หรงเยี่ยซึ่งไม่ได้พูดหรือเคลื่อนไหวใด ๆ บนพระที่นั่ง เมื่อเนี่ยเสี่ยวชิงเดินเข้ามาหา เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างแข็งทื่อ และดึงหรงจิ่งหลินมาข้างหลัง
หรงจิ่งหลินตกใจ จากนั้นถึงสังเกตเห็นหญิงสาวตรงหน้า
เขาขมวดคิ้ว และถามอย่างไม่เป็นมิตรว่า “เจ้าเป็นใคร ? ”
เนี่ยเสี่ยวชิงหยุดฝีเท้าชั่วคราว หันกลับไปมองไทเฮาฮุ่ย ร่องรอยของความเสียใจและโศกเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
ไทเฮาเองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน แต่นางคิดว่าเนี่ยเสี่ยวชิงกลับมากะทันหันเพื่อบอกหรงจิ่งหลิน ว่านางเป็นแม่แท้ ๆ ของเขา มันจะทำให้เด็กตกใจ ดังนั้นนางจึงพูดปลอบโยนอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวชิง ไม่ต้องรีบ ”
“เพคะ” เนี่ยเสี่ยวหลิงดูโล่งใจ หันไปมองหรงจิ่งหลินอีกครั้ง และพูดว่า “จิ่งหลิน……”
“เสด็จพ่อ เรารีบไปเถอะ ท่านแม่ต้องการท่าน ” หรงจิ่งหลินหันหน้าหนี คว้าเสื้อผ้าของหรงเยี่ย และไม่สนใจเสียงเรียกของเนี่ยเสี่ยวชิง
สายตาและจิตใจของเขาเต็มไปด้วยไป๋ชิงหลิง
เขาต้องการให้หรงเยี่ยไปที่อำเภอหลิงอันกับนาง ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะออกจากเมืองหลวง
เมื่อแม่นมอวี่อันเห็นเช่นนี้ พูดเบา ๆ ว่า “คุณชายจิ่ง คนตรงหน้าท่านคือ……”
“นางไม่ใช่ ! ” เสียงเย็นชาขัดจังหวะคำพูดของอวี่อัน
แม่นมอวี่อันและไทเฮาต่างก็ตกใจ และพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่หรงเยี่ย
เมื่อเห็นหรงเยี่ยอุ้มหรงจิ่งหลินขึ้นมา ชำเลืองมองที่เนี่ยเสี่ยวชิงด้วยดวงตาที่มืดมนและพูดอย่างก้าวร้าวว่า “เจ้ากล้าพูดเหรอว่าเขาเป็น!! ”
เนี่ยเสี่ยวชิงถอยห่างจากรัศมีของเขาไปสองก้าว ดวงตาเป็นสีแดง : “พี่เจ็ด ข้ารู้ในตอนนั้น……มันเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควร……ไม่ควรใช้ยากับท่าน แต่ท่านจะมาห้ามไม่ให้ข้าพบกับจิ่งหลินไม่ได้ ข้าคือแม่แท้ ๆ ของเขา ไม่ใช่เหรอ ? ”
เมื่อนางกล่าวคำว่า”แม่ผู้ให้กำเนิด” มีการยั่วยุที่มองไม่เห็นในดวงตาของนาง
เล็บมือทั้งสองจิกเข้าไปในเนื้ออย่างแรง
เนี่ยเสี่ยวชิงกำลังคิดอยู่ในใจ ในเมื่อข้าไม่สามารถรับความรักของท่านได้ เช่นนั้นข้าจะปล่อยให้ท่านกัดฟันด้วยความเกลียดชังข้า ท่านต้องอุดช่องโหว่ที่ตัวเองขุดไว้ ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ข้าก็เป็นแม่ของจิ่งหลิน และท่านต้องแต่งงานกับข้า
เนี่ยเสี่ยวชิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในใจ แต่การยั่วยุในดวงตาของนางก็กลายเป็นน้ำตาแห่งความคับแค้นใจอย่างรวดเร็ว
ไทเฮาทนไม่ได้ พระนางลุกขึ้นจากพระที่นั่ง เดินไปหาเนี่ยเสี่ยวชิง เผชิญหน้ากับหรงเยี่ยและพูดว่า “ เยี่ยเอ๋อร์ แม้ว่าเจ้าต้องการลงโทษนาง นั่นก็เพียงพอแล้ว หลายปีมานี้จิ่งหลินเป็นอย่างไร เจ้าก็รู้ดีกว่าใคร ๆ เขาต้องการเสด็จแม่ !”
ไม่……ไม่ ! ” จู่ ๆ หรงจิ่งหลิน ก็ตะโกนอย่างควบคุมไม่ได้ “ข้ามีแม่ นางไม่ใช่เสด็จแม่ของข้า”
“จิ่งหลิน นางคือแม่ของเจ้า นางคือผู้ให้กำเนิดเจ้า ”
“ไม่ นางไม่ใช่ เสด็จย่าทวดอย่าหลงกลนางสิ……”
ไทเฮาขมวดคิ้วเข้ม นางรู้ว่าหรงจิ่งหลินมีสุขภาพไม่ดี จึงไม่กล้ากระตุ้นเขาอีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...