิงหูเย็นมาก ทำให้ร่างกายของติ้งเป่ยโหวติดขัดและเป็นตะคริวที่ขา บังเอิญอ๋องหรงอยู่ใกล้ๆ พอดี เขายื่นมือออกมาและออกแรงผลักติ้งเป่ยโหว

ทั้งสองขึ้นฝั่งมาด้วยกัน

เวลานี้ ไป๋ชิงหลิงตกลงไปในน้ำได้หนึ่งชั่วยามแล้ว!

ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่คนจะกลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้นานขนาดนั้น ถึงแม้ไป๋ชิงหลิงจะถูกช่วยขึ้นมาจากน้ำได้ ก็คงจะไม่รอดแน่

ติ้งเป่ยโหวนั่งลงที่พื้นพลางร้องไห้ตะโกนออกมา “เจาเสวี่ยล่ะ เจาเสวี่ยยังไม่ได้ขึ้นมา ข้าจะต้องพานางขึ้นมาให้ได้ เซิงเอ๋อร์ยังรอนางอยู่นะ”

เขาพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแต่ก็ถูกไป๋กัวจ้าวรั้งเอาไว้ “ท่านโหว ล้วนหาจนทั่วแล้ว ทะเลสาบหมิงหูลึกเกินไป เกรงว่าแม่นางจะ...”

“ค้นหาต่อไป!” หรงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม พลางสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกลุ่มใหม่กระโดดลงไปในน้ำ

ซังจวี๋งมคว้าไป๋หมิงอวี้ขึ้นมาได้ แต่คราวนี้ ไป๋หมิงอวี้ได้ตายจากไปแล้ว

ตาของนางเบิกโพลง แก้มเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน เถาวัลย์พันรอบคอของนางเอาไว้ สภาพน่าอเนจอนาถเป็นที่สุด

เมื่อเด็กๆได้เห็นภาพนี้ ต่างตกใจและพากันร้องไห้จ้า

การตายของไป๋หมิงอวี้ทำให้ฮูหยินรองตกใจจนใบหน้าซีดขาว “เจ้า...”

นางชี้ไปที่ซังจวี๋ แผดเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าฆ่าหมิงอวี้ เป็นเจ้าที่ฆ่าหมิงอวี้”

ติ้งเป่ยโหวได้สติกลับมา จึงรีบพุ่งเข้าไปตบหน้าฮูหยินรองทันที และตะคอกใส่ “หมิงอวี้ของเจ้านั่นแหละที่ทำร้ายเจาเสวี่ย หากเจาเสวี่ยตาย ข้าจะไปปล่อยบ้านรองของพวกเจ้าไปแน่ พวกเจ้าอย่าได้คิดว่าจะได้อะไรจากข้าอีก เจ้าควรจะภาวนาขอให้นางรอดกลับมาจะดีกว่า”

แรงตบทำให้ฮูหยินรองกระเด็นออกไป

นายท่านรองมาถึงพอดี

เขาเพิ่งจะเสร็จเรื่องที่สำนักฮั่นหลิน จึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับฮูหยินรองและหมิงอวี้

ทันทีที่มาถึง เขากลับเห็นติ้งเป่ยโหวกำลังทำร้ายภรรยาของเขา ดังนั้น นายท่านรองที่ไม่เคยเห็นติ้งเป่ยโหวอยู่ในสายตาก็ต่อว่าเขาอย่างโกรธเคือง “ไป๋เต้าเหริน อย่ารังแกกันเกินไป เจ้าดูแคลนพวกเราบ้านรอง ลำพังขับไล่พวกเราออกมาก็น่าจะพอใจแล้วนี่ เจ้ายังทำร้ายฮูหยินของข้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นติ้งเป่ยโหว แล้วข้าจะไม่กล้าเอาเรื่องเจ้าหรือ!”

“ท่านพี่ หมิงอวี้ถูกพวกมันฆ่าตายแล้ว” ฮูหยินรองลุกขึ้นจากพื้น นางชี้ไปที่ซังจวี๋ “รีบแจ้งทางการเร็ว แจ้งให้ทางการมาจับตัวนางไป นางฆ่าหมิงอวี้”

ซังจวี๋กำกระบี่แน่น ดวงตาโกรธขึ้ง “ไป๋หมิงอวี้จิตใจโหดเหี้ยมเยี่ยงสุนัขป่า แม่นางของข้าอุตส่าห์มาถึงที่นี่เพื่อช่วยนาง นางกลับผลักแม่นางของข้าตกลงไปในน้ำ ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้เลย”

นายท่านรองสั่นสะท้าน รีบหันกลับมามองฮูหยินรอง “ที่นางพูดเป็นความจริงหรือ!”

“เหลวไหล!” ฮูหยินรองโต้กลับ

และในเวลานี้เอง แส้เส้นหนึ่งฟาดลงมากระทบบนตัวของฮูหยินรอง

เมื่อแส้ถูกดึงกลับ ฮูหยินรองก็กลิ้งตกลงไปในทะเลสาบทันที...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น