กลุ่มคนที่มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยคนเดิมตามกันลงมาจากด้านส่วนลึกของภูเขา
พวกเขาต่างร้องไห้โหยหวน ข้างกายของพวกเขาคือกลุ่มหมอหญิงที่คอยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และเป็นผู้นำทางให้แก่พวกเขา......
หรงเยี่ยลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว รีบก้าวเดินไปยังกลุ่มของประชาชนเหล่านั้น ดวงตาอันเฉียบคมของเขาจับจ้องไปยังกลุ่มหมอหญิงเพื่อมองหาเรือนร่างอันคุ้นเคย
แต่......
เขาก็ยังคงไม่พบไป๋ชิงหลิง
ในตอนที่หมอหญิงคนหนึ่งเดินผ่านข้างกายเขา เขาจับแขนของหมอหญิงผู้นั้นไว้และถามออกมา “ไป๋เจาเสวี่ยอยู่ที่ไหน?”
หมอหญิงผู้นั้นตกใจเป็นอย่างมาก กล่าวออกมาด้วยริมฝีปากอันสั่นเทา “ท่าน......อ๋องหรง......ไป๋......หมอหญิงไป๋......หมอหญิงไป๋ นาง.......”
“นางเป็นอะไรไปงั้นหรือ!” เขาออกแรงเพิ่มเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นกังวล ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยสู้ดีนัก
หมอหญิงที่ถูกจับแขนคุกเข่าลงพื้นด้วยความตกใจ จากนั้นกล่าวออกมาว่า “หมอหญิงไป๋นางอยู่ด้านหลัง......ด้านหลัง......ในตอนที่พวกข้าเข้ามาในภูเขาเม่า ก็มาพบกับเหตุการณ์แผ่นดินถล่ม......”
หรงเยี่ยเงยหน้าขึ้นมองภูเขาที่อยู่ด้านหน้าของเขาลูกนั้น ป่าในภูเขาเม่าเป็นป่าทึบ มีสัตว์ร้ายออกมาให้พบเห็นเป็นประจำ ทำให้ด้านในเต็มไปด้วยกับดัก และเป็นภูเขาซึ่งมียอดเขาอันสูงชัน
นางที่เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง จะออกมาได้อย่างไร......
เขาผลักหมอหญิงผู้นั้นออกมา รีบขึ้นไปยังด้านบนของภูเขาทัน
เสิ่นหรูลุกขึ้นมาจากพื้น จัดเตรียมทหารส่วนหนึ่งไว้ดูแลผู้บาดเจ็บ จากนั้นก็จัดทัพย่อยของทหารเกราะเงินขึ้นมา และตามขึ้นไปบนภูเขา
พวกเขาเดินทางมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะเข้าใกล้ภูเขาเม่า แต่ในตอนที่พวกเขาไปถึงที่นั่น ก็พบกับแผ่นดินที่ถล่มขวางทางไว้
ภายใต้โคลนอันอ่อนนุ่ม เลือดไหลซึมออกมาอย่างช้า ๆ และบนเลือดเหล่านั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงแววตาอันน่าตกใจของหรงเยี่ย
เขาก้าวเข้ามันไปด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม ชักดาบบนร่างกายของตนเองปักลงพื้น จากนั้นก็เข้าไปขุดโคลนเหล่านั้นด้วยมือเปล่า......
แผ่นโคลนถูกยกออกมาทีละชั้น มือที่ถือผ้าเช็ดหน้าปรากฏออกมาด้านหน้าของเขา เขารีบดึงผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นออกมาทันใด
ด้านล่างซ้ายของผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมีลวดลายของดอกไม้สามดอกปักอยู่
เขารีบน้ำผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นของตนเองออกมาเพื่อเปรียบเทียบ แม้ลวดลายของผ้าเช็ดหน้าสองผืนจะต่างกัน แต่ดอกไม้ที่ปักบนผ้าเช็ดหน้านั้นเหมือนกัน
หรงเยี่ยกำผ้าเช็ดหน้าแน่น รีบคุ้ยโคลนที่อยู่ตรงหน้าของเขาออกอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่พวกของเสิ่นหรูวิ่งเข้ามา ร่างกายของหรงเยี่ยก็เต็มไปด้วยโคลน
แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว รีบวิ่งไปช่วยหรงเยี่ยขุดโคลนเหล่านั้นออก ทหารเกราะเงินที่อยู่ด้านหลังเองก็เข้าไปช่วยเช่นกัน
ไม่นาน พวกเขาก็ขุดพบศพสามศพจากพื้นดินตรงนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...