ตอน บทที่ 169 ศึกไหวพริบกับท่านอ๋องฮุ่ย จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 169 ศึกไหวพริบกับท่านอ๋องฮุ่ย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
นางพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดอกอ้อมกอดของท่านอ๋อง แต่กลับถูกเขารั้งไว้อย่างแน่น "ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่แตะต้องตัวเจ้าจนกว่าจะได้ใจของเจ้า ข้าเปลื้องเสื้อผ้าของเจ้าออกเดี๋ยวนี้ และโยนออกไปให้พวกทหารข้างนอก"
ตอนที่กล่าวคำพูดเหล่านั้นออกไป ฮุ่ยอ๋องเองยังรู้สึกว่าตนนั้นบ้าไปเสียแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ไป๋ชิงหลิงจะเป็นคนที่ฮุ่ยอ๋องสู่ขอให้เป็นพระชายาเก้า แต่เขาก็ไม่สามารถแตะต้องตัวนางได้
แต่ต้องบอกก่อนว่า ไม่ว่าจะน่าตาหรือนิสัยใจคอของไป๋ชิงหลิงก็เป็นที่ดึงดูดเขาอย่างมาก เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อท่านปรมาจารย์หลูบอกเขาว่านางเป็นดาวหงส์ ผู้ใดได้หญิงผู้นี้ไปก็จะได้ใต้หล้า
ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ว่าไป๋ชิงหลิงจะทำอะไรก็ย่อมได้
คำพูดของเขาทำให้ไป๋ชิงหลิงถึงกับตกใจ
"ท่าน...ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ" ไป๋ชิงหลิงหันไปมองเขาพูดด้วยสายตาที่แวววาว
ฮุ่ยอ๋องพูดอย่างหงุดหงิด "ใช่น่ะสิ ข้าพูดคำไหนคำนั้น ไม่ใช่คนเลวพูดกลับไปกลับมา และถ้าข้าอยากได้ผู้หญิงสักคนข้าต้องวางแผนสิ่งใดไหม ข้าชอบเจ้าจริง ๆ ถึงอยากที่จะแต่งงานกับเจ้า"
"ชอบเจ้า" ประโยคนี้ ทำให้ไป๋ชิงหลิงถึงกับรู้สึกหนาวอย่างบอกไม่ถูก
มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่จะเชื่อคำว่าชอบที่ออกมาจากปากของเขา
เขาก็แค่อยากจะทำนางตายใจก็เท่านั้น
ไป๋ชิงหลิงไม่มีทางหลงกลอุบายของฮุ่ยอ๋องอย่างแน่นอน
เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีผี
"ท่านจะแต่งงานกับข้า แต่จะไม่แตะต้องตัวข้า ข้าเริ่มรู้สึกกลัวแล้วว่าฮุ่ยอ๋องจะฆ่าข้าใช่หรือไม่" ไป๋ชิงหลิงพูดจบ ก็กัดริมฝีปากแกล้งทำเป็นเชื่อฟัง
ฮุ่ยอ๋องเลิกคิ้ว เงยหน้าขึ้นและหัวเราะ เจนตาจะฆ่านางที่เกิดจากการต่อต้านของนางตอนนี้ห่ยไปหมดแล้ว
นิ้วที่เรียวยาวของเขาแตะที่ใบหู ค่อย ๆ ลูบไปที่ต่างหูของนางและจากแก้มค่อย ๆ ลูบลงมาจนถึงคาง และบีบมันขึ้น
"ตอนแรกข้าก็อยากจะข้าเจ้าอยู่หรอก แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เจ้าน่าสนใจมากขนาดนี้ ไปอยู่จวนอ๋องกับข้าก็สามารถเติมความสุขให้ข้าได้" เขากดคางของนางด้วยปลายนิ้ว และโน้มตัวลงมาจะจูบนาง
การกระทำของฮุ่ยอ๋องทำให้นางรีบเบือนหน้าออกทันที
ริมฝีปากบาง ๆ ของท่านอ๋องสัมผัสเบาหูของนาง และรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาบนขมับของนาง ทำให้นางรู้สึกตกใจ
เมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาของฮุ่ยอ๋องเริ่มสั่นไหว เงยหน้ามองไปที่นาง "จูบเจ้าก็ให้ข้าไม่ได้งั้นหรอ มันมากเกินไปสำหรับพระชายางั้นหรือ"
"อย่า" ไป๋ชิงหลิงใช้มือทั้งสองข้าปิดปากไว้อย่างแน่น
ฮุ่ยอ๋องไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา และอุ้มตัวของนางมาอยู่ในท่านอนบนตกของเขา
ไป๋ชิงหลิงร้องอย่างตกใจ "ปล่อยข้าลงนะ"
"ไม่ให้ข้าแตะต้อง ไม่ให้ข้าจูบเจ้า กอดก็ยังไม่ได้ ข้าไม่ทำตามที่เจ้าสั่งแล้วละกัน"
"ท่านอ๋อง..."
