ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 211

ตอนที่ไป๋ชิงหลิงกับหรงเยี่ยกลับไปถึงตำหนักเฟิ่งหลิว ก็เห็นเจ้าตัวน้อยทั้งสองคนยืนเรียงกันอยู่หน้าประตู มีนางกำนัลสองคนยืนอยู่ด้านหลัง

หรงเยี่ยขมวดคิ้วแล้วถาม: "ทานข้าวกันแล้วรึยัง?"

นางกำนัลที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบคุกเข่าลงทันที บอกเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักอวี่ซีให้หรงเยี่ยฟังทั้งหมด

พอหรงเยี่ยฟังจบ แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ กำหมัดแน่น จากนั้นก็หันหลังเดินไป ไป๋ชิงหลิงเห็นเขาเดินจากไปก็เดินออกจากตำหนักเฟิ่งหลิวไปด้วย

ถึงที่ตำหนังอวี่ซี

ไทเฮา จักรพรรดิเหยาและท่านผู้เฒ่าเสิ่น เสิ่นหรูเหลียนกับฮูหยินเสิ่นและใต้เท้าเสิ่นพ่อของเสิ่นโหรวเม่ยต่างก้อยู่ตรงหน้าตำหนักอวี่ซีกันหมด

เสิ่นโหยวเม่ยจัดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย แล้วก็คุกเข่าอยู่ที่พื้นกับหรงเซิน

ฮองเฮาอู่เพิ่งก้าวขาเดินเข้าตำหนักเฟิ่งหลิว ก็มีร่างนึงเดินผ่านนางไป พอนางเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเงานร่างสีม่วงนั้นเดินเข้าไปในตำหนักแล้ว

สีหน้าของแม่นมจ้านตื่นตระหนก: "คือท่านอ๋องหรงเพคะ"

แม่นมจ้านและฮองเฮาอู่ต่างก็หายใจเข้าพร้อมกัน

จากนั้นแม่นมจ้านก็พูดต่อ :"ในมือของท่านอ๋องหรงยังถือกระบี่ไว้ด้วย"

"เขาอาจจะฆ่าโหยวเม่ย รีบเข้าไปขัดขวางเขาเร็ว......" ถึงแม้ว่านางจะได้ยินว่าเสิ่นโหรงเม่ยมีอะไรกับลูกชายคนเล็กของนาง นางก็โมโหมาก แต่เสิ่นโหรงเม่ยโทษไม่ถึงตาย

แต่นางก็รู้ดี ตำหนักเฟิ่งหลิวเป็นพื้นที่ต้องห้ามของหรงเยี่ย คือที่ที่เสด็จแม่ที่ให้กำเนินเขาอาศัยอยู่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

จักพรรดิเหยาสั่งคนมาทำความสะอาดทุกวัน

แต่เสิ่นโหยวเม่ยกลับเลือกที่ตำหนักเฟิ่งหลิว หรงเยี่ยไม่โมโหสิแปลก

"เหนียงเหนียง หมอหญิงไป๋มาแล้วเพคะ" แม่นมจ้านพูดอย่างลุกรี้ลุกรน

ฮองเฮาอู่เหมือนกับเจอผู้ช่วยอย่างนั้น เดินไปตรงหน้าไป๋ชิงหลิงตัวเอียงไปเอียงมา จับแขนนางไว้แล้วพูดว่า:"รีบไปห้ามเขาเร็ว เขาจะฆ่าเสิ่นโหรงเม่ย ถ้าเขาฆ่าเสิ่นโหรงเม่ย พวกเจ้าสองคนก็จบแล้ว...."

สีหน้าของไป๋ชิงหลิงกังวลเล็กน้อย เงยหน้ามองไปที่ตำหนักอวี่ซี เสาทองสองเสาที่อยู่ข้างประตูตำหนัก แกะสลักมังกรและฟีนิกซ์เป็นคู่ไว้ ตัวหนังสือตำหนักอวี่ซีตัวใหญ่ๆ ก็แกะสลักทำจากทอง

บอกว่ามันมีราคามากมายล้นหลามก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง

ดูหรูหรากว่าตำหนักเฟิ่งหลิว

คนที่อยู่ในตำหนักอวี่ซี ต่างก็เป็นผู้ที่มีตำเเหน่งและฐานะที่สูง

ส่วนคนที่จะมีตำเเหน่งสูงกว่าตำหนักเฟิ่งหลิวของฮองเฮาได้ ก็คือฮองเฮาองค์ก่อน

ก็คือ....ตกหนักของเสด็จแม่ของหรงเยี่ย

พอคิดเช่นนี้ ในใจของไป๋ชิงหลิงก็ยิ่งหนักใจ รีบวิ่งเข้าไปในตำหนักอวี่ซี

ก็เห็นหรงเยี่ยกำลังผลักคนที่ดักหน้าเขาไว้อยู่ ในมือของเขาถือกระบี่ไว้ เดินเข้าไปหาเสิ่นโหรงเม่ยด้วยสีหน้าที่ดุร้าย

หรงเฉินบังหน้าเสิ่นโหรงเม่ยไว้ แล้วพูดว่า: "พี่เจ็ด เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพี่หญิงเสิ่น เป็นความผิดของข้าเอง เมื่อคืนข้าเป็นคนลากพี่หญิงเสิ่น...ปั๊ก!"

