ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 153

“ไป๋เจาเสวี่ยกับอ๋องหรงหมดหวังกันหรือไม่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า” แม่นางหลี่จ้องมองบุตรสาวอย่างเยือกเย็น

ไป๋หมิงจูตกใจกับท่าทีของนางและจู่ๆก็กล่าวอย่างไม่เป็นธรรมว่า: “ท่านแม่ ข้า......ข้าก็แค่พูดไปเช่นนั้นเอง”

แม่นางหลี่กำมือของไป๋หมิงจูเอาไว้แน่นและเตือนด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า: “เจ้าอย่าเพ้อฝันไปเสีย ท่านอ๋องหรงเป็นโอรสของฮองเฮา การอภิเษกของพระองค์มีฮองเฮาอู่และฝ่าบาทเป็นผู้ที่ทงตัดสินพระทัย เจ้าไม่สามารถจะเป็นพระชายาหรงได้หรอกนะ”

คำพูดแม่นางหลี่เสมือนค้อนขนาดใหญ่ทุบความเพ้อฝันทั้งหมดในใจของไป๋หมิงจูเสียจนแหลกลาน

ดวงตาของนางน้ำตานองและกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า: “ไม่ลองดูจะรู้ได้อย่างไรว่าได้หรือไม่”

“เจ้าโง่!” แม่นางหลี่ตบหน้านางอย่างแรง

ไป๋หมิงจูตะลึงจังงังในทันใดโดยที่นางกุมหน้าของตนเอาไว้แล้วถอยหลังไป และกล่าวด้วยน้ำตาว่า: “ท่านแม่ ท่านลำเอียง ขณะที่ท่านพี่ยังมีชีวิตอยู่ท่านวางแผนต่อจวิ้นอ๋องน้อยเพื่อนาง พระชายาอันชินผู้นั้นไม่สนใจท่านพี่สามเลยแต่ท่านก็มิใช่คิดเพ้อฝันหรอกหรือ แล้วอาศัยอะไรถึงข้านี่ถึงไม่ได้หล่ะ”

“เจ้า......” แม่นางหลี่จ้องมองอย่างโกรธเคืองด้วยดวงตาทั้งคู่แล้วยกนิ้วชี้ไปยังไป๋หมิงจูพร้อมตะโกนร้องว่า: “ท่านพี่ของเจ้าเป็นผู้ที่ฉลาดเฉลียวเช่นนั้นก็ยังถูกคิดการณ์ไปและตายอยู่ในหมิงหู แล้วเจ้าผู้ที่สมองโง่เง่าเช่นนี้ยังคิดที่จะแต่งเข้าจวนท่านอ๋องหรง เจ้าสู้ฮองเฮาได้แล้วสู้กับเหล่าภรรยาและนางสนมเหล่านั้นได้หรือเปล่า เด็กๆ!"

แม่นางหลี่รู้จักบุตรสาวทั้งสามคนของนางเป็นอย่างดีที่สุด

บุตรสาวคนโตไป๋หมิงอวี้ฉลาดหลักแหลมสุขุมล่ำลึกก็ยังถูกฆ่าตายเลย

บุตรสาวคนที่สองไป๋หมิงจูไม่เพียงแต่หน้าตาธรรมดาๆแม้แต่สมองก็ไม่คล่องแคล่ว

บุตรสาวคนที่สามไป๋หมิงฮุ่ยที่ในสายตามีแต่การกินเท่านั้น!

ความหวังเดียวของนางวนตอนนี้อยู่ในตัวไป๋หมิงจู แล้วนางจะกล้าให้ไพ่ใบสุดท้ายจองนางมาสร้างความยุ่งเหยิงได้อีกได้อย่างไร

“พานางกลับห้องไป ไม่ได้รับอนุญาตจากข้าห้ามออกจากลานบ้าน” แม่นางหลี่ออกคำสั่ง

ไป๋หมิงอวี้ปิดหน้าร้องห่มร้องไห้เสียงดังและวิ่งออกไป

แม่นางหลี่มองดูร่างที่จากไปของบุตรสาวก็ยิ่งเกลียดชังไป๋ชิงหลิงมากยิ่งขึ้น

เป็นเจ้าตัวซวยนั่นที่ทำให้นางผู้เป็นอนุถูกขับไล่ออกมา

ไป๋เจาเสวี่ย ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถเป็นแน่!

