ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 147

แววตาของหรงเยี่ยหรี่ลงเล็กน้อยและมีแสงเปล่งประกายปรากฏขึ้นมา และเสียงทุ้มต่ำก็ข้ามผ่านใบหูของนาง "ข้า......ชอบเจ้า!"

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว

คำพูดของเขาดังก้องในหูของนางไม่หยุดหย่อน

เขาชอบนาง!

หมายความว่าเขาตกหลุมรักนางเข้าแล้ว

นางจ้องมองหรงเยี่ยอย่างสับสนมึนงง ทั้งสองสบตาซึ่งกันและกัน โดยไม่มีใครทำลายความเงียบที่งดงามเช่นนี้

เข้าก้มศีรษะลง และจูบริมฝีปากของนางอีกครั้ง

โดยไม่มีความรุนแรงเหมือนเมื่อครู่ เหลือเพียงความอ่อนโยนที่อบอุ่นเท่านั้น

ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงและตอบสนองต่อเขาอย่างขาดสติ

ความชอบของเขาก็เหมือนลูกศรกามเทพแทงทะลุหัวใจของนาง

นางใช้ชีวิตมาแล้วสองสมัยและยังไม่เคยมีความรัก การขอแต่งงานและการแต่งงาน แต่จู่ๆ ก็มีลูกถึงสองคน

เป็นครั้งแรกที่นางถูกผู้ชายสารภาพรัก

นางยอมรับว่าทำให้หัวใจของนางสั่นไหวไม่น้อย

ช่วงนี้มักมีคนเข้ามารายล้อมรอบตัวนาง แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่ผู้ชายในอุดมคติและไม่อ่อนโยน แต่เขาก็สามารถช่วยนางจากอันตรายต่างๆ ได้ทุกครั้ง แต่นางกลับมองไม่เห็น

นางไม่อาจยอมรับความดีที่เขาทำต่อนางในทุกครั้ง นางกลัวว่าหากนางพลาดไป เขาคงเป็นเหมือนท่านอ๋องต้วน

แต่เมื่อคิดดูตอนนี้ ไป๋ชิงหลิงกลับรู้สึกว่าหากปฏิบัติต่อท่านอ๋องหรงเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมเท่าไรนัก

นางควรจะผลักเขาออกไปให้ไกล ถึงอย่างไรเสียตัวตนที่แท้จริงของนางก็ไม่สามารถทำให้เขาและนางอยู่ร่วมกันได้

นางออกแรงกัดเขา ทำให้หรงเยี่ยปล่อยนาง

ใบหน้าที่หล่อเหลาอ่อนโยนลงเล็กน้อย และดวงตาที่ยาวและแคบของเขาฉายประกายด้วยความหวัง

เขากำลังรอคำตอบจากนาง เพียงคำพูดของนางแค่คำเดียว เขาก็จะสามารถทำทุกอย่างเพื่อนางได้

จากนั้น ไป๋ชิงหลิงกลับมองเขาและกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก "พอได้แล้ว จูบนี้ถือเป็นการเส้นแบ่งแยกระหว่างเราสองคน จากวันนี้ไป ท่านและข้าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ข้าไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ!"

"ไป๋เจาเสวี่ย!"

บรรยากาศอันเงียบสงบแผ่ซ่านไปด้วยความโกรธรุนแรงในทันที

ความอ่อนโยนบนใบหน้าของเขาถูกความโกรธเข้าครอบงำอย่างรวดเร็ว และดวงตาของเขาร้อนรุ่มด้วยความโกรธ

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเพียงร่างกายกำลังถูกเผาผลาญด้วยความโกรธที่มองไม่เห็น และความกลัวของนางก็แผ่ขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขต

นางเกร็งตัวแน่นและกล่าวว่า "พูดไปแล้ว ข้ายังไม่ขอบพระทัยฝ่าบาทเลยที่ได้เรียกร้องตำแหน่งพระชายาเอกของท่านอ๋องฮุ่ยให้กับข้า ข้างกายของท่านอ๋องฮุ่ยมีเพียงองค์หญิงผิงหยางคนเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเด็กที่โตแล้ว หลังจากที่ข้าแต่งงานไปแล้ว ข้าก็ไม่จำเป็นต้องดูแลเรื่องการกินอยู่ขององค์หญิงผิงหยางอีกต่อไป ข้าเพียงแต่ดูแลลูกทั้งสองคนของข้าก็เพียงพอแล้ว ท่านอ๋องหรงเพคะ การเลี้ยงเด็กเป็นเรื่องเหนื่อยยาก ข้าเลี้ยงเด็กสองคนก็ลำบากมากพอแล้ว ข้าไม่อยากเลี้ยงดูหรงจิ่งหลินอีกคนเพคะ"

"เจ้า......" หรงเยี่ยยกมือขึ้นและบีบคอของนาง

ทำให้เส้นเอ็นของเขาปรากฏขึ้น และแขนของเขาตึงขึ้นทันที

แต่แรงนั้นกลับไปไม่ถึงปลายนิ้วมือ ไป๋ชิงหลิงไม่รู้สึกอึดอัดหรือหายใจไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว

เขาปล่อยมือจากนางและทุบกำปั้นลงไปบนโต๊ะอย่างแรง

ในเวลานี้มีเสียงเรียกดังขึ้นจากหน้าประตู "ซื่อจื่อน้อย เหตุใดท่านถึงยืนอยู่ที่นี่!"

ไป๋ชิงหลิงตกใจอย่างมาก

หรงเยี่ยก็หันหน้าไปมองม่านหน้าต่างด้วยเช่นกัน

ทหารคนหนึ่งพาหรงจิ่งหลินเดินเข้ามาในกระโจมค่ายทหาร

หรงจิ่งหลินหยุดอยู่หน้าม่านด้วยอาการตาแดงก่ำ และมองไปที่ไป๋ชิงหลิงด้วยสีหน้าผิดหวัง "ท่านแม่ ท่านไม่ต้องการจิ่งหลินแล้วหรือขอรับ?"

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกตื่นตระหนกและหัวใจเต้นแรงมาก

เมื่อสักครู่ที่นางพูดออกไป เพียงแค่ต้องการให้หรงเยี่ยออกไปจากชีวิตของนาง เพื่อจะได้ไม่เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทบาดหมางกับท่านอ๋องฮุ่ย นางไม่ได้คิดเช่นนั้นจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น