“ฮูหยินเสิ่น ฮองเฮาเหนียงเหนียงกับองค์หญิงหลวนอี๋กำลังรับประทานอาหารอยู่กับไทเฮาที่ตำหนักฮุ่ยหนิงเพคะ ให้หม่อมฉัน......จัดอาหารให้ไหมเพคะ”
ฮูหยินเสิ่นขมวดคิ้ว ในใจจู่ๆก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น
เมื่อก่อนไทเฮาไม่เคยให้ฮองเฮาอยู่รับประทานอาหารด้วยกัน
ฮองเฮาก็ไม่ได้ชอบไปที่ตำหนักฮุ่ยหนิง โดยปกติแค่ทักทายถามสารทุกข์สุขดิบ ไม่เคยจะอยู่นานขนาดวันนี้มาก่อน
เธอปัดป่ายมือ ไม่มีอารมณ์จะรับประทานอาหาร
เลยรออยู่ที่ตำหนักเฟิ่งหลวนสองชั่วยาม พอใกล้ถึงช่วงบ่าย ฮองเฮาอู่ถึงจะกลับตำหนักเฟิ่งหลวน
ฮูหยินเสิ่นได้ยินว่าท่านกลับมา ก็รีบเดินออกมาจากด้านในไปต้อนรับ:“หม่อมฉันถวายพระพรฮองเฮาเหนียงเหนียงเพคะ”
“น้องสาว เจ้ามาแล้ว” ฮองเฮาอู่เห็นฮูหยินเสิ่น นัยน์ตาก็สว่างขึ้นมา รีบเดินเข้าไปหาฮูหยินเสิ่นทันที แล้วพยุงฮูหยินเสิ่นขึ้น ถามด้วยความกระตือรือร้น:“เจ้ามานานแล้วหรือ ทำไมไม่บอกข้าก่อน ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าจะเข้าวังล่ะก็ ข้าคงจะกลับมานานแล้ว”
ฮูหยินเสิ่นเห็นเธอยังคงมีน้ำใจเหมือนเก่า เลยวางใจ เธอพลิกมือไปจับมือของฮองเฮาอู่แล้วพูด:“ไม่นานหรอกเพคะ หม่อมฉันก็พึ่งถึง”
ขณะที่ฮูหยินเสิ่นพูด ก็กวาดสายมองเหล่าแม่นมและหญิงรับใช้ในตำหนักเฟิ่งหลวนไปด้วย
ก็เลยไม่มีใครกล้าบอกฮองเฮาอู่ต่อหน้าฮูหยินเสิ่น ว่าฮูหยินเสิ่นมารอได้ครึ่งค่อนวันแล้ว
ทั้งสองเดินเข้าตำหนักเฟิ่งหลวน
ต่างประคองกันนั่งลง
ฮูหยินเสิ่นถาม:“ร่างกายเยี่ยเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”
ใบหน้าฮองเฮาอู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม:“ดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ฟื้นฟูกลับไปเหมือนแต่ก่อนแล้ว โชคดีที่มีไป๋เจาเสวี่ย”
ประโยคสุดท้าย ทำให้ฮูหยินเสิ่นขมวดคิ้ว:“ไป๋เจาเสวี่ย?”
“ใช่แล้วล่ะ นางพาคนรับใช้สองคนไปปีนหาสมุนไพรที่สันเขาอินทรีหิมะ ขนาดเยี่ยเอ๋อร์ถูกปิดโลงแล้ว นางยังพาเยี่ยเอ๋อร์กลับมาจากประตูยมโลกได้ ครั้งนี้โชคดีจริงๆที่มีนาง” ความคิดของฮองเฮาไม่ได้อ้อมค้อมอะไรมากมาย
เวลาที่เธอรู้สึกว่าคนไหนดี คนคนนั้นก็ดีที่สุด
เวลาที่เธอรู้สึกว่าคนไหนแย่ ไม่ว่าจะมองตรงไหนก็ไม่เข้าตาสักนิด
ก็เหมือนกับครั้งแรกที่เจอไป๋ชิงหลิง ก็รู้สึกว่าไป๋ชิงหลิงนั้นขัดหูขัดตาเป็นอย่างมาก ตอนนี้ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งเข้าตา
แต่ฮูหยินเสิ่นนั้นรู้จักนิสัยฮองเฮาอู่เป็นอย่างดี
การชมของฮองเฮาอู่ครั้งนี้ทำให้ฮูหยินเสิ่นไม่สบายใจ แต่ก็ไม่กล้าซักถามฮองเฮา เพราะฐานะคนละชั้น
ต่อให้เธอโง่แค่ไหน แต่ก็เป็นฮองเฮาของแคว้นหรง
ฮูหยินเสิ่นเผยรอยยิ้มออกมา แล้วพูด:“ดูเหมือนก่อนหน้านี้คงจะเข้าใจนางผิดนะเพคะ”
“นั่นน่ะสิ” ฮองเฮาอู่จับมือของเธอด้วยความตื่นเต้น แล้วพูด:“มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่สนความเป็นความตายของตัวเองเช่นนาง ตอนนั้นเยี่ยเอ๋อร์กินอะไรไม่ได้เลย นางก็ใช้ปากป้อน ไม่กลัวสักนิดว่าจะถูกเยี่ยเอ๋อร์แพร่เชื้อ ข้าล่ะซาบซึ้งใจจริงๆ”
ฮูหยินเสิ่นสบถเหอะ!
ซาบซึ้ง!
เหอะ!
เช่นนั้นช่วงวัยหนุ่มสาวที่โหรวเม่ยของเธอมอบให้ล่ะ ในสายตาเธอกลายเป็นไม่มีค่าเลยสักนิด
ฮูหยินเสิ่นเห็นว่าฮองเฮาอู่ไม่ได้พูดถึงงานแต่งของหรงเยี่ยกับเสิ่นโหรวเม่ยอีก เธอเลยกำผ้าเช็ดมือแน่น:“เหนียงเหนียงกล่าวได้ถูกต้องที่สุดเพคะ ถ้าหากในจวนท่านอ๋องหรงมีนางบำเรอสูงศักดิ์คอยปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋อง ก็คงทำให้เม่ยเอ๋อร์เบาใจลงไม่น้อยเพคะ”
จู่ๆสีหน้าของฮองเฮาอู่ก็เปลี่ยนไป
เธอจ้องฮูหยินเสิ่นราวกับเจอผี:“นางบำเรอสูงศักดิ์?”
ฮูหยินเสิ่นอมยิ้มพยักหน้า:“ใช่สิเพคะ ไม่ใช่ว่าเหนียงเหนียงกำลังหาโอกาสเหมาะๆรับไป๋เจาเสวี่ยไว้เหรอเพคะ หม่อมฉันดูแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดี นางช่วยท่านอ๋องหรงไว้ มีคุณูปการ เหมาะในการที่จะให้เป็นนางบำเรอสูงศักดิ์นะเพคะ มีนางบำเรอเช่นนี้คอยปรนนิบัติข้างกายท่านอ๋องหรง คงทำให้พระชายาหรงในอนาคตเบาใจลงไม่น้อย”
สีหน้าของฮองเฮาอู่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...