เป่ยโหวสีหน้าดูไม่ดี ใจเกิดความรู้สึกแค้นเคืองขึ้นมา
แต่พอดีกับที่ฝ่าบาทจับสายตาอำมหิตอาฆาตนั่นของติ้งเป่ยโหวได้ พระองค์แสยะริมฝีปากขึ้น แล้วหมุนตัวเดินไปที่โต๊ะ หลุบตามองไปทางไป๋ชิงหลิง ตรัสขึ้นว่า“เจ้ามีความปรารถนาอะไร?”
ติ้งเป่ยโหวหันกลับไปมองไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“เมื่อผ่านเรื่องนี้ไป หากหม่อมฉันมีชีวิตรอดอยู่ ฝ่าบาทจะต้องให้อิสระแก่หม่อมฉันเพคะ และเขียนหนังสือรับรองแก่หม่อมฉัน ประทับตราประทับมังกรด้วย จะต้องรับรองว่าในอนาคตจะไม่มีทางเอาหม่อมฉันให้ท่านอ๋องคนไหน พระราชบุตร หรือคนอื่นด้วยเพคะ”
นี่เป็นแต้มต่อที่นางต้องการ
เพียงแค่การคุ้มครองนี้อยู่ในมือ นางก็ไม่ต้องกังวลใจว่าจะถูกท่านอ๋องหรงบังคับแล้ว
รอนางความแค้นของนางชำระแล้ว นางก็จะพาลูกทั้งสองคนออกไปจากเฉาจิง
จักรพรรดิเหยายิ้มเล็กน้อย แปลกใจกับสิ่งที่นางร้องขอเป็นอย่างมาก “เจ้ารู้ความรู้สึกที่เยี่ยเอ๋อร์มีต่อเจ้า เหตุใดไม่ใช้เพื่อขอเกียรติ”
“ฝ่าบาท คนใจซื่อไม่พูดจาอ้อมค้อม พระองค์ไม่ได้อยากให้หญิงที่เคยมีลูกแล้ว เป็นพระชายาของท่านอ๋องหรงหรอกเพคะ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อน หม่อมฉันมีญาณทัศนะที่รู้ตัวเองดีเพคะ”ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ติ้งเป่ยโหวได้ยินคำนี้ ใจกระตุกอย่างรุนแรงพักหนึ่ง
ที่แท้……คิดไม่ถึงว่านางปฏิบัติคิดกับตัวเองเช่นนี้
หากเขารู้ เอานางกลับมาเฉาจิง จะต้องประสบพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะไม่พานางกลับมาโดยเด็ดขาด
นางอยู่ที่หุบเขาเซียนไหลไม่มีเรื่องกลุ้มใจ จะต้องมาคิดวางแผนอนาคตของตนเองแบบนี้ที่ไหนกัน
ติ้งเป่ยโหวรู้สึกเสียใจภายหลังเหลือเกิน
แต่ทว่าจักรพรรดิเหยากลับยิ้มออกมาอย่างสบายใจ พระองค์ยิ่งรู้สึกพอใจกับเหตุผลความเข้าใจสถานการณ์ของไป๋ชิงหลิงมากขึ้น
หายากนะผู้หญิงที่จะตรงไปตรงมาอย่างนี้ แต่น่าเสียดาย…..
หญิงที่เคยให้กำเนิดลูกคนอื่น ไม่คู่ควรที่จะอภิเษกสมรสเข้ามาในราชวงศ์จริงๆ
หัวคิ้วจักรพรรดิเหยาคลายปมออก ตรัสขึ้นว่า “ข้ายินยอม เจ้ามีเงื่อนไขอะไรก็พยายามเขียน ข้าอ่านเสร็จจะประทับตราให้ วันข้างหน้าหากมีผู้ใดกล้าทำให้เจ้าลำบากใจ พระราชโองการก็สามารถเป็นตัวสนับสนุนเจ้าได้ ฟางกงกง เอาพู่กันและหมึกดำมา”
ฟางกงกงรีบเดินมา จากนั้นได้นำผ้ามาวางบนโต๊ะ
ไป๋ชิงหลิงก็ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจ นางรับพู่กันและหมึกดำมาจากฟางกงกง และนางได้เขียนตัวอักษรลงบนแผ่นผ้าอย่างคล่องแคล่ว
นางไม่ต้องการอะไรเลย นางแค่ต้องการให้การแต่งงานของนางเป็นอิสระ
เมื่อเขียนเสร็จ ไป๋ชิงหลิงได้วางพู่กันลง กล่าวว่า”ฝ่าบาทโปรดอ่านพิจารณาเพคะ”
ฟางกงกงหยิบขึ้นมาโดยใช้มือทั้งสองข้างประคองถือไว้ แล้วนำไปวางด้านหน้าจักรพรรดิเหยาด้วยความระมัดระวัง
จักรพรรดิเหยาตั้งใจอ่าน พบเห็นกฏเกณฑ์เงื่อนไขของไป๋ชิงหลิงอย่างชัดเจนแล้ว
นางเขียนเพียงสิ่งที่นางร้องขอมาเมื่อครู่นี้ ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรเข้ามา
ยกตัวอย่างเช่น ต้องการสมญานาม อาณาเขตหรืออื่นๆ
จนทำให้พระองค์รู้สึกแทนไป๋ชิงหลิงว่า นางช่างทรมานตนเองเหลือเกิน
จักรพรรดิเหยาหยิบหลงอวิ๋นหลิงออกมาหนึ่งอัน และยังมีตราอาญาสิทธิ์อำนาจสั่งการทางทหารวางบนโต๊ะ พระองค์ดันมันไปข้างหน้า “เมื่อเห็นหลงอวิ๋นหลิงเท่ากับเห็นข้า วันข้างหน้ามีภัยอันตราย เอามันออกมา มันสามารถปกป้องชีวิตเจ้าได้ อยู่ตรงที่ข้าก็สามารถใช้ได้ แค่ใช้ได้เพียงสามครั้ง”
ฟางกงกงหยิบหลงอวิ๋นหลิงกับตราอาญาสิทธิ์ขึ้นมา กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “หมอหญิงไป๋ หลงอวิ๋นหลิงนี้เป็นแผ่นป้ายยกเว้นความตาย มีเพียงสามชิ้น ท่านจะต้องรักษาเก็บไว้ดีๆนะ”
ไป๋ชิงหลิงคุกเข่าลง กล่าวขอบพระทัยว่า“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท ที่กรุณาพระราชทานหลงอวิ๋นหลิงแก่หม่อมฉัน”
ฟางกงกงเป็นคนมอบหลงอวิ๋นหลิงบนมือของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...