ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 17

สรุปบท บทที่17 เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ด่าหรงเยี่ยชุดใหญ่: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่17 เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ด่าหรงเยี่ยชุดใหญ่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่17 เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ด่าหรงเยี่ยชุดใหญ่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ฝีเท้าของหรงเยี่ยหยุดลง

พ่อบ้านฉีกับแม่นมซั่งต่างก็หันมองหน้ากัน

ใบหน้าของท่านอ๋องของพวกเขา ไม่แสดงสีหน้าอะไรมานาน ตอนนี้ก็เช่นกัน

มันเรียบนิ่งราวกับถูกแช่แข็งมาพันปี ทำให้คนมองรู้สึกกลัวจนตัวสั่น

แม่นมซั่งแอบก่นด่าอยู่ในใจ: "แม่นางไป๋ทำไมถึงได้ใช้คำว่าก้นมาเปรียบเทียบท่านอ๋อง ช่างต่ำช้าเสียสิ้นดี"

พ่อบ้านฉีเองก็แอบทอดถอนใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนอื่นใช้คำศัพท์แบบนี้

ณ เวลานี้ เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ปล่อยมือของหรงเยี่ยออก แล้วพูดออกมาอย่างโมโห: "คนในจวนของท่านอ๋องกล้ามากลั่นแกล้งท่านแม่ของข้า แม่ข้าช่วยชีวิตซื่อจื่อจิ่งเอาไว้ก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว ท่านยังปล่อยให้คนพวกนั้นไปก่อกวนท่านแม่ของข้าอีก ตอนที่ท่านแม่ป่วย ท่านแม่ชอบหลับในที่เงียบ ๆ ท่านนี่ช่างเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องเสียจริง ทำไมถึงไม่อบรมคนรับใช้พวกนั้นบ้าง คอยรังแกท่านแม่ของข้าอยู่ได้"

หลายวันมานี้นางได้ยินคนใช้ในจวนพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับแม่ของนางไม่หยุด

คนใช้ในจวนอ๋องหรงพูดว่า

แม่ของนางนั้นมารักษาซื่อจื่อจิ่งเพราะอยากจะเอาใจท่านอ๋อง ถ้าเกิดรักษาซื่อจื่อจิ่งหายแล้ว แม่ของนางก็จะอยู่ที่จวนต่อเรื่อย ๆ ไม่ยอมไป

แม่ของนางนั้นไม่สามารถเป็นนายหญิงใหญ่ในจวนอ๋องหรงได้ นางนั้นเป็นได้แค่อนุ สตรีที่มาหาบุรุษเองนั้น เป็นได้แค่เพียงอนุชั้นต่ำสุดเท่านั้น

ความจริงแล้วนางก็ไม่ใช่คนที่จะโมโหอะไรง่าย ๆ แต่พอได้ยินคนในจวนพูดถึงและแต่งเรื่องของมารดา นางก็ร้องไห้โวยวายอยากจะเจอไป๋ชิงหลิง

แต่ว่าพวกคนรับใช้ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ นางจึงร้องไห้โวยวายอยู่ทั้งบ่าย

จนกระทั่งหรงเยี่ยกลับมา......

วันนี้พอได้เห็นฉากที่ไป๋ชิงหลิงต้อง 'ต่อสู้' อีกครั้ง ในใจของเสี่ยวเซิงเอ๋อร์เปลี่ยนจากน้อยใจเป็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แม้แต่หนังแกะชิ้นสุดท้าย นางยังฉีกจนขาด และระบายความรู้สึกไม่พอใจต่อหรงเยี่ยในหลายวันนี้ออกมาทั้งหมด

แม่นมซั่งได้ยินนางพูดจาไร้มารยาทเช่นนั้น ก็ตกใจจนหน้าถอดสี รีบย่อตัวลงมาพูดกับนาง: "เจ้าใช้น้ำเสียงแบบนั้นพูดกับท่านอ๋องได้อย่างไร รีบคุกเข่าลง"

"ข้าไม่คุกเข่า แม่ของข้าสอนว่าบนโลกใบนี้ทุกคนเท่าเทียมกัน" เสี่ยวเซิ่งเอ๋อร์สะบัดมือของแม่นมซั่งออก หันหน้าไป และวิ่งเข้าไปภายในเรือน

แม่นมซั่งโมโหและร้อนใจมาก

แต่นางก็ยังไม่ดีใจ

ทุกวันนี้ใบหน้าของไป๋ชิงหลิงขาวซีด นางปวดใจมาก

"แต่ว่า ท่านแม่ผอมลงเยอะมาก แถมตัวก็ร้อนมากอีกด้วย ท่านแม่มีไข้สูง" เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ยกมือขึ้นมาจับที่ใบหน้าของไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงจับข้อศอกของนางเอาไว้ แล้วพยายามเค้นเสียงพูด: "แม่กินยาเข้าไปแล้ว นอนพักเสียหน่อยเดี๋ยวก็หาย แต่จวนหรงอ๋องนั้นคงจะไม่เหมาะกับการพักผ่อนเงียบ ๆ เท่าไหร่"

ตอนพูดถึง'ท่านอ๋อง' นางก็ปรายตาไปมองทางเขา

พ่อบ้านฉียกเก้าอี้มาวางไว้ทางด้านหลังเขา

สตรีในชุดคลุมสีเขียวอาศัยหัวข้อในบทสนทนาเพื่อพูด: "ท่านอ๋องเพคะ แม่นางผู้นี้ไม่รู้ว่าคุณหนูเสิ่นของข้าไปทำอะไรให้ไม่พอใจเข้า คุณหนูแค่อยากจะป้อนยาให้นาง แต่นางกลับปัดถ้วยยาทิ้งจนแตก ทำให้ต้องเสียยาที่คุณหนูอุตส่าห์เตรียมมาไปอย่างเปล่าประโยชน์"

นางหยิบเศษถ้วยที่แตกอยู่บนพื้นที่มียาอยู่ด้วยขึ้นมา จากนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าของอ๋องหรง มือทั้งสองข้างยกขึ้นสูง

ในตอนที่สตรีในชุดคลุมสีเขียวกำลังทูลความอยู่นั้น เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ก็ลงมาจากตัวของไป๋ชิงหลิง แล้วหยิบเม็ดยาที่แตกอยู่ขึ้นมา......

ในตอนที่นางเห็นส่วนผสมที่อยู่ภายใน เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ก็หน้าซีดในทันที......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น