ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 169

นางพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดอกอ้อมกอดของท่านอ๋อง แต่กลับถูกเขารั้งไว้อย่างแน่น "ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่แตะต้องตัวเจ้าจนกว่าจะได้ใจของเจ้า ข้าเปลื้องเสื้อผ้าของเจ้าออกเดี๋ยวนี้ และโยนออกไปให้พวกทหารข้างนอก"

ตอนที่กล่าวคำพูดเหล่านั้นออกไป ฮุ่ยอ๋องเองยังรู้สึกว่าตนนั้นบ้าไปเสียแล้ว

ทั้ง ๆ ที่ไป๋ชิงหลิงจะเป็นคนที่ฮุ่ยอ๋องสู่ขอให้เป็นพระชายาเก้า แต่เขาก็ไม่สามารถแตะต้องตัวนางได้

แต่ต้องบอกก่อนว่า ไม่ว่าจะน่าตาหรือนิสัยใจคอของไป๋ชิงหลิงก็เป็นที่ดึงดูดเขาอย่างมาก เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อท่านปรมาจารย์หลูบอกเขาว่านางเป็นดาวหงส์ ผู้ใดได้หญิงผู้นี้ไปก็จะได้ใต้หล้า

ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ว่าไป๋ชิงหลิงจะทำอะไรก็ย่อมได้

คำพูดของเขาทำให้ไป๋ชิงหลิงถึงกับตกใจ

"ท่าน...ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ" ไป๋ชิงหลิงหันไปมองเขาพูดด้วยสายตาที่แวววาว

ฮุ่ยอ๋องพูดอย่างหงุดหงิด "ใช่น่ะสิ ข้าพูดคำไหนคำนั้น ไม่ใช่คนเลวพูดกลับไปกลับมา และถ้าข้าอยากได้ผู้หญิงสักคนข้าต้องวางแผนสิ่งใดไหม ข้าชอบเจ้าจริง ๆ ถึงอยากที่จะแต่งงานกับเจ้า"

"ชอบเจ้า" ประโยคนี้ ทำให้ไป๋ชิงหลิงถึงกับรู้สึกหนาวอย่างบอกไม่ถูก

มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่จะเชื่อคำว่าชอบที่ออกมาจากปากของเขา

เขาก็แค่อยากจะทำนางตายใจก็เท่านั้น

ไป๋ชิงหลิงไม่มีทางหลงกลอุบายของฮุ่ยอ๋องอย่างแน่นอน

เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีผี

"ท่านจะแต่งงานกับข้า แต่จะไม่แตะต้องตัวข้า ข้าเริ่มรู้สึกกลัวแล้วว่าฮุ่ยอ๋องจะฆ่าข้าใช่หรือไม่" ไป๋ชิงหลิงพูดจบ ก็กัดริมฝีปากแกล้งทำเป็นเชื่อฟัง

ฮุ่ยอ๋องเลิกคิ้ว เงยหน้าขึ้นและหัวเราะ เจนตาจะฆ่านางที่เกิดจากการต่อต้านของนางตอนนี้ห่ยไปหมดแล้ว

นิ้วที่เรียวยาวของเขาแตะที่ใบหู ค่อย ๆ ลูบไปที่ต่างหูของนางและจากแก้มค่อย ๆ ลูบลงมาจนถึงคาง และบีบมันขึ้น

"ตอนแรกข้าก็อยากจะข้าเจ้าอยู่หรอก แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เจ้าน่าสนใจมากขนาดนี้ ไปอยู่จวนอ๋องกับข้าก็สามารถเติมความสุขให้ข้าได้" เขากดคางของนางด้วยปลายนิ้ว และโน้มตัวลงมาจะจูบนาง

การกระทำของฮุ่ยอ๋องทำให้นางรีบเบือนหน้าออกทันที

ริมฝีปากบาง ๆ ของท่านอ๋องสัมผัสเบาหูของนาง และรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาบนขมับของนาง ทำให้นางรู้สึกตกใจ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาของฮุ่ยอ๋องเริ่มสั่นไหว เงยหน้ามองไปที่นาง "จูบเจ้าก็ให้ข้าไม่ได้งั้นหรอ มันมากเกินไปสำหรับพระชายางั้นหรือ"

"อย่า" ไป๋ชิงหลิงใช้มือทั้งสองข้าปิดปากไว้อย่างแน่น

ฮุ่ยอ๋องไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา และอุ้มตัวของนางมาอยู่ในท่านอนบนตกของเขา

ไป๋ชิงหลิงร้องอย่างตกใจ "ปล่อยข้าลงนะ"

"ไม่ให้ข้าแตะต้อง ไม่ให้ข้าจูบเจ้า กอดก็ยังไม่ได้ ข้าไม่ทำตามที่เจ้าสั่งแล้วละกัน"

"ท่านอ๋อง..."

