ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 200

เด็กสองคนวิ่งเข้ามา แล้วยืนอยู่ด้านข้าง หรงจิ่งหลินพูดด้วยความดีใจ:“หนึ่ง...กราบไหว้ฟ้าดิน!”

ไป๋ชิงหลิงกุมขมับ!

หรงเยี่ย:“ไม่ได้พูดเล่น เพียงแค่ให้เสด็จแม่ได้รู้จักเจ้าหน่อย ไม่ต้องกังวลไปหรอก ท่านอ่อนโยนมาก”

ต่อให้เธอจากเขาไปหกสิบปี เขาก็ยังคงไม่มีวันลืมท่าทางของอดีตฮองเฮาเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่

ตอนที่ท่านอยู่ท่านอ่อนโยนมาก ต่อให้บางครั้งท่านจะดุกับเสด็จพ่อก็ตาม

หรงจิ่งหลิน:“ท่านแม่ เสด็จพ่อหน้าแดงแล้ว เป็นครั้งแรกที่ท่านพาผู้หญิงมาเคารพเสด็จย่าที่นี่”

ไป๋ชิงหลิงนิ่งอึ้งไป แล้วหันกลับมามองเขา

หลังจากที่ป่วยจากโรค สีหน้าของหรงเยี่ยก็ซีดเซียวอยู่ตลอด แต่บัดนี้สีหน้าที่ซีดเซียวของเขามีเลือดฝาดอยู่บ้างแล้ว

เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบหน้าเขา:“ที่แท้ท่านก็เขินอาย”

“ไม่ใช่!”

“เจ้ามีอะไรจะพูดกับเสด็จแม่”

“ข้า…...” เธอมองผู้หญิงในโลงน้ำแข็ง ผ่านไปหกสิบปีแล้ว ผู้หญิงในโลงน้ำแข็งมีหน้าตาราวกับอายุยี่สิบยังไงอย่างงั้น สวยประณีต แต่งตัวสูงส่ง

ท่านกับฮองเฮาอู่ในตอนนี้ มีความคล้ายคลึงกันเจ็ดถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์

ถ้าหากฮองเฮาอู่อายุน้อยกว่าตอนนี้สักนิดล่ะก็ คงจะใกล้เคียงอย่างมาก

“ข้าไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร แต่ว่า ข้าจะใช้ความสามารถทั้งหมดที่ข้ามีดูแลจิ่งหลินให้ดี ไม่ให้เขาต้องน้อยใจ” ไป๋ชิงหลิงไม่ได้พูดถึงหรงเยี่ย

หรงจิ่งหลินวิ่งเข้ามากอดไป๋ชิงหลิงด้วยท่าทางดีใจ แล้วหอมแก้มไปที่หน้าเธอหนึ่งฟอด:“ท่านแม่ ผมก็จะปกป้องเอ๋อร์ซือกับน้องสาวให้ดี”

“ข้าล่ะ?” หรงเยี่ยขมวดคิ้ว พูดกับเธอด้วยท่าทางไม่พอใจ

ไป๋ชิงหลิงกอดหรงจิ่งหลินแน่นแล้วพูด:“เป็นพ่อคนแล้ว ยังจะเอาอะไรอีกเพคะ”

“อืม!” พอได้ยินคำนี้ หรงเยี่ยก็ตอบรับแค่อืม แล้วตกอยู่ในความคิดอยู่นาน

ผ่านไปสักพัก......

เขาถึงเงยหน้าขึ้นมามองเด็กทั้งสอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“เช่นนั้นข้าจะพยายามเป็นพ่อให้กับลูกหลายคนหน่อย”

เอิ่ม......

ไป๋ชิงหลิงจ้องเขาอย่างโหดเหี้ยม

และเวลานี้ ทางประตูของสุสานจักรพรรดิก็มีเสียงหัวเราะคิกคักขององค์หญิงหลวนอี๋ดังมา

ไป๋ชิงหลิงหันกลับไปดูอย่างรวดเร็ว ก็เห็นฮองเฮา ไทเฮาและองค์หญิงหลวนอี๋ รวมถึงบรรดาแม่นม หญิงรับใช้กำลังยืนอยู่หน้าประตู

พวกเขามองพวกเธอที่อยู่ในนี้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ไทเฮาตบไปที่มือของฮองเฮาอู่แล้วพูด:“เรื่องดีๆกำลังจะเข้ามา ไม่แน่ว่าปีหน้าเจ้าจะได้อุ้มหลานแล้วนะ”

“หม่อมฉันได้ยินมาว่า บรรพบุรุษมีกรรมพันธุ์ของเด็กแฝดที่ถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังด้วยเพคะ แฝดสองแฝดสามต่างก็มีโอกาสในการท้องลูกแฝดหมดเพคะ” แม่นมอวี่พูดหยอกล้อ

สายตาของฮองเฮาอู่จ้องไปที่ท้องของไป๋ชิงหลิงอย่างเป็นประกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเอ็นดูของ“เสด็จย่า”

“เช่นนั้นก็ต้องรีบแต่งงานร่วมหอ ปีหน้าจะได้อุ้มหลานถึงสองคน” ฮองเฮาอู่พูดโพล่งออกมาอย่างรวดเร็ว

ส่วนไป๋ชิงหลิงขณะที่ได้ยินคำพูดของฮองเฮาอู่นั้น ร่างกายแข็งทื่อด้วยความมึนงง

ไม่ใช่ว่าฮองเฮาอู่คือคนที่รังเกียจเธอมากที่สุดเหรอ

เขาแทบอยากจะให้เธอตายไป ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าในใจนั้นหวังให้เธอมีลูกกับหรงเยี่ย

ฮองเฮาไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหม!!!

หลวนอี๋หัวเราะคิกคักแล้ววิ่งมาข้างๆไป๋ชิงหลิง กอดแขนเธอเอาไว้แล้วพูด:“ท่านพี่หญิงไป๋ ท่านได้ยินหรือยัง เสด็จแม่อยากให้ท่านมีลูกให้ท่านพี่เจ็ด ท่านช่วยท่านพี่เจ็ด เสด็จแม่ข้าพูดว่าคงไม่มีใครรักท่านพี่เจ็ดไปมากกว่าท่านพี่หญิงแล้ว เสด็จแม่เลยไม่อยากจะเลื่อนงานแต่งของท่านพี่เจ็ดอีก”

ไป๋ชิงหลิงนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง

แต่ไม่นาน เธอก็ถูกหรงเยี่ยดึงตัวขึ้น โอบไว้ในอ้อมกอด แล้วเดินมาตรงหน้าไทเฮากับฮองเฮาอู่

ฮองเฮาอู่มองหรงเยี่ยที่ยังมีชีวิตอยู่ตัวเป็นๆ ถามด้วยท่าทางตื่นเต้น:“ตอนนี้ข้าเข้าใกล้เยี่ยเอ๋อร์ได้แล้วใช่ไหม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น