ส่วนอ๋องหรงที่ไป๋หมิงอวี้คิดคำนึงถึงอยู่ตลอดในขณะนี้อยู่ที่หนานเซี่ยว และเข้าร่วมการค้นหาศพของเด็กทั้งสามคน

ใต้เท้าเว่ยรายงานถึงเรื่องเด็กที่หายตัวไปในช่วงระยะเวลาสามเดือนมานี้ต่ออ๋องหรง: “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ นี่เป็นศพขอวเด็กคนที่สิบแปดแล้ว ในช่วงสามเดือนมานี้ผู้ที่มาแจ้งความมีทั้งหมดสามสิบกว่าคดี ซึ่งล้วนเป็นเด็กอายุระหว่างสามถึงหกขวบ ห่างกันช่วงระยะเวลาหนึ่งก็จะมีศพหลายศพของเด็กที่หายตัวไปถูกโยนออกมาโดยไม่รอดเลยแม้แต่คนเดียว ผลการชันสูตรศพปรากฏว่าร่างกายของเด็กที่เสียชีวิตไปไร้ซึ่งบาดแผลภายนอกและไม่มีร่องรอยของการถูกพิษ วิธีการของอีกฝ่ายนั้นช่างเจ้าเลห์ยิ่งนักพะย่ะค่ะ”

หรงเยี่ยมองไปยังป่า ทหารที่ว่าการกำลังสืบสวนอยู่ในที่เกิดเหตุและยังมีผู้ที่กำลังจัดการกับศพด้วย

ผู้ที่มาแจ้งความได้ยินว่าหนานเซี่ยวมีเด็กเสียชีวิตอีกแล้วจึงเร่งมารับตัว

มีหลายคนเป็นคนในตระกูลของเด็กๆซึ่งกำลังอุ้มร่างของเด็กร้องไห้เสียงดัง"ฮือฮือ"อยู่

“ข้าดูซิ” หรงเยี่ยตรัส

“ท่านอ๋องโปรดเสด็จตามผู้น้อยมา ยังมีอีกศพหนึ่งที่ยังไม่มีผู้ใดมาขอรับคืนพะย่ะค่ะ พระองค์ทรงทอดพระเนตรศพนั้นก่อนพะย่ะค่ะ” ใต้เท้าเว่ยรีบนำทาง

หรงเยี่ยทรงก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ายชันสูตรศพที่อยู่ด้านข้างยืนขึ้นถวายคำนับ

หรงเยี่ยทรงโบกมือแล้วนั่งย่อเข่าลงดูใบหน้าของเด็กอย่างละเอียด

ตรงหน้าเป็นเด็กหญิงอายุสามขวบคนหนึ่ง

สีหน้าของนางซีดเผือด ปากแห้งแตก ทว่าหน้าตากลับงดงามยิ่งนัก

หรงเยี่ยทรงยื่นพระหัตถ์ไปแกะผ้าขาวบนร่างของนางออก จากนั้นพับแขนเสื้อของนางขึ้นแล้วตรวจสอบศพของเด็กผู้นี้อีกรอบ

เป็นตามที่ใต้เท้าเว่ยกล่าว เด็กไม่ได้รับบาดเจ็บภายนอกเลย

หรงเยี่ยลุกยืนขึ้นพร้อมกับแววตาอันขึงขังแล้วตรัสว่า: "เปิดกะโหลกดูซิ!"

ฝ่ายชันสูตรกล่าวว่า: "อ๋องหรงพะย่ะค่ะ เกล้ากระหม่อมได้เปิดกะโหลกสมองของศพที่ไร้ชื่อแล้ว ในหัวของเด็กก็ไม่มีความผิดปกติใดๆพ่ะย่ะค่ะ!"

ในเวลานี้ จู่ๆแมวดำตัวหนึ่งก็กระโดดพุ่งออกมาจากป่าและตกลงบนร่างของศพ......

ใตเท้าเว่ยรีบไล่ออกไปแต่แมวดำกลับขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจการขับไล่ของใต้เท้าเว่ย แล้วเดินไปมาบนร่างศพอยู่หลายก้าว

ใต้เท้าเว่ยรีบชักดาบแล้วโบกใส่เจ้าแมวดำ ส่วนเจ้าแมวดำก็กระโดดไปยังกิ่งไม้ฝั่งตรงข้ามทันที พร้อมกับส่งเสียง"เหมียว"เสียงหนึ่งต่อใต้เท้าเว่ยและอ๋องหรงแล้วกระโดดไปยังบนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามและหายตัวไปในพริบตาเลย

หรงเยี่ยเพียงแค่เหลือบมองแมวดำเบาๆ: "ศพนี้ไม่มีผู้ใดมาขอรับคืนรึ?"

“ผู้น้อยได้แจ้งให้ครอบครัวของผู้ที่มาแจ้งความให้มารับตัวแล้วพะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น