อยู่ ๆ ร่างกายของไป๋ชิงหลิงก็แข็งทื่อ และไม่พยายามดิ้นอีกต่อไป

นางรู้แก่ใจดี ถ้าท่านอ๋องเอาจริงจังขึ้นมา พลังทั้งหมดที่นางมีก็สู้เขาไม่ได้

แต่ดีกว่าที่การที่เขายอมฟังและทำตามทุกคำสั่งของนาง นั่นทำให้นางเริ่มหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม

เมื่อก่อนการกระทำที่ฮุ่ยอ๋องมีต่อนางก็ไม่ใช่เช่นนี้

ท่านอ๋องมองนางด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากเป็นเจ้าของ อยากให้นางเข้ามาอยู่ในจวนจนแทบทนไม่ไหว ถูกเหยียบย่ำอย่างโหดร้าย และถูกทิ้งอย่างผ้าขี้ริ้ว

หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์หลูข้างกายเขา พูดอะไรบางอย่างให้เขาฟังกัน?

"พระชายา เจ้าเหม่ออะไรน่ะ" ฮุ่ยอ๋องอุ้มนางเดินวนรอบห้องอยู่หลายรอบ จนสังเกตเห็นดวงตาของนางเริ่มเฉยชา

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกตัวขึ้นและเพิ่งตระหนักได้ว่านางกำลังถูกอุ้มเดินไปรอบ ๆ ในห้องใหม่

นี่มันบ้าไปแล้ว!!!

"ข้ากำลังคิดว่าข้าจะโดนสามีของข้าฆ่าตายเมื่อใด คิดไปคิดมา ก็คิดได้ว่างั้นใช้มีดปาดคอทีเดียวให้จบไป แทนที่จะมานั่งกลัวไม่รู้ยอมตายดีกว่า" ไป๋ชิงหลิงพูดลองใจท่านอ๋อง

นางจะลองดูว่าท่านอ๋องอยากที่จะฆ่านางจริงไหม

ฮุ่ยอ๋องหยุดเดินและวางนางไว้ที่บนโต๊ะด้านหน้า และหยิบแก้วเหล้าสมรสขึ้นมาดื่มคนเดียวจนหมด

หลังจากที่โยนทิ้งแก้วเหล้าแล้ว ฮุ่ยอ๋องก็เชิดปลายคางของนางอีกครั้ง มองไปที่ภรรยาตัวน้อยว่า "ตอนนี้ข้าทำไม่ใจได้ที่จะฆ่าเจ้า"

ไป๋ชิงหลิงสูดลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะถามว่า "ทำไมท่านถึงเปลี่ยนใจอีกแล้วล่ะ หรือท่านกำลังหาวิธีที่โหดร้ายมาทรมานข้า"

"ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮุ่ยอ๋องไม่สามารถหยุดหัวเราะกับคำพูดของนางได้"

ในขณะนี้ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ฮุ่ยอ๋องหันไปมองที่ประตู รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที "มีเหตุอันใด?"

"ฮุ่ยอ๋อง ฟางกงกงเสด็จมาที่จวน บอกว่าฝ่าบาทมีเรื่องสำคัญอยากขอให้ท่านช่วยพ่ะย่ะค่ะ"

ฮุ่ยอ๋องขมวดคิ้วพร้อมกับสีหน้าบึ้งตึง และพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า "ข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้ เชิญฟางกงกงกลับไปก่อน"

พูดจบ ฮุ่ยอ๋องก็หันหน้ากลับมาใช้ปลายนิ้ววาดเบา ๆ บนใบหน้าของไป๋ชิงหลิงและพูดว่า "ไม่รู้ฝ่าบาทมีอะไรให้ข้ารับใช้ เจ้ารอข้าอยู่ในจวนนี่เถิด"

ไป๋ชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และตอบฮุ่ยอ๋องอย่างอ่อนโยนว่า "เจ้าค่ะ"

"ดูเจ้าที่มีความสุขสิ" ฮุ่ยอ๋องแวบเดียวก็ดูออกความคิดในใจของนาง แล้วก็กอดนางไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง

ไป๋ชิงหลิงตกใจในการกระทำของเขา ออกแรงผลักฮุ่ยอ๋องออกด้วยมือทั้งสอง "ฝ่าบาทเรียกตัวท่านในวันอภิเษกสมรส ต้องมีเรื่องสำคัญเป็นอย่างแน่เจ้าค่ะ ท่านรีบไปพบฝ่าบาทเถิด"

"ข้าพูดแล้วว่าข้าอยากจะจูบเจ้า"

"เอ่อ......"

