ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 204

หลวนอี๋เดินเข้ามา มองทั้งสองคนที่ท่าทางลับๆล่อๆ ถามด้วยความอยากรู้:“แม่นมหยางกับท่านพี่หญิงไป๋พูดอะไรกัน?”

แม่นมหยางเม้มริมฝีปาก ยิ้มแล้วมองไปทางไป๋ชิงหลิง

หลวนอี๋เลยมองไปทางไป๋ชิงหลิง แล้วถาม:“ท่านพี่หญิงไป๋ คุยอะไรกัน?”

“องค์หญิง หลังจากที่กลับตำหนักเฟิ่งหลวน ท่านก็จะรู้เองเพคะ”

“เช่นนั้นพวกเราก็รีบไปกันเถอะ” หลวนอี๋คิดว่ามีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจรอเธออยู่ ผลสุดท้ายหลังจากที่มาถึงตำหนักเฟิ่งหลวน กลับถูกสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ทำเอาเธอตกใจแทบแย่

แม่นมของตำหนักจิ่นซ่าง กำลังวัดขนาดตัวเสิ่นโหรวเม่ยอยู่

ตำหนักจิ่งซ่างเป็นตำหนักที่รับผิดชอบงานเสื้อผ้าสำหรับในวังโดยเฉพาะ เห็นได้ชัดที่เสิ่นโหรวเม่ยได้รับสวัสดิการเช่นนี้ได้ ก็เพราะคำแนะนำจากฮองเฮาอู่

พอเห็นว่าเสิ่นโหรวเม่ยถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมอยู่รอบตัว หลวนอี๋ที่อารมณ์ดีอยู่นั้นจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

“เสด็จแม่!” หลวนอี๋เดินเข้าไปในตำหนักด้วยความโมโห

แม่นมหยางรีบหันไปมองไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงหันมามองเธอแล้วพยักหน้า แล้วจูงลูกทั้งสองไว้ เดินตามเข้าไปในตำหนักทำความเคารพฮองเฮา

ใบหน้าฮองเฮาอู่ยังคงรอยยิ้มไว้เหมือนเดิม ท่าทางใจดี:“เชิญนั่ง”

เสิ่นโหรวเม่ยอยู่ข้างๆมองมา ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเล็กน้อยในตอนแรก ต่อมาก็รีบเก็บสีหน้าที่ไม่พอใจทันที

“หมอหญิงไป๋ก็มาเช่นกันหรือ” ในมือเสิ่นโหรวเม่ยถือผ้าสีม่วง ใบหน้าเผยรอยยิ้มเบาๆ ราวกับความไม่พอใจก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงนั่งลง สายตาก็มองไปที่ผ้าไหมในมือของเสิ่นโหรวเม่ย แล้วตอบ:“องค์หญิงหลวนอี๋เชิญหม่อมฉันมาพักที่ตำหนักน่ะเพคะ”

“บังเอิญเสียจริง เสด็จป้าฮองเฮาก็เชิญข้าเข้าวังมาพักสองสามวันเหมือนกัน พวกเราจะได้มีเพื่อน ข้ากำลังคิดว่าจะไปขอคำแนะนำจากหมอหญิงไป๋เรื่องโรคระบาดครั้งนี้พอดี” สีหน้าเสิ่นโหรวเม่ยถ่อมตัวขอคำชี้แนะ

ความจริงแล้ว คำพูดของเธอนั้นเหมือนว่าเปิดเผยตัวตนอีกครั้ง ว่าเธอคือคนที่ฮองเฮาเชิญมา เทียบกับองค์หญิงหลวนอี๋แล้ว อำนาจจากคำพูดของฮองเฮานั้นสูงกว่า

ฮองเฮาอู่ได้ยินคำพูดนี้ จู่ๆก็รู้สึกว่าผิดปกติ เหมือนมีความประชดประชันอยู่

เธอกับแม่นมหยางสบตากัน

แม่นมหยางให้สัญญาณลับกับฮองเฮาอู่ว่าไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ

