รูปแบบห้องโถงทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไป...
หลังแท่นหินที่เคยไร้เส้นทางปรากฏทางกว้างใหญ่ แต่ทางเดินอื่นกลับถูกปิดกั้น
อ๋องฮุ่ยมองนางอย่างเย็นชา รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนมุมปาก เขายื่นมือออกมาดึงนางขึ้น ใช้มือข้างหนึ่งวางบนไหล่นาง “พาข้าเข้าไป อย่าคิดตุกติก เข้าไปในวังใต้ดินของข้าแล้ว เจ้าคนสารเลวหรงเยี่ยนั่นย่อมไปไม่ได้ เจ้าอย่าแม้แต่จะคิดได้หวนกลับ”
เขาจงใจทิ้งร่างกดทับร่างนาง น้ำหนักแสนหนักอึ้งตกลงบนไหล่ของไป๋ชิงหลิงจนทำให้นางขยับตัวได้ยาก
นางกัดฟัน ยืดร่างให้ตรง แล้วพูดว่า “ท่านคิดผิดแล้ว สามีอยู่ที่ใดข้าย่อมอยู่ที่นั่น ข้าวิ่งไปมาที่นี่เพื่อหลบภัย สามีข้าก็วิ่งมาที่นี่เช่นกัน ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าท่านและข้าอาจเคยมีชะตาผูกกันมาแต่ชาติปางก่อน”
อ๋องฮุ่ยเย้ยหยันสองสามครั้ง ก่อนจะหมดเรี่ยวแรงไป
ปรมาจารย์หลูกลับมาอยู่ข้างกายเขาคอยช่วยประคองอีกด้านหนึ่งของอ๋องฮุ่ย จากนั้นคนทั้งกลุ่มก็เข้าไปในวังใต้ดินอย่างรวดเร็ว
กำแพงที่หันหน้าเข้าหาแท่นหินถูกปิดลงทันที
ไป๋ชิงหลิงหันไปมองด้านหลังนางโดยไม่รู้ตัว บนทางเดินมืดสนิทเริ่มสว่างไสวด้วยเชิงเทียนที่ถูกจุดขึ้นส่องทางข้างหน้า
อ๋องฮุ่ยบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาจึงได้แต่ให้ปรมาจารย์หลูประคองพาเดินไปข้างหน้า พวกเขาผ่านประตูหินไปทีละประตู ซึ่งแต่ละประตูล้วนมีกับดักมากมาย
เมื่อพวกเขามาถึงจุดปลอดภัยที่สุด อ๋องฮุ่ยก็ถูกช่วยประคองลงบนเตียง
ในห้องโถงนี้มีโต๊ะ เก้าอี้และเตียงนอน ดูเหมือนที่นี่จะมีคนอาศัยอยู่ตลอด
เลือดออกจากบาดแผลของอ๋องฮุ่ยมากมาย แต่เขาก็อดทนไว้
ไป๋ชิงหลิงถือเข็มฉีดยาด้วยอยากให้ยาสลบแก่เขา
จู่ๆ อ๋องฮุ่ยก็ปัดสิ่งที่อยู่ในมือนางออก ห้ามไม่ให้นางใช้ของเหลวหรือยาชาใดๆ ทั้งยังสั่งให้นางเอาลูกธนูออกได้เลย
เมื่อได้ยินการตัดสินใจของเขา ไป๋ชิงหลิงรู้สึกชื่นชมชายคนนี้อย่างสุดซึ้ง
นางใช้วิธีโบราณจัดการกับบาดแผลจากลูกธนุ หลังจากทรมานอ๋องฮุ่ยไปหลายครั้ง แต่เขากลับไม่ส่งเสียงฮึมฮัมแม้สักคำ
เมื่อนำลูกธนูหักออกมาแล้ว ก็มีทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก
เขาสะพายถุงผ้าสีดำไว้บนไหล่ ทันทีที่เขาคุกเข่าลง เขาก็โยนถุงผ้าลงกับพื้นแล้วรายงานว่า “ท่านอ๋อง นอกเมืองฝั่งประจิมมีหญิงผู้หนึ่งถูกจับไว้ในรถม้า นางบอกว่านางเป็นหลานสาวคนโตของท่านผู้เฒ่าเสิ่น”
ใบหน้าอ๋องฮุ่ยซีดเซียว แต่ความโกรธของเขายังไม่เคยลดลง
ปรมาจารย์หลูประคองเขาลุกขึ้นก่อนผละออกไป เขาเอนกายพิงเบาะ จ้องมองถุงผ้าด้วยสายตาเย็นชา
ในเวลานี้ผู้หญิงในถุงผ้าหลุดออกมาแล้ว
ผมนางยุ่งเหยิง ใบหน้านางเต็มไปด้วยน้ำตา นางดูไม่เป็นระเบียบ แต่ใบหน้าอ่อนช้อยงดงามของนางยังคงไม่ลดความน่ามองลงเลย
คนผู้นี้คือเสิ่นโหรวเม่ย
เมื่อนางเห็นไป๋ชิงหลิงก็รีบเข้าหานางทันที “ไป๋เจาเสวี่ย เจ้าคนสารเลว เจ้าวางแผนทำร้ายพี่ชายข้า”
ทันทีที่นางเข้ามา ไป๋ชิงหลิงก็หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาแทงไปข้างหน้าครั้งหนึ่ง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนาง เสิ่นโหรวเม่ยก็หยุดแรงที่วิ่งพุ่งเข้ามาของนางลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะล้มลงกับพื้นอย่างแรง
จากนั้นนางก็ตระหนักว่าสิ่งรอบข้างไม่ใช่รถม้าเดิมของนาง เบื้องหลังไป๋ชิงหลิงคืออ๋องฮุ่ย
เปลือกตาเสิ่นโหรวเม่ยกระตุกอย่างแรงสองสามครั้ง อ๋องฮุ่ยเป็นที่เลื่องลือว่าโหดร้ายต่อสตรี เขาไม่เคยแสดงความเมตตาและมีสตรีนับไม่ถ้วนที่เสียชีวิตบนเตียงเขา
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เสิ่นโหรวเม่ยก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาสองสามครั้ง ก่อนจะยกนิ้วชี้ไปทางไป๋ชิงหลิง “เจ้า...เจ้าทรยศ เจ้าทำร้ายพี่ชายข้า ตระกูลเสิ่นไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...