ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 201

“ใช้การตายบีบบังคับ?” แจกันดอกไม้ที่เสิ่นโหรวเม่ยชูขึ้นสูงจู่ๆก็ค้างกลางอากาศ เธอวางแจกันดอกไม้ลง แล้วรีบวิ่งมาทางฮูหยินเสิ่น พุ่งเข้ามาร้องห่มร้องไห้ในอ้อมกอดเธอ:“ได้จริงๆเหรอเพคะ ท่านแม่ ต่อให้เสด็จป้าใช้การตายมาบีบบังคับ เขาก็ไม่มีทางแต่งกับข้าหรอก เขารักไป๋เจาเสวี่ยคนไร้ยางอายนั่นจะตายเพคะ”

มือของฮูหยินเสิ่นวางไว้ที่ส่วนหลังของเสิ่นโหรวเม่ย แล้วลูบปลอบใจ:“พี่เยี่ยของเจ้าดูภายนอกเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ความจริงแล้วมีความกตัญญูและชอบธรรมที่สุดในบรรดาเชื้อพระวงศ์ เสด็จป้าเจ้ากับเสด็จแม่ผู้ให้กำเนิดพี่เยี่ยของเจ้าเป็นพี่น้องญาติสนิทกัน เขาไม่มีทางปล่อยเสด็จป้าเจ้าตายหรอก”

โหรวเม่ยของเธอรอเขามาตั้งนาน เธอมีหรือจะยอมแพ้ไปง่ายๆเช่นนี้

ถ้าหากฐานะของเธอไม่สามารถโน้มน้าวจักรพรรดิได้ คงต้องเชิญท่านผู้เฒ่าเสิ่นแล้วล่ะ

ท่านเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในใต้หล้า จักรพรรดิเหยาคงต้องไตร่ตรองหนัก

เธอไม่สามารถพูดอะไรที่ทำให้ลูกสาวของตนเองน้อยใจได้

แต่เสิ่นโหรวเม่ยกลับร้องไห้อย่างควบคุมไว้ไม่ได้ เพราะเธอคิดว่า เธอไม่มีทางได้ครอบครองหรงเยี่ยตลอดไป

ต่อให้มีวันหนึ่งที่เธอได้แต่งเข้าจวนท่านอ๋องหรง เธอก็มัดใจท่านไม่ได้อยู่ดี

นอกเสียจากไป๋เจาเสวี่ยตายไป

“ท่านแม่…...ทำไมไป๋เจาเสวี่ยไม่ตายล่ะเพคะ ถ้านางตายที่สันเขาอินทรีหิมะคงจะดีกว่านี้ ได้ยินมาว่านางตกหน้าผาแต่ก็ยังมีชีวิตกลับมาได้” ความริษยาในใจเสิ่นโหรวเม่ยคอยกระตุ้นสติปัญญาของเธอไม่หยุด

ใช่ ถ้าไป๋เจาเสวี่ยตายไป ก็จะไม่มีใครมาคอยแย่งท่านอ๋องหรงกับเธอ

ส่วนฮูหยินเสิ่นพอได้ยินคำพูดของเธอ นัยน์ตาก็เผยแสงเยือกเย็นออกมา

“เจ้าวางใจเถอะ แม่ไม่มีทางให้เจ้ารอเสียเปล่าแน่”

ได้ยินคำพูดของฮูหยินเสิ่น จิตใจเสิ่นโหรวเม่ยก็สงบลงขึ้นเยอะ มือทั้งสองของเธอกอดร่างของฮูหยินเสิ่นแน่น อิงซบอยู่ในอ้อมกอดเธอ ไม่นานก็ร้องไห้จนเหนื่อย แล้วผลอยหลับไป

หลังจากที่ฮูหยินเสิ่นห่มผ้าให้เธอเสร็จแล้วนั้น ก็เดินออกมาจากห้อง

แม่นมเดินเข้ามาจากด้านนอกเรือน มาตรงหน้าเธอแล้วพูด:“ฮูหยิน ฮองเฮากลับเมืองหลวงแล้วเพคะ ท่านอ๋องหรงก็หายเป็นปกติแล้วเช่นกันเพคะ จักรพรรดิมาต้อนรับที่หน้าประตูเมืองด้วยพระองค์เอง แถมยังยืมตัวเต๋อเฟย เพื่อจัดงานพิธีเฉลิมฉลองด้วยเพคะ”

