เขาไม่อยากให้เสวี่ยหลางตาย
“ตามไป อิงอู๋ตามไปกับข้า คนอื่นรออยู่ที่นี่” ทันทีที่หรงเยี่ยพูดจบ เสวี่ยหลางก็กระโดดออกมาจากป่า
ด้านหลังของมันมีแมวตามออกมาตัวหนึ่ง
มันเป็นแมวที่มีใบหน้าแห่งความเกียจคร้าน แสงสีเขียนในดวงตาของมันเป็นเหมือนแสงแห่งมรกต
หรงจิ่งหลินเห็นดวงตาสีเขียวแห่งความโกรธ เขาตะโกนออกมาด้วยความดีใจ “เป่าลี่ว์ นั่นมันเป่าลี่ว์!”
“เหมียว~” เป่าลี่ว์หยุดอยู่ตรงทางเข้าของป่าดอกท้อ หลังจากนั้นก็หมอบลงพื้นและร้องออกมาสองสามครั้ง
หรงจิ่งหลินรีบวิ่งเข้าไป นั่งลงอยู่ตรงหน้าของเป่าลี่ว์และกล่าวว่า “เป่าลี่ว์ น้องสาวอยู่ด้านในหรือไม่?”
“เหมียว!”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร แต่น้องสาวสามารถฟังสิ่งที่เจ้าพูดรู้เรื่อง เจ้ากลับไปบอกน้องสาว ข้ากับเสด็จพ่อมารอทางและท่านแม่อยู่ด้านหน้าหุบเขาเซียนไหล ทำให้นางเปิดประตูให้พวกข้าหน่อย”
เสวี่ยหลางวิ่งวนไปรอบ ๆ เป่าลี่ว์ ดมขนบนร่างกายของเป่าลี่ว์เป็นครั้งคราว
เป่าลี่ว์ยกตีนแมวขึ้นด้วยความขยะแขยง ผลักจมูกของสุนัขอย่างเสวี่ยหลางออกไป ลุกขึ้นยืน ส่งเสียงร้องยาว ๆ ให้หรงจิ่งหลิน “เหมียว” กระโดดเข้าไปในป่าดอกท้อ และหายเข้าไปในป่าดอกท้อในชั่วพริบตา
และในตอนที่เป่าลี่ว์จากไป เสวี่ยหลางก็กระโดดเข้าไปในป่าทันที
หรงจิ่งหลินคิดจะตามเข้าไป แต่ถูกอิงอู๋ห้ามเอาไว้ “ซื่อจื่อน้อย ค่ายกลนี้มีผลกับมนุษย์เท่านั้น ไม่มีผลกับเสวี่ยหลางและเป่าลี่ว์ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงเสวี่ยหลาง”
หรงจิ่งหลินยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองทิศทางที่เสวี่ยหลางและเป่าลี่ว์หายไป หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล......
ไม่รู้ว่าท่านแม่อยู่ในหุบเขาเซียนไหลหรือไม่ ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเปิดทางตันของหุบเขาเซียนไหลได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่า......
สรุปก็คือ เวลานี้เขาตื่นตระหนกและกังวลเป็นอย่างมาก
อีกด้านหนึ่ง เป่าลี่ว์เข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ในหุบเขาเซียนไหล วิ่งตรงเข้าไปในป่าไม้สีเขียว และได้พบกับไป๋ชงเซิง......
“เป่าลี่ว์ เจ้าไปไหนมา ข้าตามหาเจ้าไปทั่วแล้ว” ไป๋ชงเซิงเห็นมันกำลังวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว นางอุ้มเป่าลี่ว์ขึ้นมาในอ้อมแขน จากนั้นก็หมุนไปรอบ ๆ
เป่าลี่ว์หรี่ตาทั้งสองข้าง และก่อนความวุ่นวายให้นาง
รอให้ไป๋ชงเซิงกอดและล้มไปกับพื้นพร้อมกับมัน เป่าลี่ว์ก็กระโดดออกจากอ้อมแขนของนางไปยังพื้นที่ว่างด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็กระโดดเข้ามาด้านหน้าของไป๋ชงเซิงอีกครั้ง พร้อมกับส่งเสียงออกมาว่า “เหมียว เหมียว เหมียว”
ร่างกายของไป๋ชงเซิงแข็งทื่อ เงยหน้าขึ้นมองเป่าลี่ว์อย่างรวดเร็ว “เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”
“เหมียว เหมียว~”
“เจ้าผีน้อยหรงจิ่งหลินมาแล้วอย่างนั้นหรือ แถมยังพาเสวี่ยหลางมาด้วย” ไป๋ชงเซิงนั่งลงพื้น จากนั้นก็ถามออกมาด้วยความตกใจ “พวกเขาอยู่ด้านนอกอย่างนั้นหรือ?”
“เหมียว~”
“พระเจ้า หรงจิ่งหลินเพียงคนเดียวจะมาที่นี่ได้อย่างไร ข้าต้องไปรายงานท่านแม่” ไป๋ชงเซิงลุกขึ้นยืน ในตอนที่กำลังไปหาแม่ของตนเอง จู่ ๆ นางก็นึกถึงคำพูดที่ไป๋ชิงหลิงพูดกับนางไว้เมื่อไม่นานมานี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...