ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 18

สรุปบท บทที่ 18 ไป๋ชิงหลิงเจ็บหนัก: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอน บทที่ 18 ไป๋ชิงหลิงเจ็บหนัก จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 18 ไป๋ชิงหลิงเจ็บหนัก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในวินาทีถัดมา เสี่ยวเซิงเอ๋อร์โยนเศษชิ้นส่วนขวดที่แตกในมือนางออกไป พร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างขุ่นเคือง “ในนี้มีทั้งปูนขาวและผงพริกอีกเล็กน้อย"

เสิ่นโหรวเม่ยสั่นสะท้านและเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับนัยน์ตาคู่นั้นของหรงเยี่ยโดยที่นางยังไม่ทันได้เตรียมใจ

นางรีบร้อนแก้ตัว “เป็นไปไม่ได้"

ไป๋ชิงหลิงฉีกยิ้มเย็นชา “หมอหญิงเสิ่น อย่าบอกข้านะว่า แม้กระทั่งสิ่งใดคือปูนขาวและสิ่งใดคือพริกป่นก็ยังแยกไม่ออก เจ้าอย่าได้มองว่าลูกของข้าเป็นเพียงเด็กอายุสี่ห้าขวบ แล้วจะคิดว่าคำพูดของเด็กไร้เดียงสามิอาจเชื่อได้ เซิงเอ๋อร์ของข้าติดตามข้าแยกแยะสมุนไพรมาตั้งแต่เล็ก ประสาทรับรู้กลิ่นของนางดีกว่าคนปกติทั่วไป ท่านอ๋องหรงสามารถเชิญหมอซูมาพิสูจน์ได้”

สีเลือดฝาดจางหายไปจากใบหน้าของเสิ่นโหรวเม่ย

ในเวลานี้ได้มีเสียงกรีดร้องของลี่ว์เผาดังขึ้น

เสิ่นโหรวเม่ยรีบหันไปมองลี่ว์เผา

นางเห็นอิงอู๋ที่อยู่ด้านหลังของหรงเยี่ย มิอาจรู้ได้ว่าเข้ามาประชิดตัวลี่ว์เผาตั้งแต่เมื่อใด

ดาบโค้งในมือของเขาฟันลงมายังมือทั้งสองข้างของลี่ว์เผา

คมดาบถูกฉาบไปด้วยเลือดสีแดงสด ไหลไปตามสันดาบและหยดลงมา

ลี่ว์เผากอดแขนทั้งสองข้างของตนและกลิ้งไปมากับพื้นด้วยความเจ็บปวด นางกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เสิ่นโหรวเม่ยไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยเลือดเช่นนี้มาก่อน และทันทีที่เห็นมือสองข้างที่ถูกตัดออกตกลงตรงหน้านาง

นางก็กรีดร้องและเป็นลมหมดสติไป

ไป๋ชิงหลิงรีบกอดไป๋ชงเซิงแน่น ในขณะเดียวกันก็ตกใจกับเหตุการณ์นองเลือดนี้เช่นกัน

มีนายเช่นนี้ บ่าวไพร่ในจวนอ๋องจะต้องมีชีวิตที่กดดันแน่ ๆ เมื่อพวกเขาทำผิดก็คงจะต้องตายหรือไม่ก็พิการ โอกาสจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ปกติก็คงไม่มี

สิ่งนี้ทำให้ความคิดของไป๋ชิงหลิงยิ่งแน่ชัดขึ้น

หากหวงแหนชีวิตควรอยู่ให้ห่างอ๋องหรงเข้าไว้

นางกอดศีรษะของไป๋ชงเซิงไว้แน่นพลางก้มหน้า ไม่กล้าสบตาหรงเยี่ย “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องเชิญหมอหญิงมารักษาข้าอีกแล้ว อาการบาดเจ็บของข้า ข้าจัดการเองได้ รบกวนท่านอ๋องให้คนมาทำความสะอาดกองเลือดนี้เถิด”

หรงเยี่ยชายตามองเสิ่นโหรวเม่ย “อิงอู๋ นี่เป็นหมอหญิงที่เจ้าหามาหรือ”

บาดแผลที่หลังของนางกลัดหนอง มีรอยบวมแดง เลือดที่ไหลออกมาเป็นสีม่วงเข้ม

หากไม่ได้รับการรักษาให้ดี ชีวิตนี้ของนางก็เกรงจะรักษาเอาไว้ไม่ได้

ในยามนี้ จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นที่ประตูเมืองขึ้นมา นางเอาตัวมารับแส้ของตนโดยไม่ลังเล

ทำไมถึงได้มีหญิงสาวที่โง่เขลาเช่นนี้

“ท่านแม่ ท่านแม่” ไป๋ชงเซิงร้องไห้อย่างวิตกกังวลเมื่อเห็นบาดแผล

นางยกมือออกแรงผลักหรงเยี่ย พลางร้องไห้และตะโกนไปว่า “ที่ข้อมือของท่านแม่มีรอยช้ำ บาดแผลบนหลังก็มีอาการย่ำแย่ลง ท่านอาศัยจังหวะที่ข้าเผลอแล้วจึงทำร้ายท่านแม่ของข้าใช่หรือไม่ ท่านอย่ามาแตะต้องท่านแม่ของข้านะ”

ร่างกายของหรงเยี่ยสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเมื่อถูกนางผลัก

เมื่อเห็นเด็กน้อยร้องไห้ประหนึ่งหัวใจจะแตกสลาย เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก

เขากำลังจะลุกขึ้น แต่มือของไป๋ชิงหลิงกลับคว้าเสื้อผ้าของเขาไว้...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น