อยู่ ๆ ร่างกายของไป๋ชิงหลิงก็แข็งทื่อ และไม่พยายามดิ้นอีกต่อไป
นางรู้แก่ใจดี ถ้าท่านอ๋องเอาจริงจังขึ้นมา พลังทั้งหมดที่นางมีก็สู้เขาไม่ได้
แต่ดีกว่าที่การที่เขายอมฟังและทำตามทุกคำสั่งของนาง นั่นทำให้นางเริ่มหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
เมื่อก่อนการกระทำที่ฮุ่ยอ๋องมีต่อนางก็ไม่ใช่เช่นนี้
ท่านอ๋องมองนางด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากเป็นเจ้าของ อยากให้นางเข้ามาอยู่ในจวนจนแทบทนไม่ไหว ถูกเหยียบย่ำอย่างโหดร้าย และถูกทิ้งอย่างผ้าขี้ริ้ว
หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์หลูข้างกายเขา พูดอะไรบางอย่างให้เขาฟังกัน?
"พระชายา เจ้าเหม่ออะไรน่ะ" ฮุ่ยอ๋องอุ้มนางเดินวนรอบห้องอยู่หลายรอบ จนสังเกตเห็นดวงตาของนางเริ่มเฉยชา
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกตัวขึ้นและเพิ่งตระหนักได้ว่านางกำลังถูกอุ้มเดินไปรอบ ๆ ในห้องใหม่
เขาดมที่มือของนางสักพัก เขาก็ยกมือของนางขึ้นมาจูบแล้วจูบอีกแล้วบอกให้นางรอเขากลับมา ท่านอ๋องก็เดินออกไปจากห้องนาง
ไป๋ชิงหลิงถึงจะรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก
ในตอนนี้ เป่าลี่ว์ก็กระโดดลงมาจากคานด้านบนห้องตกมาอยู่บนกองเสื้อผ้าของนาง "เหมียว เหมียว"
ไป๋ชิงหลิงรีบลงจากโต๊ะเพื่อไปอุ้มแมวออกมา
แล้วก็ให้คนเรียกไป๋ชงเซิงลูกสาวของนางเข้ามา
ไม่นานนัก ซังจวี๋และชิงจู๋ก็พาตัวเสี่ยวไป๋เข้ามาในห้อง
ไป๋ชงเซิงเห็นไป๋ชิงหลิงก็พุ่งถลาตัวเข้าไปกอดที่เขาของนาง และร้องไห้เสียงดัง "ท่านแม่ เมื่อเช้าข้าตื่นมาข้าก็ไม่เห็นท่านแล้ว พวกเขาบอกว่าท่านแม่ไปที่จวนฮุ่ยอ๋องและจะไม่กลับมาอีกแล้ว ท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือเจ้าคะ แล้วก็จะไปมีน้องชายกับท่านฮุ่ยอ๋อง"
ไป๋ชิงหลิงเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมหันไปมองซังจวี๋ "ใครมาพูดกับลูกสาวของข้าแบบนี้"
ชิงจู๋พูดด้วยความโกรธว่า "ท่านฮูหยินรองเจ้าค่ะ นางฉวยโอกาสตอนที่ท่านไม่อยู่ พานางน้อยทั้งสองไปที่เรือนฉืออวี้ บอกว่าจะพาไปเฝ้าฮูหยินใหญ่ ในระหว่างงานเลี้ยงฮูหยินรองตั้งใจพูดต่อหน้านางทั้งสองว่าท่านแต่งงานกับท่านฮุ่ยอ๋องก็ไม่ต้องการนางน้อยแล้ว ท่านจะไปมีลูกคนใหม่กับท่านฮุ่ยอ๋อง"
ติ้งเป่ยโหวก็ไม่อยู่ที่จวน ไป๋ชิงหลิงไม่ได้อยู่กับเด็ก ๆ คนรอบกายของฮูหยินใหญ่ก็กำเริบเสิบสานกันใหญ่
ต่อหน้าไป๋ชงเซิงไม่ว่าพูดดีหรือพูดไม่เข้าหูต่างก็สบถออกมา
ถึงแม้ว่าซังจวี๋จะรู้สึกว่าชิงจู๋และชิงอีเป็นคนพูดจาโผงผาง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
ไป๋ชิงหลิงอุ้มไป๋ชงเซิงขึ้นมาแล้วพูดว่า "เซิงเอ๋อร์ เจ้าต้องฟังคำแม่นะ แม่รักลูกและพี่ชายของลูกมากที่สุด และแม่ก็จะไม่มีน้องชายและน้องสาวเพิ่มอีก ในจวนติ้งเป่ยโหวนอกจากปู่ของพวกเจ้าแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้ามาได้อีก"
"งั้นถ้าพวกเขาเข้ามา ก็จะถือว่าเป็นตัวประหลาดทั้งหมด" ไป๋ชงเซิงขยี้ตาและหยุดร้องไห้
หลังจากที่ไป๋ชงเซิงอารมณ์ดีขึ้น เป่าลี่ว์ก็คลานออกมาจากใต้เตียง กระโดดไปหาไป๋ชงเซิงและส่งเสียง "เหมียว" อีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...