บทที่ 239 วางแผนจัดการเนี่ยเสี่ยวชิง(สอง) – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 239 วางแผนจัดการเนี่ยเสี่ยวชิง(สอง) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เนี่ยเสี่ยวชิงกลับมามีสติในทันทีและมองไปที่ฮองเฮาอู๋ด้วยความประหลาดใจ
ทันใดนั้นสาวใช้ที่เฝ้าประตูตำหนักก็ปิดประตูตำหนักเฟิ่งหลวนทันที
เนี่ยเสี่ยวชิงหันกลับไปจ้องมองที่ประตูของตำหนักและถามอย่างงงงวยว่า"เหนียงเหนียง นี่ท่านกำลังทำอะไร?"
ในเวลานี้แม่นมหยางก็ยืนขึ้น"มาเถิด พาองค์หญิงเสี่ยวชิงไปตรวจร่างกาย"
"พวกเจ้ากำลังทำอะไร?" เนี่ยเสี่ยวชิงตกใจ และในที่สุดนางก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางหันศีรษะไปมองแม่นมที่อยู่รอบๆและพูดอย่างดุร้าย"ฮองเฮา ข้ามาทักทายแสดงความเคารพต่อท่านทุกวันและข้าจะรายงานไทเฮาทุกครั้ง หากใช้เวลานานและข้าไม่ได้กลับไปที่ตำหนักฮุ่ยหนิง ไทเฮาจะส่งคนมาตามหาข้า หากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้าที่นี่ ข้าเกรงว่าฮองเฮาคงจะเกิดเรื่องวุ่นวาย"
"เพี๊ยะ!"
แม่นมหยางเดินไปตบหน้าเนี่ยเสี่ยวชิงอย่างแรง
เนี่ยเสี่ยวชิงเซถอยหลังไปสองสามก้าว ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจและประหลาดใจ"เจ้ากล้าตบข้ารึ"
"องค์หญิงเสี่ยวชิง ฝ่าบาทแต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้าหญิงเพียงเพราะสงสารเจ้า คนที่ไม่มีแม้แต่จวนเจ้าหญิงอย่างท่าน ต่อหน้ายังกล้าที่จะไม่เคารพฮองเฮา ท่านยังคิดว่าตนเองเป็นแม่แท้ๆผู้ให้กำเนิดจิ่งซื่อจื่ออยู่อีกหรือ"
"นังทาสคนนี้นี่....."เนี่ยเสี่ยวชิงพุ่งตัวไปหาแม่นมหยาง แต่แม่นมคนอื่นที่อยู่รอบตัวนางคว้าแขนของนางไว้ก่อนแล้วกดนางลงกับพื้นอย่างแรง
เนี่ยเสี่ยวชิงกรีดร้อง"ฮองเฮา ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอะไร ถ้าจิ่งหลินเห็นท่านทำร้ายแม่ของเขาเช่นนี้......"
"เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจิ่งหลินหรอก ตราบใดที่เยี่ยเอ๋อร์ ก็สามารถเป็นแม่ของจิ่งหลินได้ ส่วนเจ้า....หุบปากซะ"ฮองเฮาอู๋หยิบชาขี้นมา ชำเลืองมองไปที่เนี่ยเสี่ยวชิงด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อนางพูดถึงเรื่องหลัง นางก็กระแทกถ้วยชาในมือลงกับพื้น
ยืนขึ้นแล้วเดินไปด้านหน้าของเนี่ยเสี่ยวชิง มองลงมาที่นางอย่างสุภาพ:"ตรวจร่างกายของนางอย่างระมัดระวัง อย่าให้พลาดอะไรไป!"
เนี่ยเสี่ยวชิงจ้องมอง
เสื้อผ้าบนร่างกายนางถูกฉีกโดยแม่นม
อิงเหลียนรีบเดินเข้ามาจากนอกตำหนักมาหาฮองเฮาอู๋และพูดว่า"ฮองเฮา ท่านอ๋องหรงกลับเมืองหลวงแล้ว และขอให้ท่านพาองค์หญิงเสี่ยวชิงกลับไปรอที่ตำหนักฮุ่ยหนิง!"
