ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 164

สรุปบท บทที่ 164 ไป๋ชิงหลิงยอมช่วยชีวิตหรงจิ่งหลิน: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 164 ไป๋ชิงหลิงยอมช่วยชีวิตหรงจิ่งหลิน – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 164 ไป๋ชิงหลิงยอมช่วยชีวิตหรงจิ่งหลิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ไป๋ชิงหลิงตะลึงไปชั่วขณะ คำพูดในลำคอของเขาติดอยู่ที่ปากต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ตัว

ใบหน้าที่บอบบางถูกปกปิดด้วยที่ทาแก้มสีแดงถึงสองครั้งแล้ว นางเบือนหน้ามองไปทางอื่นกัดริมฝีปากแล้วปฏิเสธว่า"ข้าไม่ใช่"

"ท่านแม่ ท่านใช่!"

ไป๋ชิงหลิงลดสายตาลงมองไปที่เด็ก ดวงตาที่กลมโตของหรงจิ่งหลินเบิกกว้าง เมื่อมองเขาจากมุมนี้เขาหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับเซิงเอ๋อร์ของนางโดยเฉพาะดวงตาของเขา

นางรู้สึกแปลกมากเพราะเหตุใดจึงเกิดภาพลวงตาที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับหรงจิ่งหลินซ้ำแล้วซ้ำอีก

แต่สำหรับนางภาพลวงตานี้ช่างน่ากลัว

หรงจิ่งหลินจะเป็นลูกของนางได้อย่างไร

ช่วงนี้นางคงจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องของท่านอ๋องฮุ่ยมากเกินไป

นางหันมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า"ท่านตัดสินใจเถอะ ถึงอย่างไรท่านก็เป็นเสด็จพ่อของเขา"

"ได้"หรงเยี่ยพูดอย่างเรียบๆ"จากสถานการณ์ตอนนี้เจ้าคิดว่าการเปลี่ยนถ่ายเลือดกับวิธีที่สองที่เจ้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่วิธีไหนจะดีกว่ากัน"

วิธีที่สองคือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดให้ไปถึงจุดที่มีพิษโดยตรง

"ถ้าสามารถยับยั้งพิษของหรงจิ่งหลินได้แล้วยื้อเวลาให้ข้าอีกสักหน่อยข้าก็ยังคิดว่าวิธีที่สองจะเป็นวิธีที่ดีกว่า"การเปลี่ยนถ่ายเลือดไม่ได้ขึ้นอยู่กับหรงเยี่ยเพียงผู้เดียว

หรงจิ่งหลินเป็นเชื้อสายของราชวงศ์ การจะที่เปลี่ยนถ่ายเลือดให้ลูกหลานราชวงศ์นั้นต้องได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิเหยาก่อน

หลังจากที่จักรพรรดิเหยาอนุญาตแล้วยังต้องเลือกคนจากจากเชื้อสายราชวงศ์ที่เหมาะสมที่จะเปลี่ยนถ่ายเลือดให้กับหรงจิ่งหลิน

เพราะในสายตาของคนสมัยก่อนอาจเป็นไปได้มากที่เลือดราชวงศ์ของหรงจิ่งหลินจะถูกแทนที่ด้วยเลือดของผู้อื่น พวกเขายังคิดอีกว่าเลือดในตัวของหรงจิ่งหลินไม่ใช่สายเลือดของราชวงศ์อีกต่อไป

ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเกิดความวุ่นวายอะไรอีก

เช่นนั้นคงเป็นเรื่องอื้อฉาว

ยื้อกันอยู่แบบนี้ทำให้เสียเวลาไปไม่น้อย

มันจะดีมากถ้าหากนางและหมอซูร่วมมือกัน หมอซูจะเตรียมยาถอนพิษ นางจะเป็นคนชำระล้างและขจัดสิ่งเจือปนออกไปเพื่อสกัดยาถอนพิษให้เหลือแต่น้ำจากนั้นใช้วิธีการเหมือนเติมน้ำเกลือถอนพิษให้หรงจิ่งหลิน

หมอซูพยักหน้า"ข้าก็คิดว่าวิธีที่สองนั้นดีกว่า"

อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เห็นไป๋ชิงหลิงสอดท่อเข้าไปในเส้นเลือดของหรงจิ่งหลิน

หลังจากที่หรงจิ่งหลินได้รับยาน้ำถอนพิษนั้นเข้าไปและยังไม่ตายในทางกลับกันกลับค่อยฟื้นๆตัวนี่ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้ได้ผล

แน่นอน ยังมีเหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ เขายังมีเงามืดที่ติดอยู่ในใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายเลือด

"ต้องใช้เวลากี่วัน?"หรงเยี่ยถาม

หมอซูตอบกลับว่า"ตราบใดที่ซื่อจื่อน้อยมีอารมณ์ที่มั่นคงและไม่มีความกังวล ใบสั่งยาของข้าคงสามารถยื้อเวลาได้ในระยะหนึ่งเพื่อทำให้หมอหญิงไป๋มีเวลามากขึ้น"

ไป๋ชิงหลิงเงียบ มองไปที่หรงเยี่ย"ข้ายังไม่รู้ว่าข้าจะสามารถสกัดยาถอนพิษออกมาได้เมื่อไหร่ แต่นานสุดน่าจะไม่เกินสามเดือน"

