ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 228

หรงเยี่ยลดสายตาของเขาลง มองผ้าเช็ดหน้าของไป๋ชิงหลิงในมือของเขา จากนั้นกล่าวออกมาว่า “จับตาดูหมอหลวงฮั่วและหมอหลวงจ้าวเอาไว้ รวมถึงคนใหม่ ๆ ที่เข้ามาอยู่ข้างกายเขา”

อิงกุยตะลึงงัน รู้สึกแปลกใจกับคำพูดถัดมาของหรงเยี่ย “นายท่านคิดว่าหมอหญิงไป๋จะเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างนั้นหรือ?”

“อ่า!” หรงเยี่ยมองตาเขา “เจ้ามีความชำนาญในวิชาเปลี่ยนรูปร่าง เจ้าน่าจะรู้ถึงวิธีการตามหานางดีที่สุด!”

“ขอรับ!” อิงกุยลุกขึ้นยืน กระโดดออกหายเข้าไปในป่าชั่วพริบตา

หรงเยี่ยยกผ้าเช็ดหน้าในมือของเขาขึ้นมา ใบหน้าอันหล่อเหลากระตุกเล็กน้อย แอบคิดในใจว่า “ไป๋ชิงหลิง เจ้าจะหนีไปเพื่ออะไร ข้าไม่เคยบอกว่าข้าไม่ต้องการเจ้า และไม่เคยบอกว่าต้องการผู้อื่นเป็นภรรยา แค่เจ้าไม่เคยเชื่อข้าเท่านั้น......”

เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมา นางพาลูกของเขาอีกคนตะลอนไปทั่วใต้หล้า

หัวใจของเขาก็เจ็บปวดราวกับถูกศรนับพันทิ่มแทง หากบอกว่าไม่เสียใจก็คงเป็นเรื่องโกหก

ในเวลานั้น มีเสียงสุนัขดังขึ้นมาจากด้านในของป่า

ทหารเกราะเงินที่อยู่ด้านหลังกล่าวออกมาว่า “ท่านอ๋องหรง คือซื่อจื่อน้อย”

เมื่อเสียงของทหารเกราะเงินเงียบลง เสียงของหรงจิ่งหลินก็ดังขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่ง “เสด็จพ่อ......”

หรงเยี่ยหันไปมองในทิศทางดังกล่าว อิงเหลียน อิงอู๋ อิงซาพาหรงจิ่งหลินและหมอเทวดาซูเข้ามาด้วยการนำทางของเสวี่ยหลาง

ในตอนที่เสวี่ยหลางเห็นหรงเยี่ย มันกระโดดขึ้นไปมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็กระโดดเข้ามาตรงแทบเท้าของหรงเยี่ย ส่วนอิงซาก็มาถึงพร้อมกับพร้อมกับหรงจิ่งหลินที่อยู่บนหลังของเขา

อิงเหลียนและอิงอู๋มาถึงเป็นที่สุดท้าย พร้อมกับอุ้มหมอเทวดาซูที่แทบหมดลมหายใจไว้

หรงจิ่งหลินกางแขนทั้งสองข้างของเขาออก จากนั้นตะโกนออกมาว่า “เสด็จพ่อ”

หรงเยี่ยยื่นมือออกไปรับหรงจิ่งหลินมาจากด้านหลัง ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เจ้ามาได้อย่างไร?”

“ข้ากลัวว่าท่านจะตามหาท่านแม่ไม่พบ” มือทั้งสองข้างกอดคอของหรงเยี่ยไว้ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาซบไปที่หัวไหล่ของหรงเยี่ย กล่าวออกมาด้วยดวงตาสีแดง “ข้าอยู่ในจวนอ๋อง เป็นห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ก่อนที่จะออกมาข้าได้ถามอาการของข้ากับหมอเทวดาซูเป็นอันเรียบร้อย หมอเทวดาซูกล่าวว่าหากตามหาท่านแม่พบจะทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้น ขอแค่กินยาตามเวลา สุขภาพของข้าก็จะดีขึ้นเอง เสด็จพ่อ ท่านตามหาท่านแม่พบแล้วหรือไม่?”

หรงเยี่ยหายใจติดขัด เขาวางฝ่ามือลงบนหลังของหรงจิ่งหลิน ลูบหลังหรงจิ่งหลินอย่างอ่อนโยนและกล่าวออกมาว่า “ใกล้แล้ว”

“เช่นนั้นก็แปลว่ายังหาไม่พบ” หรงจิ่งหลินเงยหน้าขึ้นมองเขาในทันใด “ใช่หรือไม่?”

หรงเยี่ยมองแววตาที่กลายเป็นสีแดงของเขา ทำให้นึกถึงแววตาของไป๋ชิงหลิงในตอนที่นางร้องไห้ แววตาทั้งสองข้างของเขาจึงกลายเป็นสีแดงอย่างไม่รู้ตัว

เขาโอบกอดลูกชายไว้ในอ้อมแขนด้วยความสงสาร ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาขยี้ตาและกล่าวว่า “ได้เบาะแสของนางมาแล้ว อีกไม่นานก็จะหานางพบ”

“เสด็จพ่อ พวกเราไปที่หุบเขาเซียนไหลกันเถอะ” ในตอนที่หรงจิ่งหลินเดินทางมา เขาได้ไตร่ตรองทุกอย่างไว้แล้ว เขาอยากจะไปดูที่หุบเขาเซียนไหล ไม่แน่ว่าแม่ของเขาอาจจะกลับไปที่นั่น

และไม่ใช่ว่าหรงเยี่ยไม่เคยนึกถึงหุบเขาเซียนไหล แต่หุบเขาเซียนไหล นั้นเต็มไปด้วยกับดัก เขาส่งองครักษ์อินทรีดำไปตามหา แต่ก็ไม่อาจทำได้แม้แต่แตะประตู แน่นอนว่ามันไม่อาจเข้าไปด้านในได้......

หรงจิ่งหลินเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรก็รู้ถึงสถานการณ์ของเขาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น