"ได้"ฮองเฮาอู๋จัดเตรียมทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบในขณะที่ก็ควบคุมความตื่นเต้นของนางไปด้วย
ไป๋ชิงหลิงไม่รู้ว่าหรงเยี่ยได้วางแผนทุกอย่างไว้สำหรับนางและลูกทั้งสองไว้แล้ว
นางสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่ในรถม้า กำชุดสีแดงของนางอย่างประหม่า จ้องมองไปด้านหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า
หรงเยี่ยมองลงมาที่นาง วางฝ่ามือลงบนหลังมือของไป๋ชิงหลิง แยกนิ้วที่กำแน่นของนางออกอย่างเบามือและประสานมือเข้ากับนาง
นางกลับมามีสติและมองไปที่เขา
"พวกเราเข้าเมืองแล้ว"ไป๋ชิงหลิงพูด
หรงเยี่ยพยักหน้าและส่งเสียงเบาๆ"อืม เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?"
นางหลุบตาลง อารมณ์ที่ซับซ้อนทุกอย่างพันอยู่ในใจนาง
เขายกมือนางขึ้นมาวางบนริมฝีปากและจูบเบาๆ"เจ้ากำลังคิดใช่ไหมว่าจะเผชิญหน้ากับเสด็จย่าอย่างไร?"
เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ นางก็หันกลับมามองเขาอีกครั้งและพยักหน้าด้วยใจที่หนักอึ้ง"ท่านจะต้อง.....ไม่ชอบที่ข้าเป็นแบบนี้ ท่านจะต้องผิดหวังในตัวข้ามาก ข้า......"
จักรพรรดิเหยาดุอย่างไม่พอใจ"ฮองเฮา ท่านเรียกใต้เท้าและนางสนมทุกคนมาที่ตำหนักฮุ่ยหนิง ท่านวางแผนจะทำอะไรกันแน่?"
ฮองเฮาอู๋มองออกไปข้างนอก รู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหรงเยี่ยยังไม่กลับมา นางจึงกล่าวด้วยความรู้สึกผิดว่า "ฝ่าบาท โปรดรออีกหน่อย"
พระสนมเอกหรงเหลือบมองไปที่ฮองเฮาอู๋อย่างเย็นชาแล้วพูดจาแปลกๆว่า"หมอหลวงบอกว่าพระวรกายของเสด็จแม่ไม่สามารถทนต่อความทรมานได้ จำเป็นต้องพักผ่อนให้ดี หากท่านพี่ฮองเฮามีเรื่องอันใด เหตุใดถึงไม่ไปพูดที่ตำหนักเฉียนชิง"
เมื่อสนมเหอได้ยินคำพูดของพระสนมเอกหรง นางก็พูดขึ้นเช่นกัน"ท่านพี่ฮองเฮาคงมีเรื่องใหญ่อะไรที่ต้องพูดที่ตำหนักฮุ่ยหนิง ใช่แล้ว เหตุใดถึงไม่เห็นองค์หญิงเสี่ยวชิงเลยล่ะ หรือว่าเรื่องน่ายินดีระหว่างองค์หญิงเสี่ยวชิงกับท่านอ๋องหรงกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว"
สนมเต๋อหรี่ตาแล้วพูดว่า"เรื่องที่ท่านอ๋องหรงกับหมอปีศาจแต่งงานกันวันนี้ ท่านพี่ทุกคนได้ยินเรื่องนี้แล้วหรือยัง?"
นางซึ่งเป็นคนที่มาพร้อมกับเด็กๆในตำหนักจิ่งหลิวเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เหนียงเหนียงทุกคนจะไม่รู้
ในเมื่อรู้แล้ว มันเป็นความตั้งใจที่จะบอกฝ่าบาทและไทเฮาเหนียงเหนียงเหล่านี้คงกลัวว่ามันจะไม่ยุ่งเหยิงพอ
จักรพรรดิเหยาเหลือบมองฮองเฮาอู๋อย่างหงุดหงิดและตะโกนอย่างเคร่งขรึม"ฮองเฮา ท่านอุกอาจเกินไป ข้า....."
"ฝ่าบาท ไทเฮา ท่านอ๋องหรงกลับตำหนักแล้ว!"ทันใดนั้นฟางกงกงก็เดินเข้ามาจากนอกวัง และพูดเสียงดังว่า"ท่านอ๋องหรงยังสวม.....สวม....."
"สวมอะไร?"จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วอย่างกระวนกระวายใจ
ฟางกงกงกำลังจะเปิดปากตอบกลับ เมื่อทุกคนเห็นชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวนอกประตูวัง
ท่านอ๋องหรงสวมชุดแต่งงานและจูงมือเจ้าสาวเข้าไปในห้องโถงด้านใน
และสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เจ้าสาว ผ้าคลุมสีแดงบนศีรษะของนางปกปิดใบหน้าที่แท้จริงของนาง และไม่สามารถบอกได้ว่านางเป็นใคร......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...