หลวนอี๋ที่มองสิ่นโหรวเม่ยไม่เข้าตาแต่ไหนแต่ไหรมา เลยรีบแย่งเธอพูด:“ท่านพี่เสิ่น ท่านพี่จะพูดก็พูดดีๆหน่อยเพคะ อย่าเอาแต่พูดจาเหน็บแนม ไม่ว่าใครจะเชิญท่านพี่หญิงไป๋มา ถ้าตำหนักเฟิ่งหลวนนี้ไม่มีคำอนุญาตจากเสด็จแม่ข้า ท่านพี่หญิงไป๋ก็ไม่สามารถเข้ามาได้”

พอหลวนอี๋พูดจบ สีหน้าของเสิ่นโหรวเม่ยก็เปลี่ยนไป หันไปมองทางฮองเฮาอู่อย่างรวดเร็ว

ฮองเฮาอู่รีบยกชาเข้ามา ขวางไว้ตรงหน้า

หลวนอี๋มองเธอด้วยอารมณ์ที่จะกินคนเข้าไปได้ทั้งตัว พูดอย่างไม่สบอารมณ์:“ท่านพี่ดูสิว่าเสด็จแม่ทำอะไร?”

“ข้าก็แค่อยากให้เสด็จป้าดูผ้าไหมในมือข้า ข้าไม่ได้หมายความอย่างอื่น” เสิ่นโหรวเม่ยทำท่าทางไม่ได้รับความเป็นธรรม

ฮองเฮาอู่วางชาลงแล้วมองฉากตรงหน้า ทนไม่ได้เลยพูด:“หลวนอี๋ อย่าก่อเรื่องสิ”

“เหนียงเหนียง องค์หญิงไม่ได้ตั้งใจหรอกเพคะ” ไป๋ชิงหลิงปกป้องหลวนอี๋

แต่การปกป้องเช่นนี้ กลับทำให้ฮองเฮาอู่รู้สึกดีเป็นอย่างมาก

เสิ่นโหรวเม่ยคิดว่าฮองเฮาจะตำหนิหลวนอี๋เหมือนเมื่อก่อน หลังจากนั้นก็ให้หลวนอี๋ขอโทษเธอ แต่เธอก็รอนานแล้วยังไม่มีวี่แววเลยแม้แต่นิด

ในทางกลับกัน ได้ยินฮองเฮาพูดว่า:“เจ้าโตกว่าหลวนอี๋ แถมนางก็ชอบอยู่กับเจ้า เจ้าก็ช่วยสอนกฎระเบียบนางแทนข้าหน่อยก็แล้วกัน ข้าเกรงว่านางออกไปแล้วจะเสียหน้าเอา”

“เสด็จแม่…...”

“เพคะ คำพูดของเหนียงเหนียง เจาเสวี่ยจะจำให้ขึ้นใจ ในเมื่อเหนียงเหนียงมีเรื่องจะคุยกับคุณหนูเสิ่น เช่นนั้นหม่อมฉันกับองค์หญิงหลวนอี๋ไม่รบกวนแล้วเพคะ” ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้น แล้วดึงมือของหลวนอี๋

ฮองเฮาอู่สั่งแม่นมหยางให้อยู่ดูแลไป๋ชิงหลิง:“เจ้าไปจัดห้องให้เจาเสวี่ยพัก เอาที่ที่เงียบสงบ อย่าให้คนไปรบกวนนางบ่อยๆ ให้นางได้พักรักษาตัว”

“ขอบพระทัยในความเมตตาเพคะเหนียงเหนียง”

“ไม่เป็นไร เจ้าอยู่เป็นเพื่อนเยี่ยเอ๋อร์ที่สุสานจักรพรรดิหนึ่งเดือนเต็มๆ คงเหนื่อยมากสินะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น