“ดี เตรียมรถม้า ข้าจะเข้าวังสักหน่อย”

หลังจากไป๋ชิงหลิงเดินตามคนกลุ่มใหญ่กลับมาที่วังหลวงแล้ว ก็ตามหรงเยี่ย ฮองเฮา องค์หญิงหลวนอี๋รวมถึงจักรพรรดิเหยามาที่ตำหนักฮุ่ยหนิง

แม่นมอวี่ประคองไทเฮานั่งลง แล้วพัดเบาๆให้

ขณะที่เงยหน้าขึ้นนั้น ก็เห็นลูกๆหลานๆเดินเรียงกันออกมา ยิ้มด้วยความดีใจ:“ดีมาก กลับมากันแล้ว”

สายตาของเธอมองที่ร่างของไป๋ชิงหลิง:“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคุณงามความดีของเจาเสวี่ย”

“ไทเฮาตรัสเกินไปแล้วเพคะ ถ้าไม่ได้การช่วยเหลือจากแม่ทัพเสิ่นกับท่านอ๋องต้วน รวมถึงทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ เจาเสวี่ยเกรงว่าคงตายอยู่สันเขาอินทรีหิมะ ไม่ได้นำเหมันต์พิสุทธิ์กลับมาหรอกเพคะ” ไป๋ชิงหลิงกล่าว

ไทเฮาหัวเราะอย่างมีเมตตา หลังจากนั้นก็กวาดสายตาไปมองจักรพรรดิเหยา แล้วถาม:“จักรพรรดิ เจ้ามีอะไรจะพูด”

จักรพรรดิเหยากระแอมเล็กน้อย แล้วกวาดสายตามองไป๋ชิงหลิง:“เสด็จแม่ ข้าไม่มีอะไรจะพูด”

ไทเฮาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที:“เจาเสวี่ยทำคุณูปการขนาดนี้ เจ้าไม่ชมเชยหน่อยหรือไง”

ฮองเฮาอู่ก็มองจักรพรรดิเหยาด้วยท่าทีร้อนใจเช่นกัน

จักรพรรดิเหลือบตามองไป๋ชิงหลิง แล้วพูด:“แน่นอนว่ามี เพียงแต่…...ก่อนหน้านี้ข้าเคยรับปากหมอหญิงไป๋ รอนางจัดการเรื่องท่านอ๋องฮุ่ยแทนข้าได้แล้ว ก็จะคืนอิสระให้นาง คิดดูแล้วนางคงไม่ชอบเหล่าเชื้อพระวงศ์ ไม่ชอบการบังคับ”

พูดจบ สีหน้าของหรงเยี่ยก็ดำทะมึนขึ้นมา

ลูบหนังสือรับรองที่พกติดตัวอยู่ตลอด แล้วโยนไปข้างๆฟางกงกง:“ไม่รักษาคำพูด”

ไป๋ชิงหลิงมองไปทางหนังสือรับรองที่เขาโยนออกไป ฟางกงกงรับไว้ไม่ทัน ก็เลยตกลงบนพื้น

ไป๋ชิงหลิงมองเห็นเนื้อหาในนั้นพอดี ใบหน้าแดงระเรื่อ......

มันคือหนังสือปฏิเสธการแต่งงานที่เธอเคยขอจักรพรรดิเหยาในตอนแรก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเฉกเช่นเรื่องของท่านอ๋องฮุ่ยในอนาคตอีก แล้วให้จักรพรรดิเหยาตัดสินใจ

แต่วันนี้หนังสือรับรองฉบับนี้ กลับเหมือนเอามาตบหน้าเธอจริงๆ

จักรพรรดิจ้องเขม็งไปที่ฟางกงกง:“ทำไมไร้ประโยชน์เช่นนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสมควรตายที่รับไว้ไม่ได้” ฟางกงกงคล้อยตาม หลังจากนั้นก็รีบเก็บขึ้นมา แล้วส่งให้จักรพรรดิเหยา

จักรพรรดิเหยายื่นหนังสือรับรองส่งไปในมือของไทเฮา

ไทเฮาเปิดดู สายตาก็เหลือบขึ้นมองไป๋ชิงหลิง แล้วมองไปที่หรงเยี่ยอีกครั้ง สุดท้ายจึงถอนหายใจ:“เจาเสวี่ย เจ้าไม่ชอบเยี่ยเอ๋อร์”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น