"ท่านว่าอย่างไรนะ?"หมอซูอุทานด้วยความตกใจ"มันนานเกินไป ซื่อจื่อน้อยคงรอถึงเวลานั้นไม่ไหว

หมอซูพูดอยู่ด้านข้างว่าสถานการณ์ตอนนี้ของหรงจิ่งหลินนั้นอันตรายเพียงใด แต่ละครั้งที่พิษออกฤทธิ์อาจถึงแก่ชีวิตได้

หรงเยี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า"เอาล่ะ หมอซูจะต้องยื้อเวลาออกไปให้ถึงสามเดือน"

ปากของหมอซูที่พูดขมุบขมิบก็เงียบลงชั่วขณะ

จากนั้นเขาก็มองไปที่ใบหน้าของหรงเยี่ยด้วยหน้าตาที่เหมือนเห็นผี

ดูเหมือนว่าข่าวลือที่แพร่ออกไปจะเป็นเรื่องจริง ท่านอ๋องหรงชอบผู้หญิงแปลกหน้าผู้นี้

ต้นปรงกำลังจะผลิดอกหมอซูคิดว่ามันน่ากลัวกว่าการเปลี่ยนถ่ายเลือดเสียอีก

ระหว่างมื้อกลางวัน หรงจิ่งหลินนั่งอยู่ข้างๆเฝ้าดูไป๋ชิงหลิงกินอาหาร ในที่สุดใบหน้าที่หดหู่มาหลายวันก็ยิ้มออก

แม่นมซั่งมองไปที่ไป๋ชิงหลิงกับหรงจิ่งหลิน มองไปมองมาแม่นมซั่งก็เหมือนเสียสติ

นางพบว่าซื่อจื่อของนางดูคล้ายกับไป๋ชิงหลิงมากและเมื่อพวกเขาสองนั่งเคียงข้างกันก็ให้ความรู้สึกเหมือนภาพในภาพวาดแม่ลูกที่แข็งแกร่งมาก

ในขณะที่แม่นมซั่งมองไปที่ไป๋ชิงหลิงกับหรงจิ่งหลินนั้นหรงเยี่ยก็มองไปที่พวกเขาสองคนเช่นกัน

ดวงตาที่เฉียบคมของเขากวาดมองไปที่คิ้วของไป๋ชิงหลิง

ในความทรงจำของเขาไป๋ชิงหลิงมักจะแต่งหน้าให้คนอื่นเห็นอยู่ตลอด เขาไม่เคยรู้เลยว่าใบหน้าที่แท้จริงภายใต้การแต่งหน้าของนางนั้นเป็นอย่างไร

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาอยู่ข้างนอกแล้วทำเรื่องหน้าอายเช่นนี้

นางผลักและดุเขา"หรงเยี่ย เจ้า เจ้า เจ้าทำตามอำเภอใจไปแล้วนะ"

ยิ่งนางดุเขาเขาก็ยิ่งจูบแรงขึ้นเรื่อยๆจนกว่าเขาจะปราบไป๋ชิงหลิงที่อยู่ในอ้อมแขนเขาได้เขาถึงจะปล่อยนาง

เขายังกอดนางไว้แน่น กดริมฝีปากที่ข้างหูของนางแล้วพูดว่า"แม่นมซั่งบอกว่าตาของหรงจิ่งหลินเหมือนเจ้ามาก"

ร่างกายของไป๋ชิงหลิงแข็งทื่อ ดวงตาของนางเบิกกว้าง ริมฝีปากของนางแยกออกเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ

"ภาพลวงตาหรือเปล่า"ไป๋ชิงหลิงหายใจอย่างไม่เป็นจังหวะ

หรงเยี่ยยืดตัวขึ้นใช้นิ้วเรียวยาวแตะคางของนาง บีบหน้านางเบาๆแล้วเชิดหน้าน้อยๆของนางขึ้น

เขามองตานางอย่างจริงจัง

ดวงตาที่สว่างเป็นประกายของนางทำให้นางดูมีเสน่ห์

เขาเหล่ตามองและพูดกึ่งติดตลกว่า"ช่างเหมือนกันยิ่งนัก"

เหมือนกันยิ่งนัก ประโยคนี้ติดอยู่ในใจของไป๋ชิงหลิง

แต่นางกลับคิดว่ามันช่างเป็นเรื่องที่น่าขัน

"ข้ากับหรงจิ่งหลินไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด เพียงแค่มีดวงตาที่คล้ายกันเท่านั้นท่านก็คิดว่าข้ากับหรงจิ่งหลินมีความเกี่ยวข้องกัน"นางโกรธเล็กน้อยและผลักเขาออก

คิดว่าหรงเยี่ยกำลังเล่นตลกกับนาง

เพื่อให้นางเป็นชายาของเขา เขาจะพูดเรื่องไร้สาระอันใดก็ได้

"จิ่งหลินเขาดูเหมือนถูกพิมพ์มาบนแม่พิมพ์เดียวกับท่าน เขาดูเหมือนท่างอ๋องมาก ส่วนเรื่องที่ท่านบอกว่าดวงตาของเขาเหมือนข้าเล็กน้อยนั้น..."

"เหมือนมาก!"เขาขัดจังหวะนาง

พูดให้ถูกก็คือ เขากำลังแก้คำพูดของนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น