ในขณะที่ริมฝีปากของท่านอ๋องใกล้ที่จะสัมผัสปากของนางนั้น ไป๋ชิงหลิงได้ยื่นมือขึ้นมากั้นไว้ ทำให้ปากของท่านอ๋องทำได้แค่สัมผัสกับมือหอมเช่นดอกไม้ของนาง

เขาดมที่มือของนางสักพัก เขาก็ยกมือของนางขึ้นมาจูบแล้วจูบอีกแล้วบอกให้นางรอเขากลับมา ท่านอ๋องก็เดินออกไปจากห้องนาง

ไป๋ชิงหลิงถึงจะรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

ในตอนนี้ เป่าลี่ว์ก็กระโดดลงมาจากคานด้านบนห้องตกมาอยู่บนกองเสื้อผ้าของนาง "เหมียว เหมียว"

ไป๋ชิงหลิงรีบลงจากโต๊ะเพื่อไปอุ้มแมวออกมา

แล้วก็ให้คนเรียกไป๋ชงเซิงลูกสาวของนางเข้ามา

ไม่นานนัก ซังจวี๋และชิงจู๋ก็พาตัวเสี่ยวไป๋เข้ามาในห้อง

ไป๋ชงเซิงเห็นไป๋ชิงหลิงก็พุ่งถลาตัวเข้าไปกอดที่เขาของนาง และร้องไห้เสียงดัง "ท่านแม่ เมื่อเช้าข้าตื่นมาข้าก็ไม่เห็นท่านแล้ว พวกเขาบอกว่าท่านแม่ไปที่จวนฮุ่ยอ๋องและจะไม่กลับมาอีกแล้ว ท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือเจ้าคะ แล้วก็จะไปมีน้องชายกับท่านฮุ่ยอ๋อง"

ไป๋ชิงหลิงเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมหันไปมองซังจวี๋ "ใครมาพูดกับลูกสาวของข้าแบบนี้"

ชิงจู๋พูดด้วยความโกรธว่า "ท่านฮูหยินรองเจ้าค่ะ นางฉวยโอกาสตอนที่ท่านไม่อยู่ พานางน้อยทั้งสองไปที่เรือนฉืออวี้ บอกว่าจะพาไปเฝ้าฮูหยินใหญ่ ในระหว่างงานเลี้ยงฮูหยินรองตั้งใจพูดต่อหน้านางทั้งสองว่าท่านแต่งงานกับท่านฮุ่ยอ๋องก็ไม่ต้องการนางน้อยแล้ว ท่านจะไปมีลูกคนใหม่กับท่านฮุ่ยอ๋อง"

ติ้งเป่ยโหวก็ไม่อยู่ที่จวน ไป๋ชิงหลิงไม่ได้อยู่กับเด็ก ๆ คนรอบกายของฮูหยินใหญ่ก็กำเริบเสิบสานกันใหญ่

ต่อหน้าไป๋ชงเซิงไม่ว่าพูดดีหรือพูดไม่เข้าหูต่างก็สบถออกมา

ถึงแม้ว่าซังจวี๋จะรู้สึกว่าชิงจู๋และชิงอีเป็นคนพูดจาโผงผาง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

ไป๋ชิงหลิงอุ้มไป๋ชงเซิงขึ้นมาแล้วพูดว่า "เซิงเอ๋อร์ เจ้าต้องฟังคำแม่นะ แม่รักลูกและพี่ชายของลูกมากที่สุด และแม่ก็จะไม่มีน้องชายและน้องสาวเพิ่มอีก ในจวนติ้งเป่ยโหวนอกจากปู่ของพวกเจ้าแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้ามาได้อีก"

"งั้นถ้าพวกเขาเข้ามา ก็จะถือว่าเป็นตัวประหลาดทั้งหมด" ไป๋ชงเซิงขยี้ตาและหยุดร้องไห้

หลังจากที่ไป๋ชงเซิงอารมณ์ดีขึ้น เป่าลี่ว์ก็คลานออกมาจากใต้เตียง กระโดดไปหาไป๋ชงเซิงและส่งเสียง "เหมียว" อีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น