เสียงกรีดร้องหวีดแหลมของหญิงรับใช้ เรียกให้แม่นมและสาวรับใช้จวนอ๋องหรงคนอื่นที่อยู่ด้านนอกเข้ามาด้านใน
ไป๋ชิงหลิงมองสองนายบ่าวคู่นั้นที่เล่นละครใส่ ในใจของนางมีเพียงความรู้สึกสะอิดสะเอียน
ดูเหมือนว่าท่านอ๋องหรงจะพานางอันเป็นที่รักมาที่จวนอีกแล้ว และนางเองก็คงต้องเป็นออกหน้าจัดการนางด้วยตนเอง
ทุก ๆ คนรีบรุดเข้ามาด้านใน สตรีในชุดคลุมสีเขียวชี้มายังไป๋ชิงหลิง นางสะอื้นแล้วกล่าวว่า: "แม่นมซู รีบไปตามท่านอ๋องให้มาอบรมนางสิเจ้าคะ ไม่รู้ว่าคุณหนูของข้าไปทำอะไรให้สตรีผู้นี้ไม่พอใจ อยู่ ๆ นางก็มาด่ามาตบตีคุณหนูของข้า"
"อ๊ะ!" สตรีในชุดคลุมสีเขียวเพิ่งจะพูดจบ ก็มีเสียงร้องของเสิ่นโหรวเม่ยดังขึ้น
ทุกคนต่างหันไปมอง ก็พบไป๋ชิงหลิงที่ไม่รู้ว่าลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างเตียงตอนไหน
บนตัวของนางสวมเพียงเอี๊ยมจีนเพียงชิ้นเดียว เผยให้เห็นลาดไหล่ขาว
และในตอนนี้ นางก็กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ เสิ่นโหรวเม่ยด้วยสีหน้าเย็นชา
นางใช้มือข้างหนึ่งจับข้อมือข้างขวาของเสิ่นโหรวเม่ยเอาไว้ แล้วถาม: "ไม่ทราบว่าตัวข้านั้นใช้มือข้างไหนทำร้ายคุณหนูของเจ้ากัน"
"ใช่มือข้างนี้หรือไม่?" พูดจบ นางก็ออกแรงให้มากกว่าเดิม
เสิ่นโหรวเม่ยเจ็บจนอยากจะร้อง
แต่นางต้องเก็บอาการเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของนางเอาไว้ นางกล้ำกลืนความโกรธของตัวเองลงไป แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร: "แม่นาง ท่านอ๋องหรงไม่ชอบเวลาตำหนักหลังมีเรื่องบาดหมาง ต่อให้เจ้าไม่ชอบข้าแค่ไหน เจ้าก็ควรจะคิดเพื่อท่านอ๋องบ้าง......."
"เพียะ!" เสียงเนื้อกระทบผิวเนื้อดังขึ้นในตอนที่เสิ่นโหรวเม่ยกำลังพูดอยู่ ราวกับสายลมที่พัดแรงฟาดลงบนใบหน้าด้านซ้ายของเสิ่นโหรวเม่ย ทำเอาเสิ่นโหรวเม่ยมึนงงไปเล็กน้อย
ส่วนแม่นมและบรรดาสาวใช้ที่อยู่ภายในห้อง ต่างก็พากันตกใจจนอ้าปากค้าง
สตรีผู้นั้น......
สตรีผู้ที่โดนตบนั้นก็คือหลานสาวแท้ ๆ ของท่านผู้เฒ่าเสิ่น แล้วก็เป็นคนโปรดขององค์ไทเฮาอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น