ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 188

ไป๋ชิงหลิงจ้องพู่กัน หมึกและผืนผ้าที่ปรมาจารย์หลูมอบให้ มือทั้งสองข้างลอบกำหมัดแน่น ก่อนยกขึ้นมารับสิ่งเหล่านี้

นางเดินไปที่โต๊ะ หยิบพู่กันขึ้นมาเขียนสิ่งที่อ๋องฮุ่ยร้องขอ พร้อมทั้งชี้แจงความจริง

หลังจากเขียนเสร็จปรมาจารย์หลูก็ส่งสิ่งที่ไป๋ชิงหลิงเขียนให้อ๋องฮุ่ยตรวจสอบ อ๋องฮุ่ยเหลือบมองมัน แล้วเลิกคิ้วก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “เขียนเพิ่มอีกประโยค”

“ยังต้องเพิ่มอะไรอีก?” ไป๋ชิงหลิงพูดอย่างเย็นชา

อ๋องฮุ่ยกล่าวว่า “ให้หรงเยี่ยทำลายกำลังภายในของตน แล้วมารับข้าที่ประตูฝั่งบูรพา”

“ไม่มีทาง!” ไป๋ชิงหลิงตวาดอย่างโกรธจัด

นางจะไม่ยอมให้หรงเยี่ยทำเช่นนั้น

วรยุทธ์ของหรงเยี่ยเป็นความภาคภูมิใจของเขา หากไร้ซึ่งกำลังภายใน หลงเหลือแต่วิชาวรยุทธ์ที่ดุร้าย นางไม่อาจให้ความภาคภูมิใจของเขาถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้าชายผู้โหดเหี้ยมคนนี้ได้

แต่ในยามนี้กลับมีเสียงร้องน่าสงสารของเด็กน้อยดังมาจากด้านหลังนาง

ไป๋ชิงหลิงมองย้อนกลับไปในทันที นางเห็นองครักษ์จับข้อมือเด็กอายุสามปีขึ้นมาตัดนิ้วเด็กทิ้ง นิ้วที่ขาดถูกสุนัขล่าเนื้อของอ๋องฮุ่ยฉกไปอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยส่งเสียงร้องไม่กี่ครั้งก่อนล้มลงกับพื้น

ไป๋ชิงหลิงกระโดดขึ้นจากที่นั่ง พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผลักองครักษ์ออกไปอย่างแรง แล้วจึงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาพร้อมตวาดด้วยความโกรธ “อ๋องฮุ่ย หากท่านกล้าทำร้ายพวกเขาอีก ข้าจะปล่อยให้ท่านตายอยู่ที่นี่”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” อ๋องฮุ่ยหัวเราะสองสามครั้ง “เป็นทุกข์หรือยัง หากรู้สึกทุกข์ก็รีบเขียน ข้าต้องการให้หรงเยี่ยทำลายกำลังภายในของตนแล้วพาข้าออกจากเมืองหลวงไป”

“ท่าน...” นางกอดเด็กไว้แล้วกัดฟันแน่น

“ตัดอีก”

“เขียนแล้ว!”

นางยืนขึ้นพร้อมกับเด็กวัยสามขวบในอ้อมแขน เดินกลับไปที่โต๊ะ แล้วเขียนต่อในตอนท้ายของเนื้อหาว่าอ๋องหรงต้องทำลายกำลังภายในของตนแล้วรออ๋องฮุ่ยอยู่ที่ประตูฝั่งบูรพาและต้องคุ้มกันอ๋องฮุ่ยออกจากเมืองหลวง...

หลังเขียนเสร็จ นางเพิ่มประโยคไว้ที่มุมล่างซ้ายว่าอย่าหุนหันพลันแล่น

ปรมาจารย์หลูชำเลืองมองแล้วหยิบสารกลับไปหาอ๋องฮุ่ย

อ๋องฮุ่ยเพ่งสายตาไปตรงคำว่า ‘อย่าหุนหันพลันแล่น’ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มน่ากลัวว่า “เจ้าหลงใหลอ๋องหรงจริงๆ”

“ทำไม ข้าบอกเขาว่าอย่าหุนหันพลันแล่นแค่นี้ผิดหรือ?”

อ๋องฮุ่ยกำผ้าแน่นแล้วพูดว่า “ส่งออกไป”

องครักษ์รับสารมาแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว

ภายในครึ่งวันอ๋องหรงก็ได้รับรู้ทุกคำขอที่อ๋องฮุ่ยเขียนไว้บนผืนผ้า อ๋องหรงปฏิบัติตามทุกคำขอ ยามอ๋องฮุ่ยได้รับสารตอบรับจากอ๋องหรง เขาก็รู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดไป๋ชิงหลิงเป็นอย่างมาก

“เจ้าเป็นแสงจันทร์ขาว [1] ในใจอ๋องหรงอย่างแท้จริง” อ๋องฮุ่ยโยนสารที่หรงเยี่ยเขียนใส่ไป๋ชิงหลิงอย่างแรง

เสิ่นโหรวเม่ยซึ่งอยู่ถัดจากไป๋ชิงหลิงคว้าสารไปเปิดดู จากนั้นน้ำตานางก็ไหลลงมา

เขายอม!

เขาสัญญาว่าจะทำลายกำลังภายในของตน

เขายอมตกลงทุกอย่าง

เช่นนั้นนางนับเป็นอะไร นางเสิ่นโหรวเม่ยนับเป็นสิ่งใดกัน

แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เสิ่นโหรวเม่ยจึงไม่กล้าพูดอะไรสักคำ นางโยนสารกลับไปทางไป๋ชิงหลิงแล้วหลั่งน้ำตาเพียงลำพัง

ความเกลียดชังที่มีต่อไป๋ชิงหลิงลึกซึ้งยิ่งขึ้น

อ๋องฮุ่ยทิ้งคนบางส่วนไว้เบื้องหลัง และทิ้งเด็กๆ ไว้ในวังใต้ดิน ขังพวกเขาไว้ในห้องมืดมิด

จากนั้นเขาก็พาไป๋ชิงหลิงกับเสิ่นโหรวเม่ยออกจากวังใต้ดิน ตรงไปยังประตูฝั่งบูรพา

ยามไปถึงที่นั่น กำลังทหารทั้งหมดของฝั่งบูรพาล้วนถูกถอนออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงหรงเยี่ยเท่านั้นที่ยังอยู่นอกประตูเมือง แม้กระทั่งสามัญชนก็แตกกระจายไปจนหมด

ไป๋ชิงหลิงเดินตามหลังอ๋องฮุ่ยมา นางเงยหน้าขึ้นมองชายที่ยืนอยู่ตรงทางออกประตูเมือง นางเดินไปหาเขา ในใจรู้สึกเจ็บปวดรุนแรง

แต่ว่า...

คนของอ๋องฮุ่ยยกกระบี่ขึ้นมาวางพาดคอนางทันที

นางหยุดอยู่กับที่ไม่ขยับอีก

อ๋องฮุ่ยเหลือบมองกลับมาที่นางแล้วโบกมือ “ทหารหักขาอ๋องหรงทิ้งเสีย!”

ดวงตาไป๋ชิงหลิงสั่นไหว ร่างกายนางสั่นเทาด้วยความโกรธ นางตำหนิด้วยแรงอารมณ์ “นี่มันจะเกินไปแล้วนะ?”

“แม้เขาจะไม่มีกำลังภายในแล้ว แต่ข้าก็ยังกลัวเขา ข้าเพียงจะทำให้ขาข้างหนึ่งของเขาพิการ ยังเหลืออีกข้างไว้ให้เขา!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น