ยังพูดไม่จบ หรงเฉินก็ถูกหรงเยี่ยเตะล้ม

เสิ่นโหยวเม่ยร้องตกใจ จากนั้นก็ถอยหลังไปหลายก้าว มองกระบี่ในมือของหรงเยี่ยด้วยสีหน้าที่ตกใจกลัว

กระบี่เล่มนั้นเเหลมคมและเงาวับมาก บนตัวกระบี่ยังเห็นสีหน้าที่ตกใจกลัวของนาง

พอนางถอยหลัง ก็ถอยไปอยู่ตรงหน้าของเสิ่นหรูเหลียน เสิ่นโหรงเม่ยตกใจหันหลังไปมอง ก็ถูกเสิ่นหรูเหลียนเตะใส่ที่หลังของนางแรงๆหนึ่งที

เตะของเสิ่นหรูเหลียน ทำให้เสิ่นโหยวเม่ยกระเด็ดไปอยู่ตรงหน้าของหรงเยี่ย กระบี่ที่เเหลมคมก็อยู่ตรงหน้านาง

นางตะโกนออกมาเสียงดัง: "อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้าเลย ข้าจำอะไรไม่ได้เลยทั้งนั้น ท่านแม่ ท่านแม่..."

นางถอยหลังอย่างเกรงกลัว

หรงเยี่ยยื่นกระบี่ในมือของเขาออกไปอย่างไว แทงเข้าไปตรงหน้าของนางอย่างแรงๆ

เขาแทงออกไปเร็วมาก ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัว กระบี่ของเขาก็แทงออกไปแล้ว

เสิ่นโหยวเม่ยร้องตะโกนออกมา……

ทุกคนต่างก็ตกใจกัน……

แต่ในวินาทีนั้น ไป๋ชิงหลิงพุ่งเข้ามาจากด้านนอก ชนเข้ากับหรงเยี่ยอย่างเเรง มือทั้งสองข้างรัดตัวเขาไว้ แล้วก็ล้มลงบนพื้นด้วยกัน

“ตึ่ง!”

กระบี่ตกลงบนพื้น

ไป๋ชิงหลิงทับตัวเขาไว้

จักพรรดิเหยาและไทเฮาค่อยมีปฎิกิกริยา

ฮูหยินเสิ่นก็พุ่งเข้าไปหาเสิ่นโหยวเม่ย กอดนางไว้ร้องไห้แล้วพูดว่า: "ไทเฮาเพคะ โหยวเม่ยผิดจริง ที่ไม่ควรไปดื่มเหล้ากับอ๋องเฉินตอนดึก"

"หุบปาก !"ไทเฮาตะโกนอย่างโมโห แล้วก็พูดว่า : "เจาเสวี่ย พาอ๋องหรงออกไปก่อน"

หรงเยี่ยพยุงตัวไป๋ชิงหลิงยืนขึ้น จ้องเสิ่นโหรงเม่ยด้วยสายตาที่เครียดแค้น :"เจาเสวี่ย ปล่อยข้า"

"ปล่อยท่าน แล้วก็ให้ท่านข้าคุณหนูใหญ่เสิ่น ใช่ไหม?" ไป๋ชิงหลิงเห็นแววตาที่ลุกเป็นไฟของเขา ในใจของนางเองก็กลัวเล็กน้อย

ช่วงนี้ เขาดูแลเอาใจใส่นางเป็นอย่างดี ดูแลนางอย่างละเอียดจนทำให้นางเกือบลืมไปว่าเขาคือร่างของอวตาน คือยมบาลที่เลือดเย็นในสายตาของคนอื่น

ไม่ว่าอะไรเขาก็ทำออกมาได้ทั้งนั้น

เสิ่นโหยวเม่ยนั้นชั่วร้ายจริงๆ แต่ว่าเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหรงเฉินลูกชายของฮองเฮาอู่

ถ้าเขาฆ่าเสิ่นโหยวเม่ย งั้นต่อไปความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอ๋องเฉินก็……

เรื่องนี้ควรมีฮองเฮาอู่มาจัดการ ไม่ใช่เขาฆ่าเสิ่นโหรงเม่ยก็จบแล้ว……

"ปล่อยข้า"

"ข้าไม่ปล่อย" นากอดเขาไว้แน่ ใบหน้าอยู่ตรงหน้าอกของเขา เหมือนที่เขากอดนางอย่างนั้นทุกวัน : "ท่านต้องสงบสติลง อ๋องหรง เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว"

"เจ้าจะไปรู้อะไร!" หรงเยี่ยจับแขนนาง แล้วก็ผลักนางออกอย่างแรง

ไป๋ชิงหลิงไม่ได้ตั้งตัว ถูกผลักออกไปอย่างกะทันหัน จากนั้นนางก็ชนกับหน้าต่างที่อยู่ด้านหลัง เสียงชน“ปั๊ง” อย่างดัง

ไทเฮาเองก็ตกใจ!

ฮองเฮาอู่เข้ามาเห็นภาพนี้ ตาของนางเองกระตุกหลายครั้ง

หลวงอี๋ตะโกนออกมาอย่างโมโห : “พี่เจ็ด นี่พี่กำลังทำอะไรอยู่?”

หรงเยี่ยก็ค่อยๆดึงสติจากอารมณ์วู่วามเมื่อสักครู่กลับมา เขาก้มหน้ามองมือข้างที่ผลักไป๋ชิงหลิง ขมวดคิ้ว สุดท้ายก็เดินไปหาไป่ชิงหลิง ดึงมืออีกข้างของนางแล้วเดินออกไปจากตำหนังอวี่ซี……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น